EV เกาหลีสนลงทุน ‘ไทย’ BOI ดึงกลุ่มมอเตอร์ไซค์ ยานยนต์เกษตร
BOI มั่นใจเทรนด์ลงทุน EV ขยายตัวต่อเนื่อง เผยบริษัทเกาหลีสนใจลงทุนในไทย โฟกัสกลุ่มยานยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็ก ยานยนต์เพื่อการเกษตร ดึงผู้ประกอบการไทยเจรจาร่วมทุน
นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า แนวโน้มการลงทุนในอุตสาหกรมยานยนต์ไฟฟ้า (EV) มีความคึกคักอย่างมาก จากการดำเนินนโยบายส่งเสริมการลงทุนในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา จะเห็นได้ว่าปัจจุบันมีผู้เล่นรายใหม่ที่เข้ามาลงทุนในไทยเพิ่มมากขึ้น อาทิ BYD, Great Wall Motor, Neta ซึ่งยังมีอีกหลายบริษัทที่อยู่ระหว่างการเจรจาและเตรียมยื่นส่งเสริมการลงทุนในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ไปจนถึงต้นปีหน้า
“จะเห็นได้ว่าค่ายรถยนต์ใหญ่ๆ ได้ตัดสินใจเข้ามาลงทุนในไทยแล้วหลายราย รวมทั้งมีค่ายรถยนต์เดิมในประเทศที่เริ่มผลิตและประกอบรถยนต์ประเภทแบตเตอรี่ไฟฟ้า (BEV) ในไทยแล้ว เช่น Benz EQS ขณะที่ยังมีอีกหลายรายที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างโรงงาน ติดตั้งเครื่องจักร และเตรียมพร้อมที่จะเริ่มการผลิตและส่งออกรถอีวีตั้งแต่ปี 2567 เป็นต้นไป โดยหลายบริษัทที่ตัดสินใจลงทุนผลิตอีวีในไทยจะมุ่งผลิตเพื่อป้อนตลาดในประเทศ รวมทั้งใช้ไทยเป็นฐานผลิตเพื่อส่งออกรถอีวีพวงมาลัยขวาในการส่งออกไปทั่วโลก”
รวมทั้งเมื่อเร็วๆ นี้ บีโอไอได้หารือร่วมกับ นายคัง จุงมัน นายกเทศมนตรีเมืองยองกวาง เกาหลีใต้ พร้อมด้วยผู้ประกอบการที่เป็นสมาชิกของสมาคมนวัตกรรมยานยนต์ไฟฟ้าแห่งเกาหลีใต้ (Korea Smart e - Mobility Association: KEMA) โดยส่วนใหญ่เป็นผู้ผลิตยานยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็ก มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า และยานพาหนะไฟฟ้าเพื่อการเกษตร รวมกว่า 20 ราย ซึ่งมองเห็นโอกาสและมีความสนใจที่จะศึกษาแนวทางการลงทุนอีวีในไทย
โดย บีโอไอได้เชิญผู้ประกอบการไทย ได้แก่ บริษัท พนัส เอสเซมบลีย์ จำกัด และ บริษัท เน็กซ์ พอยท์ จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตรถบัสและรถยนต์เชิงพาณิชย์รายใหญ่ของไทย เข้าร่วมหารือในครั้งนี้ด้วยเพื่อพูดคุยถึงความเป็นไปได้ในการร่วมลงทุนกับเกาหลี
ทั้งนี้ เมืองยองกวาง เป็นเมืองที่มีอัตราการใช้รถยนต์ไฟฟ้าสูงสุดเป็นอันดับ 1 ของเกาหลีใต้ และเป็นเมืองแรกที่รัฐบาลเกาหลีใต้กำหนดให้เป็นเมืองต้นแบบในการผ่อนปรนกฎระเบียบสำหรับรถยนต์ EV และเป็นศูนย์กลางการพัฒนาเทคโนโลยีการขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า (E-Mobility Cluster) ของประเทศ
“การแลกเปลี่ยนกันในครั้งนี้ ทำให้บีโอไอมองเห็นความเป็นได้ที่ไทยจะมีการส่งเสริมการลงทุนผลิตอีวีในรูปแบบผลิตภัณฑ์ที่หลายหลายมากขึ้น อาทิ ยานยนต์ไฟฟ้าเพื่อการเกษตร รวมถึงยานยนต์ไฟฟ้าส่วนบุคคล เช่น จักรยานไฟฟ้า สกู๊ตเตอร์ และมินิอีวี 2 ที่นั่ง”