'บสย.' ปลดล็อกค้ำประกันสินเชื่อกลุ่มลีสซิ่ง-นาโนไฟแนนซ์

นายสิทธิกร ดิเรกสุนทร กรรมการและผู้จัดการทั่วไปบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) กล่าวว่า ตามประกาศกระทรวงการคลังฉบับใหม่ ปลดล็อกและขยายขอบเขตการ ค้ำประกันสินเชื่อ สู่ผู้ให้บริการสินเชื่อที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน หรือ กลุ่ม Non-Bank โดยเฉพาะกลุ่ม "ลีสซิ่ง" และ "นาโนไฟแนนซ์" ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนี้มีเป้าหมายหลักในการช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อย (Micro SMEs) และ อาชีพอิสระ ทั่วประเทศ ให้สามารถเข้าถึง สินเชื่อในระบบ โดยเฉพาะการซื้อ รถกระบะ เพื่อใช้เป็นเครื่องมือทำกินได้สะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น

ซึ่งการแก้ไขประกาศครั้งนี้ถือเป็นการเปิดประตูให้ Micro SMEs และ อาชีพอิสระ มีทางเลือกในการกู้เงินในระบบมากขึ้น โดยใช้กลไก Credit Guarantee ของ บสย. เป็นตัวช่วยสำคัญ ซึ่งจะช่วย ลดภาระดอกเบี้ยสูง จากเงินกู้นอกระบบ และสร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจฐานรากของประเทศ

ทั้งนี้ คณะกรรมการ บสย. ได้อนุมัติหลักเกณฑ์การค้ำประกันสินเชื่อสำหรับ Non-Bank ใน ระยะแรก โดยแบ่งเป็น 2 กลุ่มหลัก ได้แก่ 

1. กลุ่มนาโนไฟแนนซ์ มุ่งเน้นไปที่ผู้ประกอบการสินเชื่อรายย่อยเพื่อการประกอบอาชีพ (ภายใต้การกำกับของ ธปท.) มีทุนจดทะเบียนขั้นต่ำ 100 ล้านบาท และมีอายุกิจการไม่ต่ำกว่า 3 ปี ช่วยกระจายโอกาสการเข้าถึงเงินทุนแก่รายย่อยที่ต้องการเงินทุนหมุนเวียน

2. กลุ่มลีสซิ่ง หรือสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ เน้นผู้ให้บริการเช่าซื้อที่มีสัดส่วนการให้สินเชื่อสำหรับ รถกระบะเพื่อการพาณิชย์ สูงถึง 60% เช่น ลีสซิ่งของบริษัทรถยนต์ และลีสซิ่ง Non-Bank ต้องมีทุนจดทะเบียน 500 ล้านบาทขึ้นไป และอายุกิจการไม่ต่ำกว่า 5 ปี โดยปลดล็อกให้ SMEs สามารถเข้าถึง รถกระบะทำกิน ได้ครอบคลุมไม่ต่ำกว่า 80% ของตลาด

นอกจากนี้ เพื่อตอบโจทย์ผู้ประกอบการที่ต้องการซื้อรถกระบะ บสย. ได้เตรียมพร้อมทำงานร่วมกับผู้ให้บริการเช่าซื้อรถยนต์ โดยเฉพาะสมาชิกของสมาคมธุรกิจเช่าซื้อไทย ผ่านมาตรการ: “กระบะพี่ มีคลังค้ำ” เริ่มรับคำขอตั้งแต่ 15 ต.ค.-30 ธ..ค.2568

ทั้งนี้ จากการหารือเบื้องต้น พบว่ามีผู้ให้บริการเช่าซื้อที่เข้าคุณสมบัติในระยะแรกถึง 12 ราย ซึ่ง บสย. จะดำเนินการทำข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) เพื่อเริ่มให้บริการ ค้ำประกันสินเชื่อเช่าซื้อรถกระบะ ทันที สำหรับSMEs ที่สนใจ ในการใช้บริการค้ำประกันสินเชื่อผ่านผู้ให้บริการ นาโนไฟแนนซ์ สามารถติดตามรายละเอียดการทำ MOU ที่จะเกิดขึ้นในลำดับถัดไป