WHA ชี้ไทยยังมีลุ้น! สู้ศึกภาษี-ภูมิรัฐศาสตร์โลก เน้นเทคโนโลยี-ยั่งยืน ดันเศรษฐกิจโต

WHA ชี้ไทยยังมีลุ้น! สู้ศึกภาษี-ภูมิรัฐศาสตร์โลก เน้นเทคโนโลยี-ยั่งยืน ดันเศรษฐกิจโต

"WHA" ชี้ไทยยังมีโอกาส แม้เผชิญศึกภาษีสหรัฐ-ภูมิรัฐศาสตร์โลก แนะโฟกัส "เทคโนโลยี-ความยั่งยืน" ดันเศรษฐกิจ พร้อมเปิด 3 "พอ" และ 3 "สร้าง" รับมือความท้าทาย

น.ส.จรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ WHA Group กล่าวในงานสัมมนา iBusiness Forum Decode 2025: The Mid-Year Signal ถอดสัญญาณเศรษฐกิจโลก พลิกอนาคตเศรษฐกิจไทย วันที่ 15 กรกฎาคม 2568 ว่า อยากให้ข้อมูลที่แท้จริงว่าประเทศไม่ได้เผชิญแค่ภาษีสหรัฐ หรือเรื่องภูมิรัฐศาสตร์อย่างเดียว แต่ยังมีโอกาสของประเทศไทยเสมอ เช่น เรื่องของเทคโนโลยี ความยั่งยืน และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ที่มีความสำคัญกับอนาคต

อย่างไรก็ตาม ต้องบอกว่ามีเพียง 2 ประเทศที่สรุปดีลภาษีกับสหรัฐ แล้ว คือ อังกฤษที่ 10% และเวียดนาม 20% ซึ่งบริษัทได้คุยกับคนในเวียดนามที่เดิมถูกสหรัฐ เก็บภาษีนำเข้าจาก 46% เหลือ 20% แล้วทำไมรัฐบาลเวียดนามถึงนิ่ง ก็เพราะผิดหวังมากว่าได้ทุ่มเทหมดหน้าตักแต่กลับยังโดนเก็บสูง ซึ่งการผลิตที่เวียดนามส่วนมากคือ ทรานส์ชิปเมนต์ วันนี้ยังงง กับการตีความอยู่ เพราะการผลิตในเวียดนามที่เติบโตโดดเด่นจากเทรดวอร์รอบแรกมาจากภาคอิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้แรงงานสูง และวัตถุดิบต่างๆ มาจากจีนแล้วมาประกอบส่งไปสหรัฐ คำถามคือ ว่าเขานับอย่างไรที่เป็น โลคัลคอนเทนต์ กลายเป็นว่าทางสหรัฐ เอาข้อนี้มาต่อรองในทุกประเทศทั่วโลก

ในตอนต้นเราเจอ 36% คนถามเยอะ ซึ่ง WHA ก็บอกว่ายังไม่จบเพราะต้องดูว่าใครเจอเท่าไร โดย บราซิล 50% ทั้งที่ขาดดุลการค้ากับสหรัฐ เม็กซิโก 30% เรายังรอดูจีนกับอินเดีย เพราะตอนเกิดการเก็บภาษีรอบแรกเดือนเมษายน WHA ทำเซอร์เวย์ลูกค้าในนิคมฯ ที่เข้ามาลงทุนทั้งไทย และเวียดนาม เราเคยรีพอร์ต 3 ระดับ คือ ต่ำ ปานกลาง และสูง โดยต่ำคือ คนที่ส่งไปสหรัฐ 0-25% ส่วนปานกลางคือ 50% ส่วนสูงคือ 75% โดยลูกค้าบอกว่าหากเจอภาษีเยอะมอง 2 ประเทศที่จะไปลงทุน หากมองคือบราซิลกับเม็กซิโก เมื่อเห็นภาษีแบบนี้ก็ไม่น่าจะไปแล้ว

"เมื่อดูแบบนี้จะเห็นว่าจีนจะต่ำหรือไม่ ดังนั้น การออกภาษีมาแบบนี้สกัดจีนทั้งความมั่นคง สกัดเทคโนโลยี จึงไม่น่าจะได้ต่ำ คนจีนยังบอกว่าไทยเจอแค่ช่วง 3 ปีที่ทรัมป์อยู่แต่จีนน่าจะยาว เราก็ดูอินเดียต่อที่น่าจะยังสูง และเป็นคู่แข่งกับจีน แต่ถ้าทั่วโลกสูงหมดสิ่งที่จะเกิดกับสหรัฐ คือ แพงทั้งแผ่นดิน หากเราคิดว่าจะตัดสหรัฐ ออกได้หรือไม่"

ส่วนการส่งออกไปสหรัฐ ในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา จะเห็นว่าจากเดิมไทยส่งออก 11% ตอนนี้ไป 19% ซึ่งก่อนที่จะถึงตรงจุดนั้นได้เกิดเทรดวอร์ปี 2018 คือ ทรัมป์ 1 ที่เริ่มมีการส่งออกสูงขึ้นเรื่อยๆ จึงมีคำถามว่าแต่เมื่อก่อนเราส่งไปไม่สูงยังไม่กระทบอะไร แต่ตอนนี้ส่งสูงแต่ทำไมจะตาย จึงต้องตั้งสติแล้วคิดดูว่าเกิดอะไรขึ้น ดังนั้น กลุ่มที่ส่งไปสูงคือ สินค้าเกษตร และกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ ฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ ส่วนมาก 60% เป็นบริษัทอเมริกัน เขาจะย้ายไปหรือไม่ ลงทุนในไทยเป็นแสนล้านบาทจะย้ายหรือไม่ เราจึงตกใจ เพราะเขาโดนเยอะ

WHA ชี้ไทยยังมีลุ้น! สู้ศึกภาษี-ภูมิรัฐศาสตร์โลก เน้นเทคโนโลยี-ยั่งยืน ดันเศรษฐกิจโต

สิ่งที่จะเจอเยอะคือ เสื้อยาง ส่วนด้าน ออโต้พาร์ท ด้านส่งออกยานยนต์เราผลิตพวงมาลัยขวาส่งออกทั่วโลกแม้แต่ยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ก็ไม่ได้ส่งไปสหรัฐ หรือโรงงานใหญ่ก็มีโรงงานในสหรัฐ ส่วนพวกผลิตพาร์ทที่มีเครื่องยนต์สันดาปภายใน (ICE) มีส่งไป ดังนั้น จากปี 2018-2024 เรามีลูกค้าจีนแค่ 3% และเริ่มเติบโต 27% ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา โดยตัวเลขส่งออกที่ไปสหรัฐ เพิ่มขึ้นลูกค้าใช้เวลาในการสร้างโรงงาน และผลิตจริง 3-4 ปี อีกตัวเลขที่ขึ้นมาอีกส่วนคือ ทรานส์ชิปเมนต์ จะต้องดูให้ดีไม่เกิดประโยชน์กับประเทศไทย ลูกค้า WHA เราสร้าง และผลิตจริงต้องรักษาไว้ ส่วนที่มาเปลี่ยนแพ็กเกจจิ้งก็ต้องจัดการให้ดี

หลายคนบอกนิคมอุตสาหกรรมจะกระทบ WHA ยืนยันว่าปีนี้ ยอดขายดีกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ ลูกค้าเตรียมเซ็นสัญญา เมื่อก่อนญี่ปุ่น 39% ลดลงมาเหลือ 19% ไทย 13% สหรัฐ 17% ที่มาจากเทคโนโลยี และดาต้าเซนเตอร์ จากข่าวที่ระบุว่าทรัมป์ไม่ให้ขายชิปมาไทย นักวิเคราะห์บอกดาต้าเซนเตอร์ตาย จริงๆ แล้วไม่เกี่ยวเลย เขาเป็นผู้ใช้ชิป หลักๆ คือ สหรัฐ อีกทั้งจีนก็ไม่สั่งชิปของ NVIDIA อยู่แล้ว หากเป็นชิปที่สั่งห้ามคือ AI ขั้นสูง ดังนั้น ควรวิเคราะห์ข้อมูลดีๆ น่าจะสับสน

กลุ่มลูกค้าหลัก 40% ยังเป็น ยานยนต์ ทั้ง ICE คอนซูเมอร์ 14% ที่ส่งออกทั่วโลก อิเล็กทรอนิกส์ 12% หลายปีมีลูกค้าจีนมาลงในไทยเช่นแอร์เพื่อผลิตส่งออกจึงไม่กระทบ ต่อให้ลูกค้าเราเป็นบริษัทสหรัฐ ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าเมื่อโดนเทคโอเวอร์โดยจีนแล้วก็ไม่ไปที่สหรัฐ รวมถึงลูกค้าอาหารสัตว์ก็เคยซื้อที่สหรัฐ ก็ยังขายที่ และมาในไทย เพราะราคาที่ค่าก่อสร้างแพง และคนงานหายาก และมักฟ้องเจ้าของบริษัท ดังนั้น การจะย้ายไปไหนนั้นสุดท้ายเขามองที่ไหนก็ต้องคิดกัน

WHA ชี้ไทยยังมีลุ้น! สู้ศึกภาษี-ภูมิรัฐศาสตร์โลก เน้นเทคโนโลยี-ยั่งยืน ดันเศรษฐกิจโต

มีหลายอย่างที่ไทยต้องคิด และต้องดึงออกมา เช่น เศรษฐกิจใหม่ (New Economy) เพราะลูกค้าที่มาหาเรา เขาถามหาพลังงานสะอาด หรือการกำจัดของเสีย การปรับกระบวนการผลิตสินค้าโปรดักต์ใหม่ๆ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม ที่เราเซอร์เวย์รอบแรก 200 ราย ส่วนมากยังโอเค และทำใหม่อีก 50 ราย ก็ยังไม่มีแผนการย้าย ส่วนลูกค้าเวียดนามก็ยังงง กับดีลอยู่ว่าโดนภาษีเท่าไรกันแน่

น.ส.จรีพร กล่าวว่า ส่วนในเรื่องของความยั่งยืน เชื่อว่าทุกอย่างจะยังไปเหมือนเดิม โดยลูกค้าต่างชาติทั้งหมดก็ยังอยู่ รวมถึงบริษัทสหรัฐ ที่ทิ้งตรงนี้ไม่ได้ เป็นสิ่งที่ต้องดู โดยสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ได้ระบุตัวเลข การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) กว่า 8 แสนล้านบาท โดยปีที่แล้ว FDI สูงสุดตั้งแต่ก่อตั้ง BOI โดยไตรมาส 1 ปีนี้ อยู่ที่ 2.6 แสนล้านบาท โดยเวียดนามแตะแสนกว่าล้านบาท ไทยยังมีทางสู้อีกเยอะเพราะดีเรามีมากมายทั้งที่ดิน โครงสร้างพื้นฐาน แต่หากไม่ทำอะไรก็จะแพ้เราจึงต้องแข่งขันต่อ “นี่คือ บุญเก่าที่มี” ทำให้เราสามารถดึง FDI มาได้

โดยหลายอย่างที่เวียดนามดึงไม่ได้ เช่น ดาต้าเซนเตอร์ เพราะไม่มีความมั่นคงพลังงาน โครงสร้างพื้นฐาน อีโคซิสเต็ม เช่น กลุ่ม ออโต้เซกเตอร์ ที่อยากได้ อยากให้มองต่อไปว่าเราจะเป็น Next Move ว่าเราจะเป็นผู้ชนะคว้าโอกาสหรือผู้แพ้ตามข้อมูลที่ไม่ปรับอะไรมากมาย แน่นอนเราต้องดูภูมิรัฐศาสตร์ให้ดี รอบนี้ใครจะชนะระหว่างสหรัฐ กับจีน หากจีนชนะขึ้นเบอร์ 1 ไทยจะดีลอย่างไรกับจีนให้เป็นคู่ค้าไม่ใช่คู่แข่ง

ส่วนการซัพพอร์ต BOI ทำมาตลอดต่อเนื่อง โดยเฉพาะ SME หรือการที่เรามีแค่ EEC อย่างเดียวพอหรือไม่ เทียบเวียดนามที่โตขึ้นมามากเพราะมีนิคมอุตสาหกรรม 500-600 แห่ง เพราะมีท่าเรือทั้งประเทศ แต่เรามีแค่แหลมฉบัง ไทยจึงต้องมี แลนด์บริดจ์ แต่ไม่ควรแค่โลจิสติกส์อย่างเดียวเพื่อส่งออก และนำเข้าของจากทั่วโลกเข้ามา ส่วน ดิจิทัลอินฟราสตรักเจอร์ และดาต้าเซนเตอร์ เพื่อต่อยอด และสร้างการเติบโตเพื่อไปสู่ ดิจิทัลอีโคโนมี

ทุกคนพูดถึง อัปสกิล รีสกิล เพื่อการปฏิบัติ การสอน AI ของจีนกับเด็กประถม หรือเจอคอลเซนเตอร์จนไม่ดูข้อมูล คนไทยรักสนุกแต่ชีวิตจะต้องไปต่อ หลายคนบอก GDP ปีนี้น่าจะแย่ที่ 2 ครึ่งปีหลังอาจจะติดลบ เมื่อมีเรื่องภาษีขึ้นมา WHA ได้หารือกับบุคลากรผ่าน 3 พอ คือ 1. พอเพียง โดยใช้เงินให้ถูกต้อง และเกิดประโยชน์ 2. พึ่งพา สร้างอีโคซิสเต็มพวกเราขึ้นมาในระดับประเทศ เทรดกันเองให้ได้ 3. พัวพัน ในเมื่อสร้างอีโคซิสเต็มได้ก็ดึงให้ใหญ่ขึ้น และฝาก 3 สร้าง คือ สร้างคน สร้างสู้ และสร้างโอกาส

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์