'ซินเคอหยวน' ฟ้อง 'เอกนัฏ-BOI' 3.2 พันล้าน พร้อมขอเปิดโรงงานต่อ

'ซินเคอหยวน' ฟ้อง 'เอกนัฏ-BOI' 3.2 พันล้าน พร้อมขอเปิดโรงงานต่อ

“ซิน เคอ หยวน สตีล” ฟ้องศาลปกครองระยอง เอาผิด "เอกนัฏ" พร้อมด้วยกรมโรงงาน-บีโอไอ เรียกค่าเสียหายกว่า 3.2 พันล้าน ขอคุ้มครองชั่วคราวเปิดโรงงานเดินเครื่องต่อ

กรณีพิพาทระหว่างบริษัท ซิน เคอ หยวน สตีล จำกัด กับหน่วยงานรัฐ จุดเริ่มต้นจากคำสั่งของ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ สมัยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม มีการสั่งให้ กรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) ออกคำสั่งปิดโรงงานเหล็กของซินเคอหยวนชั่วคราว

สาเหตุสำคัญมาจากข้อร้องเรียนของประชาชนและองค์กรท้องถิ่นที่อ้างว่าโรงงานดังกล่าวอาจก่อผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชนรอบข้าง ทั้งในด้านมลพิษทางอากาศ เสียง และความปลอดภัยในการประกอบกิจการอุตสาหกรรม ซึ่งนำไปสู่การตรวจสอบของหน่วยงานรัฐและตามมาด้วยคำสั่งให้บริษัทหยุดดำเนินการ พร้อมทั้งอายัดสินค้าเหล็กในสต๊อกเอาไว้

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทำให้ซินเคอหยวน กลายเป็นประเด็นใหญ่ยิ่งขึ้น ก็คือการที่ เหล็กที่ผลิตเคยถูกพาดพิงว่าเป็น หนึ่งในวัสดุที่ใช้ก่อสร้างอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ซึ่งเกิดเหตุโครงสร้างถล่มเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา และสร้างแรงสั่นสะเทือนต่อความเชื่อมั่นด้านมาตรฐานวัสดุก่อสร้างในประเทศ

แม้ภายหลังจะมีการถกเถียงว่าอุบัติเหตุถล่มเกิดจากหลายปัจจัยผสมผสาน ทั้งการออกแบบโครงสร้าง และคุณภาพวัสดุ แต่ซินเคอหยวนก็ถูกจับตามองในแง่คุณภาพเหล็กและการกำกับดูแลของหน่วยงานรัฐมาอย่างต่อเนื่อง จนนำไปสู่การสั่งปิดโรงงานล่าสุดด้วย

รายงานข่าวระบุว่า เมื่อวันที่ 19 กันยายนที่ผ่านมา บริษัท ซิน เคอ หยวน สตีล จำกัด ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมเหล็ก ได้ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองระยอง กรณีกรมโรงงานอุตสาหกรรมมีคำสั่งให้บริษัทหยุดประกอบกิจการโรงงานเหล็กทั้งหมด และมีคำสั่งอายัดสินค้าเหล็กของบริษัทฯ

โดยบริษัทฯ (ผู้ฟ้องคดี) ได้ยื่นฟ้องนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ กับพวกรวม 16 คน (ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1–16) เพื่อขอให้ศาลมีคำสั่งหรือคำพิพากษาเพิกถอนคำสั่งของกรมโรงงานอุตสาหกรรมดังกล่าว พร้อมทั้งขอให้ศาลบังคับให้ผู้ถูกฟ้องคดีทั้ง 16 คนร่วมกันชำระค่าเสียหายแก่บริษัทฯ เป็นเงินรวมทั้งสิ้น 3,218,288,376.22 บาท แบ่งเป็น ค่าสูญเสียรายได้และค่าขาดประโยชน์จากการประกอบธุรกิจ 3,141 ล้านบาท และค่าจ้างพนักงานระหว่างหยุดกิจการ 77.28 ล้านบาท รวมถึงดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 5 ต่อปีจากต้นเงินค่าเสียหายทั้งหมดจนกว่าจะชำระเสร็จสิ้น

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่ง คุ้มครองชั่วคราว ระหว่างการพิจารณาคดี เพื่อทุเลาการบังคับตามคำสั่งทางปกครองดังกล่าว และอนุญาตให้บริษัทฯ สามารถกลับมาดำเนินกิจการโรงงานตามปกติได้ จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาถึงที่สุด

ขณะเดียวกัน ในวันเดียวกัน (19 ก.ย.) บริษัท ซิน เคอ หยวน สตีล จำกัด ยังได้ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองระยองอีกคดีหนึ่ง โดยฟ้องสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เป็นผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการบีโอไอ เป็นผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 และนายนฤชา ฤชุพันธุ์ เป็นผู้ถูกฟ้องคดีที่ 3

พร้อมกันนี้ ซินเคอหยวน ยังได้ขอให้ศาลเพิกถอนคำสั่งของบีโอไอที่สั่งเพิกถอนสิทธิและประโยชน์การลงทุนของบริษัทเป็นการชั่วคราว พร้อมทั้งยื่นคำร้องให้ศาลมีคำสั่ง ทุเลาการบังคับตามคำสั่งทางปกครอง เพื่อให้บริษัทฯ ยังคงมีสิทธิและประโยชน์ตามเดิมได้ต่อไปในระหว่างการพิจารณาคดี จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาถึงที่สุด