ซอฟต์พาวเวอร์สงครามภาพลักษณ์ ‘ไทย-กัมพูชา’ ในสายตาชาวโลก

ซอฟต์พาวเวอร์สงครามภาพลักษณ์ ‘ไทย-กัมพูชา’ ในสายตาชาวโลก

ตอนนี้ข่าวคราวกัมพูชาที่ปรากฏอยู่ในสื่อโลกไม่ได้เป็นเรื่องของความขัดแย้งชายแดนกับประเทศไทยอีกต่อไปแล้ว แต่เป็นเรื่องของศูนย์สแกมเมอร์ในประเทศที่สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนทั่วโลก จนนานาชาติต้องร่วมมือกันจัดการ

    เริ่มต้นจากสหรัฐ-อังกฤษปฏิบัติการร่วมครั้งใหญ่ ปราบเครือข่ายอาชญากรรมไซเบอร์ “Prince Group” ในกัมพูชา คว่ำบาตร 146 เป้าหมาย พร้อมตัด “Huione Group” ออกจากระบบการเงินสหรัฐ หลังพบฟอกเงินกว่า 4 พันล้านดอลลาร์ 
    สำนักงานควบคุมทรัพย์สินต่างประเทศ (OFAC) และเครือข่ายบังคับใช้กฎหมายอาชญากรรมทางการเงิน (FinCEN) ของกระทรวงการคลังสหรัฐ ได้ประสานงานอย่างใกล้ชิดกับสำนักงานต่างประเทศ เครือจักรภพ และการพัฒนา (FCDO) ของสหราชอาณาจักร ดำเนินการต่อต้านเครือข่ายอาชญากรที่มุ่งเป้าไปยังพลเมืองสหรัฐ และพลเมืองของประเทศพันธมิตรอื่นๆ ผ่านการหลอกลวงทางออนไลน์และการฟอกเงิน

    ความเคลื่อนไหวครั้งสำคัญต้องยกให้ เกาหลีใต้ ส่งทีมงานผสมหลายหน่วยงานตั้งแต่กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงยุติธรรม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหน่วยข่าวกรอง เดินทางมาถึงกรุงพนมเปญเมื่อกลางดึกวันพุธ (15 ต.ค.) หลังเกิดเหตุนักศึกษาชาวเกาหลีใต้คนหนึ่งเสียชีวิต เขาคนนี้ถูกหลอกมาทำงานด้วยค่าจ้างก้อนโตแต่สุดท้ายถูกซ้อมทรมานจนต้องจบชีวิตถือเป็นชะตากรรมที่น่าเศร้า ทีมงานเกาหลีใต้จึงต้องเดินทางมาหาคำตอบพร้อมช่วยเหลือพลเมืองของตนอีกหลายสิบคนที่ถูกจับกุมคุมขังอยู่ในกัมพูชา

    ขณะที่สถานเอกอัครราชทูตอังกฤษประจำประเทศไทยเผยแพร่แถลงการณ์จากกระทรวงการต่างประเทศสหราชอาณาจักรเรื่องการประสานงานกับสหรัฐคว่ำบาตรเครือข่ายระดับโลกมูลค่าหลายพันล้านปอนด์ ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานศูนย์หลอกลวงซึ่งทรมานแรงงานที่ถูกค้ามนุษย์ แถลงการณ์ไม่ได้ระบุชื่อประเทศ กล่าวเพียงว่า “ศูนย์หลอกลวงที่ตั้งอยู่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ทำการหลอกลวงเหยื่อทั่วโลกในระดับอุตสาหกรรม” ได้ยินเพียงแค่นี้คงนึกไปเป็นอื่นไม่ได้ นี่เป็นเรื่องของภาพลักษณ์ประเทศ ซึ่งเป็นคำตอบได้ดีว่าทำไมไทยต้องเคารพกติกา เคารพกฎหมายระหว่างประเทศ

    ข่าวคราวเหล่านี้เกิดขึ้นในช่วงที่จะมีการประชุมสำคัญเกิดขึ้นในเอเชีย ได้แก่ การประชุมผู้นำอาเซียนและการประชุมที่เกี่ยวข้อง ระหว่างวันที่ 26-28 ต.ค. ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ของมาเลเซีย โดยมีข่าวว่าทรัมป์จะเป็นพยานในพิธีลงนามสันติภาพไทย-กัมพูชา อีกหนึ่งงานคือการประชุมผู้นำเอเปคที่กรุงโซล เกาหลีใต้ ซึ่งประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ มีกำหนดเยือนระหว่างวันที่ 29-30 ต.ค. ทรัมป์นั้นไม่ค่อยจะเดินทางมาเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มากนัก การเยือนรอบนี้จึงเป็นที่จับตาของสื่อเท่ากับว่าไทย-กัมพูชาจะเข้าไปอยู่ในโฟกัสของโลก ตอนนี้ไม่มีเหตุปะทะชายแดนก็จริง แต่สงครามที่จะเกิดขึ้นคือสงครามภาพลักษณ์ เพราะฉะนั้นตอนนี้ทุกคนต้องช่วยกันอย่าทำให้ภาพของประเทศเสียหาย นี่คือสิ่งที่เรียกว่าซอฟต์พาวเวอร์!