ฟัง ผู้ว่าแบงก์ชาติ ดีกว่าการหว่านแหตาถี่

ฟัง ผู้ว่าแบงก์ชาติ ดีกว่าการหว่านแหตาถี่

ภาพการรับประทานอาหารกลางวันด้วยกันเพียงลำพังระหว่าง นายกรัฐมนตรี กับ ผู้ว่าแบงก์ชาติ ได้รับการวิพากษ์จากหลายฝ่าย

ส่วนใหญ่ดูจะมองไปในทางร้ายมากกว่าในทางดี ทั้งนี้คงมีปัจจัยหลายอย่างประกอบกัน

ในเบื้องแรก การเชิญผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ไปปรึกษาหารือตามลำพังดังปรากฏนั้นเป็นเรื่องไม่ธรรมดาเนื่องจากไม่ปรากฏว่าเคยทำกันมาก่อนจนเป็นประเพณี 

นายกฯ อาจมีเจตนาดีที่จะปรึกษาผู้ว่าฯ อย่างตรงไปตรงมาเนื่องจากผู้ว่าฯ เป็นนักวิชาการที่มีความเชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจและการเงิน 

อย่างไรก็ดี มีผู้มองว่ารัฐบาลต้องการกดดันผู้ว่าฯ ให้คล้อยตามนโยบายของรัฐบาลซึ่งมักยึดหลักผลตอบแทนทางการเมืองเหนือปฏิกิริยาลูกโซ่ที่จะมีต่อไปโดยเฉพาะในทางลบต่อเศรษฐกิจและการเงิน

ฟัง ผู้ว่าแบงก์ชาติ ดีกว่าการหว่านแหตาถี่

ส่วนผู้ว่าฯ มีหน้าที่ดูแลเสถียรภาพทางการเงินและเศรษฐกิจตามหลักวิชาการ  มุมมองนี้ยิ่งมีน้ำหนักมากขึ้นเมื่อสื่อหลายสำนักรายงานว่า ผู้ว่าฯ แสดงทีท่าต่อต้านมาตรการของรัฐบาลที่จะหว่านเงินดิจิทัลมูลค่าเท่ากับ 10,000 บาทให้แก่คนไทยอายุ 16 ปีขึ้นไปทุกคน

ซึ่งรวมกันเป็นจำนวนกว่า 5.5 แสนล้านบาท  เงินนี้ต้องใช้ภายในรัศมี 4 กม. ของบ้านผู้รับให้หมดไปภายใน 6 เดือน

ณ วันนี้ยังไม่มีความกระจ่างอย่างแน่ชัดว่าเงินจำนวนกว่า 5.5 แสนล้านบาทนั้นรัฐบาลจะเอามาจากไหนและเพราะอะไรจึงจะต้องหว่านไปในรูปของเงินดิจิทัล  ความไม่กระจ่างนี้ทำให้มีการคาดการณ์กันไปต่าง ๆ นานา ซึ่งมักเป็นในทางร้ายมากกว่าในทางดี รวมทั้งการมีผลประโยชน์ทับซ้องของตัวนายกฯ เอง

ตามรายงานของสื่อ ผู้ว่าฯ ตั้งประเด็นเกี่ยวกับการหว่านเงินแบบมักง่ายเพราะเป็นการใช้เงินในรูปที่ไม่มีทางคุ้มค่า กล่าวคือ แจกให้ทุกคนไม่ว่าจะจนหรือรวย  เงิน 10,000 บาทย่อมมีผลดีต่อคนจนที่ขาดแคลนปัจจัยสี่อย่างหนักแน่นอน 

ส่วนคนรวยที่ไม่เดือนร้อนด้านการเงินอาจนำไปใช้แทนเงินที่เขาจะใช้อยู่แล้ว  ในกรณีนี้ มันจะไม่มีผลในด้านการกระตุ้นเศรษฐกิจตามความคาดหวังของรัฐบาลซึ่งผู้ว่าฯ เห็นว่าไม่น่าจะต้องกระตุ้น  หากมันถูกนำไปใช้ซื้อหาสิ่งต่าง ๆ มาบริโภคเกินความจำเป็นเพิ่มขึ้น

มันอาจจะกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้น แต่มันจะสร้างความเสียหายในระยะยาวทั้งต่อตัวผู้บริโภคและต่อโลกโดยรวม 

รัฐบาลจะเริ่มดำเนินมาตรการหว่านเงินดิจิทัล 10,000 บาทในเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า  เมื่อถึงวันนั้น ความไม่กระจ่างอย่างแน่ชัดคงจะถูกขจัดออกไปหมดแล้ว

ฟัง ผู้ว่าแบงก์ชาติ ดีกว่าการหว่านแหตาถี่

ดังเป็นที่ทราบกันดี ทันทีที่เข้ามาบริหารบ้านเมือง รัฐบาลต้องการแสดงผลงานด้วยมาตรการลดราคาพลังงานทั้งไฟฟ้าและน้ำมันดีเซลพร้อมกับมาตรการพักชำระหนี้เป็นเวลา 3 ปีสำหรับผู้มีกิจการขนาดเล็กทั้งในและนอกภาคเกษตรกรรม 

มาตรการลดราคาพลังงานย่อมจะมีผลดีต่อคนมีเงินมากกว่าต่อคนจนซึ่งโดยทั่วไปไม่มีรถยนต์และใช้ไฟฟ้าเพียงจำกัด  ในกรณีการพักชำระหนี้ ผู้ประกอบการที่ไม่มีหนี้ล้นพ้นตัวจะได้รับผลดีเป็นเวลา 3 ปีด้วยเช่นกัน 

มาตรการในสองด้านนี้พร้อมกับมาตรการหว่านเงินดิจิทัลเป็นเสมือนการหว่านแห หรือลากอวนตาถี่ซึ่งมีข้อเสียสูงมากเนื่องมันจับทุกอย่างที่ขวางหน้า และเป็นประชานิมยมแบบเลวร้าย มิใช่รัฐสวัสดิการเพราะผู้ไม่มีความจำเป็นก็ได้รับผลประโยชน์โดยตรงด้วย

สื่อรายงานพร้อมกันว่า นายกฯ ตั้งใจจะปรึกษาหารือกับผู้ว่าฯ เป็นประจำทุกเดือน อาจจะผ่านการรับประทานอาหารด้วยกัน หรือการสนทนาทางโทรศัพท์ 

แม้การกระทำแบบนี้จะไม่มีพระเพณีที่ชาวโลกทำกันอย่างแพร่หลาย แต่มันไม่น่าจะมีความเสียหายร้ายแรงหากนายกฯ มีความจริงใจในการแสดงหาคำแนะนำจากผู้ว่าฯ

ซึ่งนักเศรษฐศาสตร์โดยทั่วไปเชื่อว่าจะคัดค้านการใช้มาตรการ 2 อย่างที่จะทำให้การหว่านเงินแบบหว่านแหตาถี่ หรือมาตรการประชานิยมแบบเลวร้ายพาเมืองไทยไปสู่ความหายนะโดยเร็ว

นั่นคือ การนำเงินสำรองกองใหญ่ออกมาใช้ซึ่งเคยมีผู้คิดจะทำมาก่อน และการพิมพ์เงินตราออกมาเพิ่มจำนวนมากเนื่องจากรัฐบาลไม่ต้องการหาเงินจากทางอื่น หรือหมดทางหาเงินมาใช้ต่อไปแล้ว.