BTS - BEM หนุนรัฐบาลใหม่ ลดค่าโดยสารรถไฟฟ้า 'ลดค่าครองชีพ'

การก้าวเข้ามารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล มีแผนนโยบายเร่งด่วนที่ตอบโจทย์ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน โดยประกาศมุ่งเดินหน้าโรดแมปเศรษฐกิจ 3 แกนหลัก ได้แก่ 

1.ลดรายจ่าย ค่าครองชีพ พลังงาน เดินทางและค่าขนส่ง

2.แก้หนี้สิน เกษตรกร และผู้มีรายได้น้อย เพิ่มโอกาสเข้าถึงสินเชื่อ

3.เพิ่มรายได้ฐานราก ผ่านการพัฒนาชุมชน การท่องเที่ยว และการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล

สำหรับ นโยบายการลดค่าครองชีพที่จะลดค่าเดินทาง โดยในรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ได้ผลักดันนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาท ตลอดสาย ถูกนำมาใช้เป็นมาตรการสำคัญเพื่อบรรเทาภาระของประชาชน ซึ่งที่ผ่านมาได้รับสัญญาณเชิงบวกจากผู้ให้บริการรถไฟฟ้าเอกชนทั้ง 2 รายที่แสดงความพร้อมในการผลักดันนโยบายให้เป็นจริง สะท้อนถึงความร่วมมือของภาครัฐและเอกชน

ในขณะที่รัฐบาลนายอนุทิน อยู่ระหว่างการตรวจสอบคุณสมบัติผู้ที่จะมาเป็นรัฐมนตรี รวมถึงอยู่ระหว่างการเตรียมร่างนโยบายรัฐบาลที่จะแถลงต่อสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งอาจมีการปรับรูปแบบการลดค่าโดยสารรถไฟฟ้าของรัฐบาลพรรคเพื่อไทย

นายสมบัติ กิจจาลักษณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทางด่วน และรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM กล่าวว่า ตามที่มีข่าวการดำเนินนโยบาย 20 บาท อาจจะได้รับผลกระทบหลังการเปลี่ยนแปลงรัฐบาล 

อย่างไรก็ตาม ไม่ส่งผลกระทบต่อรายได้ของบริษัท เนื่องจากปัจจุบันรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินมีผู้โดยสารเฉลี่ยในวันทำงานมากกว่า 5 แสนเที่ยวต่อวัน (ข้อมูลเดือนส.ค.พบว่ามีจำนวนเฉลี่ย 5.2 แสนเที่ยวต่อวัน สูงขึ้นถึง 7% เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยเดือนก.ค.ที่ผ่านมา)

หลังจากนั้นจะเพิ่มมากขึ้นเนื่องจากมีการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ใหม่ๆ รายรอบเส้นทาง รวมถึงโครงข่ายรถไฟฟ้าสายต่างๆ ที่จะทยอยเปิดให้บริการเพิ่มขึ้นในอนาคต อาทิ โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มส่วนตะวันออกที่งานโยธาเสร็จเรียบร้อยแล้ว 

พร้อมเปิดให้บริการในอีก 2 ปีข้างหน้า และส่วนตะวันตกที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง ก็จะส่งผลให้ประชาชนเดินทางเข้าเมืองได้สะดวกมากขึ้น โดยจะเข้ามาเชื่อมต่อที่สายสีน้ำเงิน อย่างไรก็ตาม BEM พร้อมตอบรับภาครัฐทันทีหากนโยบาย 20 บาทจะเดินหน้าต่อ

ทั้งนี้ ในช่วงที่ผ่านมา BEM ได้สร้างการรับรู้ และกระตุ้นให้ผู้โดยสารใช้บัตร EMV ในการชำระค่าโดยสาร เพื่อให้เหมาะกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่ต้องการความสะดวก รวดเร็วในการชำระค่าบริการ ตลอดจนการเพิ่มช่องทางพิเศษ Fast Track สำหรับบัตร EMV โดยเฉพาะในสถานีที่มีผู้โดยสารใช้บริการเป็นจำนวนมาก อาทิ สถานีสุขุมวิท สถานีลุมพินี เป็นต้น

อย่างไรก็ดี จากแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่องของผู้โดยสารเช่นนี้ ทำให้ BEM มั่นใจว่า ไม่ว่านโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายจะเกิดหรือไม่นั้น ไม่ส่งผลกระทบต่อรายได้ของบริษัทในระยะยาว และเมื่อพิจารณาภาพรวมการเติบโตของผลประกอบการกลุ่มธุรกิจทางพิเศษ และธุรกิจพัฒนาเชิงพาณิชย์แล้ว บริษัทจะยังคงเดินหน้าสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน

รายงานข่าวจาก บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS เปิดเผยว่า นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทนั้น หากรัฐบาลจะสานต่อนโยบายนี้ บีทีเอสก็พร้อมสนับสนุน เพราะถือเป็นนโยบายที่ช่วยลดค่าครองชีพให้ประชาชน และจะช่วยดึงให้ประชาชนเข้ามาใช้ระบบขนส่งมวลชนเพิ่มมากขึ้น 

แต่ทั้งนี้หากรัฐบาลใหม่จะไม่สานต่อนโยบายดังกล่าว บีทีเอสก็ยืนยันว่าไม่ได้เป็นผลกระทบต่อภาพรวมรายได้ เพราะปัจจุบันผู้โดยสารก็ยังคงใช้บริการตามปกติ

รวมทั้งช่วงที่ผ่านมา บีทีเอสก็สนับสนุนนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทมาตลอด เตรียมพร้อมในการลงทะเบียน และพัฒนาระบบจัดเก็บรายได้มารองรับ หากนโยบายนี้เดินหน้าก็เชื่อว่าจะเป็นประโยชน์กับประชาชน แต่หากไม่เดินหน้าต่อก็ไม่ได้เป็นผลกระทบอะไร 

และปัจจุบันก็ต้องยอมรับว่าการพัฒนาจ่ายค่าโดยสารของระบบขนส่งมวลชนทั่วโลก พัฒนาไปมากกว่าการแตะจ่ายด้วยบัตร แต่อาจเป็นการลงทะเบียนช่องทางชำระเงิน และจ่ายด้วยคิวอาร์โค้ดไปจนถึงการสแกนม่านตา

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รักษาการรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายในงานอำลาตำแหน่ง โดยระบุว่า ภาพรวมการทำงานช่วง 2 ปีที่ผ่านมา มองว่าหนึ่งในผลงานที่เป็นเรือธง และเดินหน้าได้ คือ นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายซึ่งในช่วงที่ผ่านมาได้เริ่มนำร่องนโยบายกับโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง และรถไฟฟ้าสายสีแดงอีกทั้งปัจจุบันยังผลักดันกฎหมายแล้วเสร็จ

นอกจากนี้ ยังมองว่าผลงานสำคัญที่สามารถทำให้ประชาชนได้ คือ การสร้างโครงข่ายคมนาคมที่สะดวก และปลอดภัย ขยายช่องจราจรเพื่ออำนวยความสะดวกประชาชนทั่วประเทศ การพัฒนาโครงข่ายระบบรางทั่วประเทศ เพื่อช่วยลดต้นทุนโลจิสติกส์ของประเทศ และการปรับปรุงแก้ไขปัญหาคิวยาวที่สนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งเป็นปัญหามานาน กระทบการท่องเที่ยวของประเทศ

รายงานข่าวจากกระทรวงคมนาคม ระบุว่า กระทรวงคมนาคม ได้เปิดให้ประชาชนลงทะเบียนโครงการรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ตั้งแต่วันที่ 25 ส.ค.2568 โดยยอดจำนวนลงทะเบียนยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยลงทะเบียนผ่านระบบแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” ซึ่งจะต้องยืนยันตัวตนในบัตร EMV ของธนาคาร

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์   ศิลาวงษ์