ราคาน้ำมันดิบทรงตัว ตลาดรอการตัดสินใจเพิ่มการผลิตของโอเปกพลัส

สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานว่า ราคาน้ำมันทรงตัวใกล้ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ต้นเดือนมิถุนายน ตลาดจับตาดูว่าโอเปกพลัส จะเพิ่มโควตาการผลิตในสุดสัปดาห์นี้มากน้อยเพียงใด

ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ซื้อขายต่ำกว่า 67 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสอินเตอร์มีเดียต (WTI) อยู่ใกล้ 65 ดอลลาร์ คาดว่ากลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และพันธมิตรจะตกลงเรื่องการเพิ่มปริมาณการผลิตเป็นครั้งที่สี่ในการประชุมในวันอาทิตย์นี้ ตามผลสำรวจของบลูมเบิร์ก

ขณะที่ซาอุดีอาระเบียซึ่งเป็นประเทศผู้นำยังคงพยายามแย่งชิงส่วนแบ่งการตลาด

การปรับขึ้นโควตาการผลิต 411,000 บาร์เรลต่อวันคาดว่าจะเกิดขึ้นในสุดสัปดาห์นี้ และมีแนวโน้มว่าจะมีการเพิ่มการผลิตอีกครั้งในเดือนหน้า โรเบิร์ต เรนนี่ หัวหน้าฝ่ายวิจัยสินค้าโภคภัณฑ์และคาร์บอนที่เวสต์แพค แบงกิ้ง คอร์ป กล่าว

เขากล่าวเสริมว่า “เมื่อเราเข้าสู่ไตรมาสที่สามและต่อจากนั้น เราเห็นความเสี่ยงด้านลบที่เพิ่มมากขึ้น” และราคาน้ำมันอาจทดสอบที่ 60 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ราคาน้ำมันร่วงลง 9% ในไตรมาสที่แล้วในช่วงสามเดือนที่ผันผวน โดยราคาร่วงลงอย่างรวดเร็วในเดือนเมษายนหลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ประกาศขึ้นภาษีนำเข้า และพุ่งสูงขึ้นในเดือนมิถุนายนหลังจากที่อิสราเอลโจมตีอิหร่าน ก่อนที่จะลดลงเมื่อสถานการณ์เริ่มคลี่คลายลง ตอนนี้ความสนใจจึงกลับมาที่ปัจจัยพื้นฐานด้านอุปทานและอุปสงค์อีกครั้ง โดยข้อตกลงการค้าที่อาจเกิดขึ้นและการผลิตที่เพิ่มขึ้นของโอเปกพลัส จะเป็นปัจจัยขับเคลื่อนที่สำคัญที่สุดในระยะใกล้

ภาษีนำเข้าที่สูงขึ้นจะเริ่มขึ้นอีกครั้งในวันที่ 9 กรกฎาคมสำหรับคู่ค้ารายใหญ่ของสหรัฐฯ หลายสิบราย ในขณะที่การเจรจายังคงดำเนินต่อไปเพื่อสรุปข้อตกลงหลังจากวันหยุด 4 กรกฎาคม มีสัญญาณของความขัดแย้งกับประเทศต่างๆ รวมถึงญี่ปุ่น ทรัมป์ขู่ว่าจะขึ้นภาษีใหม่กับประเทศในเอเชียแห่งนี้ โดยอ้างถึงความไม่เต็มใจที่จะยอมรับการนำเข้าข้าวจากสหรัฐฯ

อัปเดตราคาเช้านี้ (1 ก.ค.)

ราคาน้ำมันเบรนท์สำหรับการชำระเงินเดือนกันยายนลดลง 0.3% เหลือ 66.53 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เมื่อเวลา 8.24 น. ตามเวลาในสิงคโปร์

ราคาน้ำมัน WTI ส่งมอบเดือนสิงหาคมลดลง 0.3% อยู่ที่ 64.89 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล