สทนช. เร่งปรับแผนระบายน้ำ ขุดลอก เตรียมรับมือปีนี้ 'ฝนหนัก'

สทนช. เร่งปรับแผนระบายน้ำ ขุดลอก เตรียมรับมือปีนี้ 'ฝนหนัก'

สทนช. เร่งปรับแผนการระบายน้ำ ย้้ำหน่วยงานเน้นบริหารจัดการรูปแบบลุ่มน้ำและกลุ่มลุ่มน้ำ พร้อมประสาน MRCS ผู้ว่าราชการจังหวัดริมโขง เตรียมรับมือฝนตกหนัก

ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการอำนวยการด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ครั้งที่ 6/2568 ว่าตามการรายงานของกรมอุนิยมวิทยาระบุว่าภาพรวมปริมาณฝนปีนี้มีแนวโน้มใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ยปกติหรือมากกว่าค่าเฉลี่ยปกติเล็กน้อยประมาณร้อยละ 5-10 โดยช่วง 3 เดือนแรกคือ ช่วงเดือนพฤษภาคม-กรกฎาคม มีแนวโน้มมีปริมาณฝนมากกว่าค่าเฉลี่ยปกติ  ซึ่งพื้นที่ที่ต้องระวังเป็นพิเศษคือ จังหวัดเชียงราย บริเวณริมฝั่งแม่น้ำแม่สายที่อยู่ในระหว่างการขุดลอกลำน้ำที่จะดำเนินการแล้วเสร็จในช่วงสิ้นเดือนมิถุนายนนี้ จึงจำเป็นต้องเฝ้าระวังและเตรียมการป้องกันอย่างใกล้ชิด และวันนี้ได้เชิญผู้ว่าราชการจังหวัดริมฝั่งแม่น้ำโขงเข้าร่วมประชุมด้วยเพื่อรับทราบข้อมูลของผลคาดการณ์ดังกล่าว

สทนช. เร่งปรับแผนระบายน้ำ ขุดลอก เตรียมรับมือปีนี้ 'ฝนหนัก'

“นอกจากนี้ สำนักงานเลขาธิการคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง (Mekong River Commission Secretariat หรือ MRCS) ได้มีการประเมินสถานการณ์น้ำในแม่น้ำโขงว่า ในช่วงเดือนกรกฎาคม บางพื้นที่มีแนวโน้มเสี่ยงเกิดน้ำล้นตลิ่งได้ ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ปริมาณฝนที่พบว่า ในช่วงเดือนกรกฎาคม 2568 มีปริมาณฝนตกมากโดยเฉพาะในพื้นที่ริมแม่น้ำโขง"

สทนช. เร่งปรับแผนระบายน้ำ ขุดลอก เตรียมรับมือปีนี้ 'ฝนหนัก'

ทั้งนี้ สทนช. ในฐานะสำนักงานเลขาธิการแม่น้ำโขงแห่งชาติไทย ได้ประสาน MRCS เพื่อหารือแนวทางการป้องกัน และการประชุมหารือทวิภาคีด้านการบริหารจัดการน้ำระหว่างไทยและสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยมีข้อสรุปที่จะจัดตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจ (Ad Hoc Flood Task Team) ระหว่างไทย- สปป.ลาว และ MRC เพื่อสนับสนุนข้อมูลสำหรับเตรียมการรับมือพื้นที่เสี่ยงน้ำล้นตลิ่งและการแจ้งเตือนภัยน้ำท่วมในพื้นที่ลุ่มต่ำในช่วงฤดูฝนนี้ รวมทั้งการแลกเปลี่ยนข้อมูลเขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำ เพื่อบริหารจัดการน้ำแม่น้ำโขงร่วมกันในรูปแบบลุ่มน้ำ เนื่องจาก สปป.ลาว มีเขื่อนต่างๆ อยู่ในลำน้ำสาขาจำนวนมากที่จะไหลลงสู่แม่น้ำโขง

  ทั้งนี้ หากแนวโน้มปริมาณฝนในพื้นที่ลุ่มน้ำโขงมีจำนวนมาก ต้องวางแผนเร่งพร่องและระบายน้ำออกไปก่อน จะช่วยบรรเทาผลกระทบน้ำล้นตลิ่งได้ พร้อมเตรียมการในเชิงป้องกันล่วงหน้า โดยเฉพาะการทำคันกั้นน้ำชั่วคราวหรือการจัดเรียงกระสอบทรายให้ได้มาตรฐานและมีความมั่นคงแข็งแรงให้สามารถรองรับแรงดันจากน้ำ และเตรียมการป้องกันในพื้นที่เปราะบาง เช่น โรงพยาบาลหรือสำนักงานประปาสาขาต่างๆ ของการประปาส่วนภูมิภาค  โดย สทนช. จะเฝ้าติดตามและประเมินสถานการณ์ พร้อมประสานงานกับผู้ว่าราชการจังหวัดริมฝั่งแม่น้ำโขงอย่างต่อเนื่อง 

นอกจากนี้ ที่ประชุมในยังได้ติดตามแผนการระบายน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ต่างๆ ที่มีผลการระบายน้อยกว่าแผน เช่น อ่างเก็บน้ำห้วยหลวง อ่างเก็บน้ำน้ำพุง อ่างเก็บน้ำน้ำอูน เป็นต้น ได้กำชับให้เร่งพร่องน้ำให้เป็นไปตามแผนเพื่อเพิ่มพื้นที่รองรับปริมาณฝนที่ตกหนักในช่วงปลายปี เนื่องจากกรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่า ประเทศไทยอาจมีพายุจรเข้ามา 1-2 ลูก ในช่วงเดือนสิงหาคม-ตุลาคม แม้ว่าปัจจุบันปรากฏการณ์เอนโซ่ ยังมีค่าความเป็นกลาง แต่หลังจากนั้น ในช่วงปลายปี ประมาณช่วงเดือนตุลาคม ปรากฏการณ์ลานีญาอาจกลับมาและส่งผลให้ฝนตกเพิ่มมากขึ้น จึงต้องบริหารจัดการน้ำอย่างรัดกุม 

“ได้แจ้งให้ทุกหน่วยงานได้รับทราบการคาดการณ์ ทั้งกรมชลประทาน การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย และจังหวัดต่างๆ เพื่อวางแผนบริหารจัดการน้ำร่วมกัน ทั้งนี้ ในช่วงต้นเดือนมิถุนายน การคาดการณ์สถานการณ์แม่น้ำโขงจะมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น และจะประสานงานจังหวัดอย่างใกล้ชิด พร้อมเร่งสร้างการรับรู้ด้านสถานการณ์น้ำให้กับประชาชน เพื่อพร้อมรับมือฤดูฝนปีนี้ และบรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้นได้อย่างทันท่วงทีต่อไป ”