ราคาน้ำมันดิบไหลลงต่อ เหตุกลุ่มโอเปกพลัส อาจเพิ่มการผลิต

รอยเตอร์ รายงานราคาน้ำมันดิบปรับตัวลงในวันศุกร์ ( 30 พ.ค.) เหตุจากการคาดการณ์ว่า กลุ่มโอเปกพลัส ในวันเสาร์จะตัดสินใจเพิ่มการผลิตน้ำมันในเดือนกรกฎาคมมากกว่าที่คาดไว้ก่อนหน้านี้

ราคาน้ำมันดิบเบรนท์สัญญาซื้อขายล่วงหน้าลดลง 22 เซ็นต์ หรือ 0.34% อยู่ที่ 63.93 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสอินเตอร์มีเดียต

ของสหรัฐฯ (WTI) ลดลง 21 เซ็นต์ หรือ 0.34% อยู่ที่ 60.73 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล โดยก่อนหน้านี้ลดลงมากกว่า 1 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ที่ระดับดังกล่าว สัญญาซื้อขายล่วงหน้าเดือนหน้าที่ใกล้หมดอายุมากที่สุด มีแนวโน้มลดลงมากกว่า 1% ต่อสัปดาห์

ราคาร่วงลงสู่ระดับติดลบ หลังจากสำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่ากลุ่มโอเปกพลัส อาจหารือเรื่องการเพิ่มการผลิตในเดือนกรกฎาคมมากกว่าการเพิ่มขึ้น 411,000 บาร์เรลต่อวัน ซึ่งกลุ่มโอเปกตัดสินใจกันไว้สำหรับเดือนพฤษภาคมและมิถุนายน

แมตต์ สมิธ หัวหน้านักวิเคราะห์ของ Kpler สำหรับทวีปอเมริกา กล่าวว่า “สิ่งที่โอเปกพลัสวางแผนไว้ดูจะไม่เอื้อต่อตลาดน้ำมันมากนัก”

คาดราคาน้ำมันลงลึกไปถึง 50 เหรียญ

การเพิ่มปริมาณการผลิตน้ำมันของโอเปกพลัสที่อาจเกิดขึ้นนั้นเกิดขึ้นในขณะที่ส่วนเกินทั่วโลกขยายตัวเป็น 2.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งน่าจะจำเป็นต้องมีการปรับราคาฟื้นฟูสมดุลของตลาด นักวิเคราะห์ของธนาคาร JPMorgan กล่าวในบันทึก โดยเสริมว่าคาดว่าราคาจะยังคงอยู่ในช่วงปัจจุบันก่อนที่จะลดลงสู่ระดับ 50 เหรียญสหรัฐในช่วงปลายปี

ฟิล ฟลินน์ นักวิเคราะห์อาวุโสของ Price Futures Group กล่าวว่าการโพสต์ออนไลน์ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ บนเว็บไซต์ Truth Social ซึ่งดูเหมือนว่าจะเตรียมขึ้นภาษีสำหรับสินค้านำเข้าจากจีนเพิ่มเติม  ความเคลื่อนไหวนี้กดดันราคาน้ำมันดิบอีกด้าน

“ข้อความ Truth Social ของทรัมป์ที่กล่าวโทษจีนไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงสงบศึกด้านภาษีนำเข้า รวมกับพาดหัวข่าวของ Reuters ทำให้ราคาน้ำมันลดลง” ฟลินน์กล่าว

คาดว่า ภาษีทรัมป์ จะยังคงมีผลบังคับใช้ต่อไปหลังจากที่ศาลอุทธรณ์ของรัฐบาลกลางได้สั่งให้มีการเรียกเก็บภาษีนี้อีกครั้งเป็นการชั่วคราวเมื่อวันพฤหัสบดี โดยพลิกคำตัดสินของศาลการค้าเมื่อหนึ่งวันก่อนหน้านั้นที่สั่งให้ระงับการเก็บภาษีศุลกากรในอัตราสูงดังกล่าวทันที