ครม.ไฟเขียว 'กาจผจญ' นั่งผู้ว่า รฟม. ลุย 'รถไฟฟ้า 20 บาท'

รายงานข่าวเปิดเผยว่า วันนี้ (4 มิ.ย.) ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงคมนาคม เสนอขอความเห็นชอบในการแต่งตั้งผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) โดยจะเสนอให้ นายกาจผจญ อุดมธรรมภักดี อดีตผู้บริหารการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เป็น ผู้ว่า รฟม. คนใหม่ หลังจากคณะกรรมการสรรหาได้ดำเนินการตามกระบวนการคัดเลือกผู้เหมาะสมดำรงตำแหน่งดังกล่าวในช่วงเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา

สำหรับ นายกาจผจญ อุดมธรรมภักดี เป็นหนึ่งใน 4 ผู้สมัครชิงตำแหน่งผู้ว่าการ รฟม. โดยประวัติการทำงานที่ผ่านมา ประกอบด้วย

– รักษาการผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาโครงการรถไฟฟ้า การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย

– ผู้ช่วยผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย

– รองผู้ว่าการ (ยุทธศาสตร์และแผน) การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.)

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า ปัจจุบันรัฐบาลโดยกระทรวงคมนาคมมีนโยบายหลักผลักดันอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้า 20 บาท ทุกสีทุกสาย ซึ่งจะต้องเกิดขึ้นตามเป้าหมายในเดือน ก.ย.นี้ ดังนั้นภารกิจเร่งด่วนที่ผู้ว่าฯ รฟม.คนใหม่ จะต้องเข้ามาดำเนินการ คือ การผลักดันนโยบายดังกล่าวให้เป็นรูปธรรม ควบคู่ไปกับการพัฒนาโครงการรถไฟฟ้าสายใหม่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตำแหน่งผู้ว่าฯ รฟม.เป็นตำแหน่งสำคัญต่อการผลักดันนโยบายและการขับเคลื่อนโครงการพัฒนารถไฟฟ้าที่จะมีการประมูลเกิดขึ้นในอนาคต โดยเฉพาะโครงข่ายรถไฟฟ้าสายสำคัญที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) ได้โอนให้กระทรวงคมนาคมดำเนินการพัฒนา ประกอบด้วย

รถไฟฟ้าสายสีเงิน เส้นทางบางนา-ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ระยะทาง 19.7 กิโลเมตร วงเงินลงทุนประมาณ 89,948.27 ล้านบาท โดยโครงการจะเชื่อมต่อโครงข่ายกับรถไฟฟ้า 2 สายทาง คือ รถไฟฟ้าสายสีเขียว (สถานีบางนา) และรถไฟฟ้าสายสีเหลือง (สถานีศรีเอี่ยม)

รถไฟฟ้าสายสีเทา ระยะที่ 1 ช่วงวัชรพล-ทองหล่อ ระยะทาง 16.3 กิโลเมตร วงเงินลงทุนประมาณ 29,130 ล้านบาท โดยโครงการนี้จะเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้า 5 สายทาง ประกอบด้วย 1. รถไฟฟ้าสายสีชมพู (สถานีวัชรพล) 2. รถไฟฟ้าสายสีน้ำตาล (สถานีคลองลำเจียก) 3. รถไฟฟ้าสายสีเหลือง (สถานีฉลองรัช) 4. รถไฟฟ้าสายสีส้ม (สถานีพระราม 9) และ 5. รถไฟฟ้าสายสีเขียว (สถานีทองหล่อ)

รถไฟฟ้าสายสีฟ้า ช่วงดินแดง-สาทร ระยะทาง  9.5 กิโลเมตร ซึ่งโครงการนี้แม้จะยังไม่มีการศึกษาประเมินวงเงินลงทุน แต่นับเป็นโครงข่ายสำคัญเข้าถึงพื้นที่กรุงเทพฯ ชั้นใน และสามารถเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน (สถานีลุมพินี) และรถไฟฟ้าสายสีเขียว (สถานีเพลินจิต)