ดัชนี S&P 500 ปิดตลาด พ.ค.พุ่งขึ้น 6% แม้นโยบายการค้าสร้างความกลัว

ดัชนี S&P 500 ปิดตลาด พ.ค.พุ่งขึ้น 6% นักลงทุนยังคงมองข้ามความสับสนในนโยบายการค้าของประธานาธิบดีทรัมป์ ดัชนีทรงตัวในการซื้อขายวันศุกร์วันเปิดตลาดสุดท้ายของเดือน
ซีเอ็นบีซี รายงานภาวะตลาดหุ้นสหรัฐวันศุกร์ (30 พ.ค.) ว่า ดัชนี S&P 500 แทบไม่เปลี่ยนแปลงในวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยปิดตลาดในเดือนนี้สูงขึ้น เนื่องจากนักลงทุนสลัดความกลัวสงครามการค้าออกไป หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวว่าจีนละเมิดข้อตกลงการค้าเบื้องต้น
ดัชนี S&P 500 ซึ่งสะท้อนภาวะตลาดโดยรวมปรับตัวลดลง 0.01% ปิดที่ 5,911.69 จุด ดัชนีแนสแด็กNasdaq Composite ลดลง 0.32% ปิดที่ 19,113.77 จุด ขณะที่ดัชนีดาวโจนส์ Dow Jones Industrial Average เพิ่มขึ้น 54.34 จุด หรือ 0.13% ปิดที่ 42,270.07 จุด
การซื้อขายในวันศุกร์ถือเป็นการสิ้นสุดเดือนพฤษภาคมที่มีการซื้อขายอย่างแข็งแกร่งใน โดยมีการพุ่งขึ้นส่วนหนึ่งมาจากการประกาศข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐฯ และสหราชอาณาจักร นักลงทุนหวังว่าสิ่งนี้จะช่วยปูทางไปสู่ข้อตกลงเพิ่มเติมกับประเทศอื่นๆ
ดัชนี S&P 500 พุ่งขึ้น 6.2% ในเดือนนี้ ในขณะที่ดัชนี Nasdaq พุ่งขึ้นแรง 9.6% ในช่วงเวลาดังกล่าว ทั้งสองดัชนีทำสถิติเดือนที่ดีที่สุดนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2023 ดัชนี Dow ซึ่งมีหุ้น 30 ตัวเพิ่มขึ้น 3.9% ในเดือนนี้
ตลอดทั้งสัปดาห์ ดัชนี S&P 500 พุ่งขึ้น 1.9% ในขณะที่ดัชนี Dow เพิ่มขึ้น 1.6% ดัชนี Nasdaq ซึ่งเน้นหุ้นเทคโนโลยีพุ่งขึ้น 2%
ทรัมป์กล่าวหาจีนละเมิดข้อตกลงการค้าเบื้องต้น
หุ้นร่วงลงในช่วงเช้าวันศุกร์ หลังจากที่ทรัมป์โพสต์บนโซเชียลมีเดียว่าจีน "ละเมิด" ข้อตกลงการค้าปัจจุบันกับสหรัฐฯ ในเวลาต่อมาของวันซื้อขาย รายงานของบลูมเบิร์กซึ่งอ้างแหล่งข่าวใกล้ชิด ระบุว่ารัฐบาลมีแผนที่จะเพิ่มข้อจำกัดต่อภาคเทคโนโลยีของจีน
ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากสก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังกล่าวในการให้สัมภาษณ์กับทีวีฟ็อกซ์นิวส์ ว่าการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน "หยุดชะงักเล็กน้อย" ปัจจุบันนักลงทุนกำลังสงสัยว่าจะสามารถบรรลุข้อตกลงระยะยาวระหว่างจีนและสหรัฐฯ ได้หรือไม่ หรือเมื่อใด
ฝ่ายบริหารพบว่าแผนการเก็บภาษีศุลกากรในอัตราสูงและครอบคลุมหลายประเทศนั้นตกอยู่ในสถานะที่ไม่แน่นอนทางกฎหมาย ความกังวลทางกฎหมายเข้าสู่จุดเดือดหลังจากที่ศาลการค้าระหว่างประเทศของสหรัฐได้สั่งระงับการเรียกเก็บภาษีส่วนใหญ่ของทรัมป์เมื่อคืนวันพุธ
อย่างไรก็ตาม ในช่วงบ่ายวันพฤหัสบดีศาลอุทธรณ์ได้มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวให้ภาษีของทรัมป์ยังคงมีผลบังคับใช้ต่อไปจนถึงสัปดาห์หน้า
ฝ่ายบริหารของทรัมป์พิจารณาทางเลือก โดยจะใช้บทบัญญัติของพระราชบัญญัติการค้าปี 1974 เพื่อเรียกเก็บภาษีในอัตราสูงถึง 15% เป็นเวลา 150 วัน ตามรายงานของหนังสือพิมพ์ The Wall Street Journal
การต่อสู้ทางกฎหมายเกี่ยวกับภาษีศุลกากรเป็นการเพิ่มความไม่แน่นอนให้กับตลาดที่มีความไม่แน่นอนอยู่แล้ว นักลงทุนต่างเผชิญกับความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจมหภาคที่จะได้รับผลกระทบจากกำแพงภาษีศุลกากร และกังวลว่าการเปลี่ยนแปลงนโยบายการค้าของสหรัฐฯ อาจทำให้เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยได้
“เป็นช่วงเวลาที่น่ากระอักกระอ่วนใจ” เจย์ แฮตฟิลด์ ซีอีโอของบริษัทจัดการลงทุน Infrastructure Capital Management กล่าว “หากคุณเป็นนักลงทุน คุณควรเดิมพันกับผลกำไรที่ดี ไม่ใช่ทวีตดีๆ เกี่ยวกับภาษีศุลกากร”







