4 มิ.ย.'ศาลล้มละลาย' นัดไต่สวน 'การบินไทย' พ้นฟื้นฟู จับตาอดีตพนักงานยื่นค้าน

นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ ประธานคณะผู้บริหารแผนฟื้นฟู บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการดำเนินงานตามแผนฟื้นฟูกิจการ โดยระบุว่า ปัจจุบันการบินไทยถือว่าดำเนินงานตามแผนฟื้นฟูแล้วเสร็จมาเกือบ 100% โดยสามารถทำตามข้อกำหนดเงื่อนไขออกจากแผนฟื้นฟูในเรื่องทางการเงินสำเร็จ ปัจจุบันกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) เป็นบวกมากกว่า 2 หมื่นล้านบาท โดยมีสูงอยู่ที่ 4 หมื่นล้านบาท

อีกทั้งยังดำเนินการปรับโครงสร้างทุน ได้เงินใหม่มาจำนวนประมาณ 2.3 หมื่นล้านบาท ทำให้ส่วนทุนเป็นบวกเข้าหนึ่งในเงื่อนไขยื่นออกจากแผน และปัจจุบันการบินไทยได้จัดประชุมผู้ถือหุ้น เพื่อคัดเลือกกรรมการ (บอร์ด) ชุดใหม่แล้วเสร็จ โดยได้นัดปฐมนิเทศเพื่อหารือถึงแผนดำเนินงานและทิศทางของบริษัทไปแล้วเมื่อวันที่ 29 เม.ย.ที่ผ่านมา และกำหนดนัดครั้งที่ 2 ในวันที่ 12 มิ.ย.นี้ ซึ่งการดำเนินงานตามเงื่อนไขเหล่านี้เสร็จ ทำให้การบินไทยได้ยื่นคำร้องต่อศาลล้มละลายกลางเพื่อออกจากแผนฟื้นฟูกิจการ โดยศาลฯ มีคำสั่งไต่สวนนัดแรกวันที่ 4 มิ.ย.นี้

"หลังจากศาลมีคำสั่งให้การบินไทยออกจากแผนฟื้นฟู ก็จะสามารถกลับซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ฯ และกลับเข้าสู่การดำเนินธุรกิจแบบปกติ สิ้นสุดหน้าที่ของผู้บริหารแผน คืนอำนาจทั้งหมดกลับสู่ผู้บริหาร และบอร์ดชุดใหม่ ส่วนต่อไปในอนาคตองค์กรจะเป็นยังไง สิ่งแรกคือการบินไทยต้องไม่กลับไปเป็นเหมือนเดิม การคัดเลือก แต่งตั้งโยกย้าย ต้องเลือกคนที่เก่งที่สุด คนในก็ต้องเข้มแข็งอย่าไปยอมคนนอกเข้ามาแทรกแซง"

นายปิยสวัสดิ์ กล่าวต่อว่า ปัจจุบันเป็นระยะเวลากว่า 5 ปีแล้วที่การบินไทยเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการ อีกไม่นานศาลก็น่าจะอนุมัติให้ออกจากแผน และหลังจากนั้นองค์กรจะกลับไปทำธุรกิจเหมือนเดิม แต่เข้มแข็งหลังผ่านพ้นวิกฤตต่างๆ มาแล้ว ซึ่งผลของการเดินหน้าฟื้นฟูกิจการ ความร่วมมือของทุกคนในองค์กรที่ทำให้การบินไทยลดค่าใช้จ่าย และหารายได้มากขึ้น ทำให้ขณะนี้การบินไทยมีเงินสดในมือสะสมอยู่กว่า 1.28 แสนล้านบาท จากก่อนเข้าฟื้นฟูเผชิญภาวะขาดทุนต่อเนื่องสะสมถึง 6.6 หมื่นล้านบาท

ทั้งนี้ การเข้าฟื้นฟูกิจการในขณะนั้นทำให้การบินไทยต้องเจรจาเจ้าหนี้ และทำแผนจ่ายหนี้ ซึ่งขณะนี้การบินไทยจ่ายคืนหนี้เป็นไปตามแผน พร้อมทั้งมั่นใจว่ายอดหนี้ที่มีทั้งหมดรวม 93,776 ล้านบาท จะสามารถจ่ายได้ทั้งหมดตามแผนกำหนดในปี 2579 ส่วนกรณีที่เจ้าหนี้กลุ่มอดีตพนักงานการบินไทย ที่ถูกเลิกจ้างไปประมาณ 4,000 - 6,000 คนนั้น การบินไทยได้จ่ายเงินชดเชยตามกำหนด แต่ก็ยอมรับว่ามีพนักงานบางส่วนที่เรียกร้องว่ายังไม่ได้รับเงินชดเชย ซึ่งการบินไทยก็พร้อมจะดำเนินการจ่ายให้

"ตอนนี้ก็ได้ยินว่ามีพนักงานที่ถูกเลิกจ้างบางส่วนกำลังไม่พอใจ เพราะกล่าวถึงว่าบริษัทยังไม่ได้ชดเชยเงินให้ ซึ่งที่ผ่านมามีการไปฟ้องในชั้นศาลหลายแห่ง บริษัทก็ชนะทุกคดี เพราะยืนยันได้ว่าบริษัทได้ดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมายอย่างครบถ้วน มีการจ่ายค่าชดเชยและสิทธิประโยชน์ตามกฎหมายครบถ้วนสมบูรณ์"

ทั้งนี้ จากกรณีข้อพิพาทเลิกจ้างพนักงาน ทำให้มีอดีตพนักงานบางส่วนไปยื่นคำร้องต่อศาลล้มละลายว่าการบินไทยเลิกจ้างไม่เป็นธรรม และอดีตพนักงานเหล่านี้จะกลายเป็นเจ้าหนี้ของการบินไทย ซึ่งมีสิทธิในการคัดค้านกระบวนการตามแผนฟื้นฟูกิจการได้ อย่างไรก็ดี คงต้องรอศาลล้มละลายกลางพิจารณา ว่าจะมีการตีความเรื่องนี้อย่างไร จะรับฟังคำร้อง และมีผลต่อกระบวนการออกแผนฟื้นฟูของการบินไทยหรือไม่

ด้านตัวแทนสหภาพแรงงานการบินไทย (สร.กบท.) กล่าวว่า ทราบว่ากลุ่มอดีตพนักงานการบินไทยที่ถูกเลิกจ้างและคัดค้านแผนฟื้นฟูการบินไทยมาโดยตลอด มีจำนวนประมาณ 1,000 คน ซึ่งพนักงานกลุ่มนี้ไม่ให้ความร่วมมือต่อการฟื้นฟูกิจการมาโดยตลอด และเมื่อถูกบริษัทเลิกจ้างจึงไม่พอใจ มองว่าเป็นการเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรม ทั้งนี้คงต้องรอดูความเคลื่อนไหวของอดีตพนักงานกลุ่มนี้ ว่าจะมีการยื่นคัดค้านบริษัทออกจากแผนฟื้นฟู ตามที่ศาลล้มละลายมีคำสั่งนัดไต่สวนวันที่ 4 มิ.ย.นี้

อย่างไรก็ดี ในฐานะพนักงานการบินไทยที่อยู่ร่วมกับองค์กรในทุกขั้นตอนฟื้นฟูกิจการ มองว่าปัจจุบันพนักงานการบินไทยทุกคนพร้อมปรับตัว และสนับสนุนแผนดำเนินธุรกิจที่ทีมผู้บริหารกำหนดไว้ เพราะผลสำเร็จในช่วงฟื้นฟูกิจการแสดงให้เห็นแล้วว่าเป็นทีมผู้บริหารที่ทำงานจริง และเห็นแก่ประโยชน์องค์กร โดยในฐานะพนักงานขอให้คะแนนความสำเร็จของแผนฟื้นฟูกิจการนี้ 100% และหวังว่าบอร์ดชุดใหม่ที่จะเข้ามากำหนดดูแลองค์กรจะไม่มีการแทรกแซงทางการเมือง ไม่ทำให้การบินไทยกลับไปสู่จุดเดิม