รัฐวิสาหกิจ เบิกจ่ายงบลงทุนเกินเป้า 103% สคร. หวังเร่งเศรษฐกิจโค้งสุดท้าย
สคร.เผยผลเบิกจ่ายงบลงทุนรัฐวิสาหกิจเดือนมิ.ย. อยู่ที่ 1.49 แสนล้านบาท เกินเป้า 103% หวังกระตุ้นเศรษฐกิจโค้งสุดท้ายปี 68
นายธิบดี วัฒนกุล ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เปิดเผยว่า ผลการเบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจ ณ สิ้นเดือนมิ.ย. 2568 ทะลุเป้าหมายที่ 103% หรือคิดเป็น 149,448 ล้านบาท จากกรอบงบลงทุนรวม 263,887 ล้านบาท ชี้เป็นสัญญาณดีช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย
ผลการดำเนินงานการเบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจ 43 แห่งที่อยู่ภายใต้การติดตามอย่างใกล้ชิด โดยแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มรัฐวิสาหกิจที่ใช้ปีบัญชีตามปีงบประมาณ (34 แห่ง) และกลุ่มรัฐวิสาหกิจที่ใช้ปีบัญชีตามปีปฏิทิน (9 แห่ง)
สำหรับผลการเบิกจ่ายสะสมจนถึงสิ้นเดือนมิ.ย. 2568 แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพในการใช้จ่ายงบประมาณที่สูงกว่าแผน โดยรวมเบิกจ่ายได้ถึง 149,448 ล้านบาท คิดเป็น 103% ของแผนการเบิกจ่าย สำหรับกลุ่มรัฐวิสาหกิจปีงบประมาณ (ต.ค. 67 – มิ.ย. 68) เบิกจ่ายได้ 95,162 ล้านบาท คิดเป็น 100% ของแผน และกลุ่มรัฐวิสาหกิจปีปฏิทิน (ม.ค. 68 – มิ.ย. 68) เบิกจ่ายได้ 54,286 ล้านบาท คิดเป็น 109% ของแผนการเบิกจ่าย
รัฐวิสาหกิจที่ทำผลงานการเบิกจ่ายได้อย่างโดดเด่นและมีมูลค่าสูงสุด 3 อันดับแรกในกลุ่มปีงบประมาณ ได้แก่ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) และการประปานครหลวง ส่วนในกลุ่มปีปฏิทิน ได้แก่ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย และการไฟฟ้านครหลวง
นางสาวปิยวรรณ ล่ามกิจจา ที่ปรึกษาด้านพัฒนารัฐวิสาหกิจ กล่าวเสริมว่า ผลการเบิกจ่าย ณ เดือนมิ.ย. 2568 มีมูลค่าสูงกว่าเป้าหมายถึง 3,914 ล้านบาท ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากโครงการลงทุนขนาดใหญ่ที่สามารถเบิกจ่ายได้สูงกว่าแผน อาทิ โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน - ราษฎร์บูรณะ ของ รฟม. ที่เบิกจ่ายได้ 103%, โครงการก่อสร้างรถไฟ สายเด่นชัย - เชียงราย - เชียงของ ของ รฟท. ที่เบิกจ่ายได้ 116%, และโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย - จีน ระยะที่ 1 (ช่วงกรุงเทพมหานคร - นครราชสีมา) ของ รฟท. ที่เบิกจ่ายได้ 101%
นายธิบดี กล่าวว่า การเบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจในปีบัญชี 2568 ยังคงเป็นไปตามเป้าหมายที่สูงกว่า 95% ของแผนการลงทุน และภาพรวมการเบิกจ่ายคิดเป็น 57% ของกรอบงบลงทุนทั้งหมด สคร. จะยังคงกำกับและติดตามการเบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจอย่างใกล้ชิดต่อไป เพื่อให้การลงทุนเป็นไปตามเป้าหมาย ซึ่งจะช่วยกระตุ้นระบบเศรษฐกิจและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ