ราคาน้ำมันดิบ ร่วงลงแรงสัปดาห์นี้ คาดอุปทานเพิ่ม กังวลน้ำมันล้น

รอยเตอร์ รายงานว่า ราคาน้ำมันดิบ ปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นวันที่สามในวันศุกร์ (5 ก.ย. 68) ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบลดลงเป็นครั้งแรกในรอบสามสัปดาห์ เนื่องจากคาดการณ์ว่าอุปทานจะเพิ่มขึ้น และปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้นอย่างไม่คาดคิด ยิ่งตอกย้ำความกังวลเกี่ยวกับอุปสงค์ หรือความต้องการใช้น้ำมัน

 

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานเมื่อวันพุธว่า สมาชิก 8 ประเทศของกลุ่มโอเปกพลัส จะพิจารณาเพิ่มกำลังการผลิตในการประชุมวันอาทิตย์นี้ ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 2.4 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่ผ่านมา แทนที่จะลดลงตามที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้

ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ ล่วงหน้าร่วงลง 1.49 ดอลลาร์ หรือ 2.22% ปิดที่ 65.50 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ขณะที่ ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส อินเตอร์มีเดียตสหรัฐฯ (WTI)  ลดลง 1.61 ดอลลาร์ หรือ 2.54% ปิดที่ 61.87 ดอลลาร์

 

“มีข่าวและสัญญาณที่บ่งชี้มากขึ้นเกี่ยวกับอนาคตที่อุปทานน้ำมันไม่น่าจะเป็นปัญหา” จอห์น อีแวนส์ จาก PVM โบรกเกอร์น้ำมันกล่าว

 

ตลอดทั้งสัปดาห์นี้ ราคาน้ำมันเบรนท์ร่วงลงเกือบ 4% และ WTI ลดลงมากกว่า 3%

คาดโอเปกพลัสเพิ่มการผลิตอีกรอบ

มีการคาดการณ์มากขึ้นว่าองค์กรร่วมประเทศผู้ผลิตน้ำมันเพื่อการส่งออก (โอเปก) และพันธมิตรอย่างรัสเซีย ซึ่งเรียกรวมกันว่าโอเปกพลัส (OPEC+) จะผลักดันปริมาณการผลิตน้ำมันดิบเข้าสู่ตลาดมากขึ้น เพื่อทวงคืนส่วนแบ่งตลาดในการประชุมวันอาทิตย์นี้

 

แรงกดดันตลาดอีกประการหนึ่งคือ OPEC+ ซึ่งผลิตน้ำมันดิบประมาณครึ่งหนึ่งของโลก จะทยอยยกเลิกมาตรการลดกำลังการผลิตรอบที่สองประมาณ 1.65 ล้านบาร์เรลต่อวัน หรือ 1.6% ของความต้องการน้ำมันดิบทั่วโลก เร็วกว่ากำหนดกว่าหนึ่งปี

 

“หาก 8 ประเทศสมาชิก OPEC+ ตกลงที่จะเพิ่มกำลังการผลิตอีกครั้ง เราเชื่อว่าสิ่งนี้จะกดดันราคาน้ำมันให้ลดลงอย่างมาก เพราะท้ายที่สุดแล้ว มีความเสี่ยงอย่างมากที่จะเกิดภาวะอุปทานล้นตลาด” นักวิเคราะห์จาก Commerzbank กล่าวในบันทึก

 

อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงด้านอุปทานยังคงเป็นปัจจัยหนุนตลาด ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ กล่าวเมื่อวันพฤหัสบดีว่า ยุโรปต้องหยุดซื้อน้ำมันจากรัสเซีย เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวกล่าว

 

การลดการส่งออกน้ำมันดิบของรัสเซียหรือการหยุดชะงักอื่นๆ ของอุปทาน อาจผลักดันให้ราคาน้ำมันโลกสูงขึ้น

 

“ยังคงมีความเสี่ยงที่มหาอำนาจตะวันตกอาจเพิ่มมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียเพื่อพยายามบีบให้ประธานาธิบดีปูตินเข้าร่วมโต๊ะเจรจา” นักวิเคราะห์ของเจพีมอร์แกนกล่าวเมื่อวันศุกร์