ม.หอการค้าไทย ชี้ ท่องเที่ยว เครื่องจักรสำคัญฟื้นเศรษฐกิจประเทศ

นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวในงานสัมมนา และเสวนา “ข้อคิดเห็นจากภาคธุรกิจต่อรัฐบาล ขับเคลื่อนการท่องเที่ยวและบริการอย่างไร ให้มั่นคงและยั่งยืน”ในวาระครบรอบ 60 ปี แห่งการสถาปนา มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย โดยความร่วมมือของคณะการท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมบริการ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย คณะการจัดการ การท่องเที่ยว สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) สมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก ประจำประเทศไทย และภาคีเครือข่ายการท่องเที่ยว ว่า  เศรษฐกิจไทยเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงหลายด้าน ปีนี้การท่องเที่ยวเป็นเครื่องจักรสำคัญในการฟื้นเศรษฐกิจของประเทศ ท่ามกลางสถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่มีความผันผวน ซึ่งประเทศไทยเป็นประเทศที่มีจุดสนใจคือ วัฒนธรรม อาหารและคนไทย ซึ่งทั้ง 3 สิ่งนี้เป็นแรงดึงดูดให้นักท่องเที่ยวทั่วโลกเดินทางมาท่องเที่ยวไทยทำให้ไทยติดท็อปเทนของโลก

ทั้งนี้การท่องเที่ยวจะช่วยเศรษฐกิจไทยฟื้น สร้างการจ้างงาน ดึงเงินเข้าประเทศ ช่วยลดความเหลื่อมล้ำ ซึ่งการท่องเที่ยวไทยสร้างมีรายได้เข้าประเทศหลายแสนล้านบาท แม้ปีนี้เศรษฐกิจจะชะลอตัว แต่ในปีหน้าเศรษฐกิจโลกจะฟื้นกลับมาแน่ โดยในปีนี้หอการค้าเชื่อว่าเศรษฐกิจไทยจะโตอยู่ที่ 3.6% และมองว่าภาคการท่องเที่ยวจะเป็นตัวช่วยฟื้นเศรษฐกิจไทย เนื่องจากผลผลิตทางการเกษตรดีขึ้น รายได้เกษตรฟื้นตัว ทำให้มิติการท่องเที่ยวในประเทศก็น่าจะโดดเด่นมากขึ้น บวกกับการเข้ามาของนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยมีนักท่องเที่ยวอินเดีย จีน และมาเลเซีย เป็นนักท่องเที่ยวอันดับแรกๆ ที่เข้ามาเที่ยวไทย ซึ่งจากข้อมูลพบว่า เศรษฐกิจในประเทศเหล่านี้มีภาพของการฟื้นตัวมากที่สุด ทำให้การท่องเที่ยวฟื้นตัวได้แน่นอน

จากตัวเลขสรุปท่องเที่ยว 5 เดือนแรกของปี ที่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาเที่ยวไทย สะสมแล้ว 10,568,485 คน สร้างรายได้แบ่งเป็นคนไทย 9.59 แสนล้านบาท ต่างชาติ 5.8 แสนล้านบาทแล้ว โดยหากบรรยากาศเศรษฐกิจโลกไม่เกิดการสะดุดอะไรขึ้นอีก นักท่องเที่ยวต่างชาติ 25-30 ล้านคน มีโอกาสเกิดขึ้นได้สูงมาก ซึ่งสำรวจความคิดเห็นของภาคธุรกิจ และหอการค้าทั่วประเทศ พบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทยเดือนพ.ค.2566 ซึ่งเป็นอยู่ที่ระดับ 53.6 เพิ่มขึ้นจากระดับ 51.9 ในเดือนเม.ย.66 โดยดัชนีหอการค้าไทยปรับตัวดีขึ้นทุกภาคขึ้นสูงกว่าระดับ 50 โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัว  ซึ่งตัวเลขนักท่องเที่ยวในครึ่งปีแรกเข้ามาแล้ว 12 ล้านคน  คาดว่าทั้งปีน่าจะอยู่ที่ 25-30 ล้านคน

โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากจีนเข้ามากกว่าล้านคน   หากว่าไม่สะดุดจากสถานการณ์การเมืองนอกสภา จนสถานทูตออกโรงเตือนคนของตัวเองเข้ามาในประเทศไทย ก็เชื่อว่าทั้งปีจะมีนักท่องเที่ยว 25-30 ล้านคนแน่ ซึ่งจะทำให้ภาคการท่องเที่ยวไทยฟื้นส่งผลต่อภาคส่วนอื่นๆ ทั้ง ภาคการขนส่ง ภาคบริการ การบริโภคภายในประเทศ การลงทุน การส่งออกของไทย

“นักท่องเที่ยวไม่ได้ชะลอการเดินทางเพื่อรอดูนโยบายรัฐบาลใหม่ หรือให้ความสนใจว่าไทยจะได้ใครเป็นนายกรัฐมนตรี แต่สนใจในประเด็นการเมืองนอกสภา หรือการชุมนุมประท้วงเท่านั้น หากไม่มีการเมืองที่รุนแรง และทำทุกอย่างเอื้ออำนวยเพียงพอต่อนักท่องเที่ยว เชื่อว่า นักท่องเที่ยวจะเข้ามาเฉลี่ยเดือนละ 2.5 ล้านคน และคาดว่าทั้งปีน่าจะอยู่ที่ 25-30 ล้านคน และเป้าหมายรายได้จากการท่องเที่ยว  2.38 ล้านล้านบาท ตามที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ตั้งเป้าหมายไว้ เชื่อว่าทำได้อย่างสบาย โดยจากนี้หอการค้าจะนำสมุดปกขาวเสนอให้นายกฯ ใหม่ทันทีที่รับตำแหน่ง” นายธนวรรธน์ กล่าว

 

 

 

นายชำนาญ ศรีสวัสดิ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย กล่าวว่า  ประเทศไทยมีศักยภาพในด้านการท่องเที่ยว ซึ่งปีนี้คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามารวม 20-30 ล้านคน ดังนั้นเราจะต้องเตรียมความพร้อม อำนวยความสะดวกในการรับนักท่องเที่ยวตั้งแต่ก้าวเข้าประเทศ รัฐบาลใหม่จะต้องเข้ามาบริหารจัดการให้การท่องเที่ยวเป็นวาระแห่งชาติ  ให้นายกฯ นั่งหัวโต๊ะ เพราะหากรัฐบาลต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจ การท่องเที่ยวเป็นหัวใจหลักในการสร้างรายได้ให้กับประเทศ และจะให้ประเทศไทยกลายเป็นมหาอำนาจด้านการท่องเที่ยวของโลก

นางมาริสา สุโกศล หนุนภักดี นายกสมาคมโรงแรมไทย กล่าวว่า  ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ถือเป็นความทรมานของกลุ่มธุรกิจโรงแรมเพราะไม่มีนักท่องเที่ยว  ซึ่งหลังโควิด-19 ไทยเป็นประเทศในอันดับต้นๆ ที่เปิดรับนักท่องเที่ยว จนถึงปัจจุบันก็มีมากขึ้นใกล้เป็นปกติ ก็ทำให้รายได้ของธุรกิจโรงแรมปรับตัว ดีขึ้น  นักท่องเที่ยวต่างชาติเริ่มมาเรื่อยๆ โดยเฉพาะยอดการจองโรงแรมในช่วงปลายปีถือว่าดี โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวยุโรป ส่วนนักท่องเที่ยวไทยยังน้อยอาจเป็นเพราะปัญหาอากาศร้อน เที่ยวบินมีราคาแพง ปัญหาฝุ่นPM 2.5   ส่วนจำนวนนักท่องเที่ยวที่ประเมินไว้ว่าทั้งปีจะมี 25 ล้านคน

 

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์