ส.อ.ท. ชี้สหรัฐเข้ม 'ชิป AI' ไม่กระทบลงทุนไทย WHA เตือนใช้สติอย่าตื่นตระหนก
“ส.อ.ท.” มองสหรัฐสกัด "ชิป AI" ไม่กระทบลงทุนไทยเหตุใช้งานจริง WHA ยันลูกค้าไม่ได้รับผลกระทบสั่งตามสเปกเพื่อใช้งานจริงไม่ใช่เพื่อขายต่อ อีกทั้งยังเป็นการลงทุนโดยสหรัฐเอง เตือนสติทุกฝ่ายในการพิจณาอย่าตื่นตระหนกทำให้ราคาหุ้นตก
KEY
POINTS
- ส.อ.ท. ชี้ว่ามาตรการจำกัดการส่งออกชิป AI ของสหรัฐมีเป้าหมายเพื่อป้องกันการส่งต่อเทคโนโลยีไปยังประเทศที่ไม่เป็นมิตรอย่างจีน โดยพุ่งเป้าไปที่การสกัดเส้นทางการขนส่งสินค้า (Transshipment) ไม่ใช่ผู้ใช้งานจริง
- มาตรการนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อการลงทุนดาต้าเซ็นเตอร์ในไทย ตราบใดที่การนำเข้าชิปเป็นการนำมาเพื่อใช้งานจริง ไม่ใช่เพื่อส่งต่อ
- WHA Group ย้ำว่าลูกค้าของบริษัทซึ่งเป็นผู้ใช้ปลายทาง (End User) จะไม่ได้รับผลกระทบ เพราะสั่งชิปตามสเปคเพื่อใช้งานในดาต้าเซ็นเตอร์จริง ไม่ได้นำไปขายต่อ
- ผู้บริหาร WHA Group เรียกร้องให้นักลงทุนใช้สติและอย่าตื่นตระหนกกับข่าวดังกล่าว เนื่องจากไม่ส่งผลกระทบต่อลูกค้าและธุรกิจของบริษัท
จากการณีที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ เตรียมจำกัดการส่งออกชิปเอไอ ประสิทธิภาพสูงจากบริษัท NVIDIA ไปยังประเทศคู่ค้าอย่าง “ไทย และ มาเลเซีย” อาจกำลังสร้างความกังวลในหมู่นักลงทุน แม้ขณะนี้ยังไม่มีการตัดสินใจอย่างเป็นทางการจากรัฐบาลสหรัฐ แต่ก็ได้สร้างความปั่นป่วนต่อตลาดทุนเป็นอย่างมาก
นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวกับ "กรุงเทพธุรกิจ" ว่า แผนสกัดชิป และ AI จากไทยและมาเลเซียของสหรัฐนั้นได้เข้มงวดและอยู่ในภาวะของ Trade War มาตั้งแต่สมัยประธานาธิบดี “โดนัลด์ ทรัมป์” 1.0 จนถึงสมัย “โจ ไบเดน” ก็ได้มีจุดประสงค์หลักเพื่อป้องกันการถ่ายทอดเทคโนโลยีขั้นสูงและชิปประสิทธิภาพสูงไปยังประเทศที่ไม่เป็นมิตร เช่น เวียดนาม และอิหร่าน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือจีนนั้น สหรัฐได้ออกกฎหมาย Chips and Science Act มาเพื่อวัตถุประสงค์ดังกล่าว และมาตรการนี้มีความเข้มข้นมากขึ้นภายใต้นโยบาย “Make America Great Again”
ทั้งนี้ สหรัฐมีการตรวจสอบอย่างเข้มข้นขึ้นและพบว่า เหตุใดแพลตฟอร์ม AI แบบเปิดอย่าง DeepSeek ของจีน ซึ่งใช้ชิปของ NVIDIA จึงยังคงใช้งานได้ในจีนแม้จะถูกแบนไปแล้ว ดังนั้น จากการตรวจสอบ พบว่าอาจมีการรั่วไหลมาจากประเทศอื่น ๆ ที่สั่งซื้อชิปจากสหรัฐแล้วนำไปขายต่อหรือส่งต่อ
“สหรัฐตระหนักดีว่าทั้งไทยและมาเลเซียมีการซื้อเทคโนโลยีจำนวนมาก จึงมีการเฝ้าระวังและควบคุมเพิ่มเติม นี่เป็นกรณีเดียวกับการที่สหรัฐต้องการตัดเส้นทางการขนส่งสินค้า (Transshipment) หรือการสวมสิทธิ์สินค้าและมีมาตรการเข้มงวดด้านการตอบโต้ภาษีศุลการกร (Reciprocal Tariff) ที่ส่งเข้าสหรัฐ เพียงการสกัดชิปครั้งนี้เป็นการควบคุมการส่งออกชิปจากสหรัฐ”
ยันไม่กระทบต่อกลุ่มดาต้าเซ็นเตอร์
นายเกรียงไกร กล่าวเพิ่มเติมว่า มาตรการนี้ไม่ส่งผลกระทบต่อกลุ่มดาต้าเซ็นเตอร์ เพราะเป็นคนละเรื่องกัน โดยการลงทุนในส่วนนี้แม้กระทั่งบริษัท IT ของสหรัฐอย่าง AWS ที่มีแผนลงทุนระยะยาวเป็นหลักแสนล้านบาทในไทย ก็จะไม่ได้รับผลกระทบอะไร รวมถึงผู้ลงทุนรายอื่น ๆ ด้วย เพราะตราบใดที่นำเข้าชิปมาเพื่อใช้งานจริงก็ไม่มีปัญหา แต่หากเป็นการนำเข้าเพื่อเป็นทางผ่าน จะถือว่ามีปัญหา
“สหรัฐรู้จริงและสามารถพิสูจน์ได้ว่ามีการกระทำดังกล่าวหรือไม่ ซึ่งสหรัฐได้เข้มงวดกับมาตรการนี้อย่างมาก ทั้งในเรื่องการนำเข้าและส่งออก ดังนั้น นโยบายของทรัมป์ 2.0 จึงมีความเข้มข้นและจะปิดจุดอ่อนในทุกจุดที่ได้พยายามทำมาโดยตลอด”
ขณะที่ น.ส.จรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ WHA Group กล่าวกับ “กรุงเทพธุรกิจ” ว่า ประเด็นการที่สหรัฐจำกัดการนำเข้าชิป และ AI ในไทยจะกระทบต่อการลงทุน Data Center ในนิคมมากน้อยแค่ไหนนั้น น.ส.จรีพร กล่าวว่า ลูกค้าของ WHA ไม่กระทบแน่นอน เพราะเป็น end user (ผู้ใช้ขั้นปลาย) เป็นคนใช้งานจริงๆ เมื่อเวลาจะทำ Data Center มีหลายเรื่อง โดย เรื่องแรกที่เป็น Media สั่งมาน้อยมาก
นอกจากนี้ เมื่อสั่งมาจะต้องสั่งตามสเปคเพื่อมาใช้ใน Data Center เพื่อเอามาใช้จริงๆ ซึ่งไม่ได้สั่งมาเพื่อขายต่อหรือไม่ได้เป็นทรานส์ชิปเม้นท์ หรือทางผ่าน ซึ่งถือว่าเป็นคนละเรื่องกัน อีกทั้ง ส่วนหนึ่งก็เป็นบริษัทของสหรัฐฯ เองจึงงงว่าข่าวที่ถล่มทลายกระทบต่อหุ้นของ WHA ที่ลดลงได้รับผลกระทบ ดังนั้น จึงอยากให้ใช้สติกันในช่วงนี้ไม่อย่างนั้นทุกคนจะเหนื่อย