สำนักงบฯ เบรก 5.1 หมื่นล้าน โครงการน้ำปี 68 หลัง ปปช.รับไต่สวน

แหล่งข่าวจากสำนักงบประมาณ เปิดเผยว่า ตามที่สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เสนอคณะรัฐมนตรี(ครม.) รับทราบ มาตรการรองรับฤดูแล้ง ปี 2567/2568 และโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ เพื่อรองรับสถานการณ์ภัยแล้ง และฝนทิ้งช่วง ปี 2568  ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2567 รับทราบมาตรการดังกล่าว ตามที่ สทนช. เสนอ แล้ว

ทั้งนี้ สทนช. ได้รวบรวม วิเคราะห์ ตรวจสอบ และกลั่นกรองแผนงานโครงการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติมีมติเห็นชอบแล้ว ในคราวประชุม ครั้งที่ 1/2568 เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2568 และจัดทำหนังสือเพื่อเสนอแผนงาน

โครงการมาขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปี งบประมาณ พ.ศ.2568 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น วงเงิน 51,584.0082 ล้านบาท  เพื่อดำเนินโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ เพื่อรองรับสถานการณ์ภัยแล้ง และฝนทิ้ง ช่วง ปี 2568 สำหรับ 4 กระทรวง 15 หน่วยงาน จำนวน 19,970 รายการ

ทางสำนักงบประมาณพิจารณาแล้ว เห็นควรให้หน่วยรับงบประมาณที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามแผนงาน โครงการที่ สทนช. เสนอขอ โดยใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 งบกลางรายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ภายในกรอบวงเงิน 7,404.3406 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ เพื่อรองรับสถานการณ์ภัยแล้ง และฝนทิ้งช่วง ปี 2568 สำหรับ 4 กระทรวง 12 หน่วยงาน จำนวน 2,748 รายการ

โดยคณะรัฐมนตรีได้มีมติ เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2568 อนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี งบประมาณ พ.ศ.2568 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ตามระเบียบว่าด้วย การบริหารงบประมาณรายจ่ายงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น พ.ศ.2562 ภายในกรอบวงเงิน 7,404.3406 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการเพิ่มประสิทธิภาพ การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ เพื่อรองรับสถานการณ์ภัยแล้ง และฝนทิ้งช่วง ปี 2568 สำหรับ 4 กระทรวง 12 หน่วยงาน จำนวน 2,748 รายการ ตามที่สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติเสนอ

ปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนที่หน่วยรับงบประมาณจัดทำแผนการปฏิบัติงาน และแผนการใช้จ่ายงบประมาณ และขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการดังกล่าว 

อย่างไรก็ดี เมื่อปรากฏเป็นข่าวว่า คณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ได้มีมติเมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2568 ได้รับเรื่องโครงการเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ เพื่อรองรับสถานการณ์ ภัยแล้ง และฝนทิ้งช่วง ปี 2568 ไว้ตรวจสอบ ดังนั้น เพื่อความรอบคอบ โปร่งใส และตระหนักในประเด็นดังกล่าว สำนักงบประมาณได้เสนอให้ชะลอการอนุมัติเงินจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณพ.ศ. 2568 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น สำหรับโครงการดังกล่าวทั้งหมดไว้ก่อนในทันทีที่ได้ทราบถึงกรณีดังกล่าว จนกว่าการพิจารณาของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติจะมีความชัดเจน

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์