กขค. ร่วมประชุมยูเอ็น ร่วมขับเคลื่อนแข่งขันทางการค้า

นายวิษณุ วงศ์สินศิริกุล เลขาธิการคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า เปิดเผยว่า คกรรมการการแข่งขันทางการค้า (กขค.) 3 คน ได้แก่ นายสมชาติ สร้อยทอง, ดร.ปัทมา เธียรวิศิษฎ์สกุล และ พลตำรวจโทพิทยา ศิริรักษ์ และตน ได้เข้าร่วมการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการแข่งขันทางการค้าและการคุ้มครองผู้บริโภค ครั้งที่ 9 (9th United Nations Conference on Competition and Consumer Protection) ณ นครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์

โดยที่ประชุมได้เน้น ใน 2 ประเด็นหลัก ได้แก่

1. การบูรณาการกฎหมายการแข่งขันทางการค้าและกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภค แม้ทั้งสองกฎหมายมีจุดมุ่งหมายที่ต่างกันในภาพรวม แต่มีจุดร่วมสำคัญตรงที่ต้องการให้ผู้บริโภคได้รับประโยชน์สูงสุด ซึ่งที่ประชุมเสนอให้ประเทศต่าง ๆ พิจารณานำแนวคิดการคุ้มครองผู้บริโภคเข้ามาประกอบการตัดสินคดีการแข่งขันทางการค้า เพื่อให้เกิดความสมดุลระหว่างกลไกตลาดและความเป็นธรรมของผู้บริโภค

2. การกำกับดูแลตลาดดิจิทัล (Digital Market) และปัญญาประดิษฐ์ (AI) ซึ่งเป็นประเด็นเร่งด่วนในระดับโลก โดยที่ประชุมให้ความสำคัญกับการออกหลักเกณฑ์ควบคุมพฤติกรรมการครอบงำตลาดของผู้เล่นรายใหญ่ รวมถึงการนำ AI มาใช้ทั้งในเชิงกำกับดูแล และเป็นเครื่องมือสนับสนุนการสืบสวนสอบสวนในคดีการแข่งขันทางการค้า

นายวิษณุ กล่าวว่า ทิศทางของที่ประชุมสอดคล้องกับประเทศไทยอย่างใกล้ชิด โดยสำนักงาน กขค. กำลังอยู่ระหว่างการจัดทำร่างหลักเกณฑ์เพื่อกำกับดูแล “การประกอบธุรกิจแพลตฟอร์มหลายด้าน (Multi-sided Platform) และธุรกิจบริการดิจิทัลแพลตฟอร์มซื้อขายสินค้าหรือบริการ (E-Commerce)” ในประเทศ รวมถึงเตรียมศึกษาศักยภาพการใช้ AI มาช่วยในกระบวนการทางวิชาการและกฎหมายในอนาคต

ทั้งนี้ การประชุมสหประชาชาติด้านการแข่งขันทางการค้าและการคุ้มครองผู้บริโภคจะจัดขึ้นทุก 5 ปี โดยสรุปผลการดำเนินงานรอบที่ผ่านมา และกำหนดกรอบการทำงานใน 5 ปีถัดไป ซึ่งประเด็น “บูรณาการกฎหมายเพื่อประโยชน์ผู้บริโภค” และ “การกำกับตลาดดิจิทัลและ AI” จะเป็นหัวใจของความร่วมมือระหว่างประเทศทั่วโลกในช่วงเวลานี้

ในโอกาสเดียวกัน คณะของไทยยังได้พบหารือกับ Dr. Fahad Ibrahim Alshathri เลขาธิการสำนักงานกำกับดูแลการแข่งขันทางการค้าของประเทศซาอุดีอาระเบีย เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลเชิงนโยบายและเตรียมวางกรอบความร่วมมือด้านการแข่งขันทางการค้าในอนาคตอันใกล้ ซึ่งคาดว่าจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อภาคธุรกิจของทั้งสองประเทศ

“ การประชุมในครั้งนี้ไม่เพียงเป็นเวทีแลกเปลี่ยนประสบการณ์ระดับโลก แต่ยังช่วยให้ประเทศไทยสามารถปรับนโยบายการแข่งขันทางการค้าให้สอดคล้องกับบริบทใหม่ของโลกได้อย่างทันท่วงที พร้อมขยายความร่วมมือกับประเทศคู่ค้าสำคัญในอนาคต”นายวิษณุ กล่าว