วินจักรยานยนต์ - แท็กซี่ บุก 'คมนาคม' ร้องสอบบริการขนส่งผ่านแอปฯ

นายสันติ ปฏิภาณรัตน์ นายกสมาคมผู้ขับขี่จักรยานยนต์ไฟฟ้า EV รับจ้างสาธารณะ พร้อมด้วยนายอนุวัตร ยาวุฒิ นายกสมาคมแท็กซี่ยานยนต์ไฟฟ้า และสมาชิกกว่า 30 คน มายื่นหนังสือถึงนายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ในฐานะรักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมระบุว่า การเดินทางมายื่นหนังสือครั้งนี้เพื่อเร่งรัดการปฏิบัติตามกฎกระทรวงรถยนต์รับจ้างระบบอิเล็กทรอนิกส์และการปรับอัตราค่าโดยสาร

โดยนายสันติ กล่าวกว่า รถจักรยานยนต์รับจ้างสาธารณะ และแท็กซี่ได้รับความเดือดร้อนมาหลายปี จากกรณีที่มีแอปพลิเคชันขนส่งมีการอนุญาตให้รถส่วนบุคคลมาบริการสาธารณะ ทำให้ผู้ประกอบการขนส่งสาธารณะที่จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายได้รับความเดือดร้อน ซึ่งเรื่องดังกล่าวกสมาคมฯ ได้ทำหนังสือร้องเรียนมายังกระทรวงคมนาคมแล้วหลายครั้ง แต่ยังไม่ได้รับการแก้ไขให้แล้วเสร็จ

สำหรับปัญหาที่เกิดขึ้นและต้องการให้กระทรวงฯ เร่งแก้ไข ประกอบด้วย 5 ข้อดังนี้

1.ขอให้ทบทวนเรื่องหมวดรถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล หรือ ป้ายขาว ที่นำมาจดทะเบียนเป็นป้ายสาธารณะ หรือป้ายเหลือง วิ่งผ่านแอปพลิเคชัน และเรื่องเสื้อกั๊ก ที่กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) แจ้งว่า ได้ส่งเรื่องให้กระทรวงคมนาคมพิจารณาแล้ว แต่ยังไม่ทราบผล

2.ขบ. ได้ประกาศรับรองแอปพลิเคชัน สำหรับรถยนต์รับจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ของ บริษัท แกร็บ (Grab) แล้ว แต่ปัจจุบันบริษัทยังนำรถผิดกฎหมายมาให้บริการอยู่ ซึ่งเป็นการนำรถผิดกฎหมายมาแข่งขันแบบไม่เป็นธรรมกับวินมอเตอร์ไซค์รับจ้างที่อยู่ในระบบ

3.บริษัทแกร็บยังสนับสนุนให้สมาชิกมารับผู้โดยสารที่หน้าวิน สร้างความเดือดร้อนรำคาญให้กับผู้ขับขี่วินทั่วพื้นที่กรุงเทพฯ ทั้งที่มีประกาศออกมาชัดเจนว่า ห้ามรถจักรยานยนต์รับจ้างให้บริการผ่านแอปพลิเคชันมารับผู้โดยสารที่หน้าวิน แต่บริษัทยังให้สมาชิกมารับหน้าวินเหมือนเดิม

4.เมื่อไหร่ ขบ.จะบังคับใช้กฎหมายกับบริษัทแกร็บให้หยุดนำรถผิดกฎหมายมาให้บริการเสียที ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด

5.ให้เร่งรัดขึ้นทะเบียนวิน และผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์สาธารณะใหม่ เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ที่ต้องการประกอบอาชีพวินจักรยานยนต์รับจ้างเข้ามาสู่ระบบ

ด้านนายอนุวัตร กล่าวว่า ที่ผ่านมาสมาคมฯ เห็นด้วยกับการออกกฎกระทรวงรถยนต์รับจ้างระบบอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อนำรถยนต์ส่วนบุคคลมาจดทะเบียนเป็นรถยนต์รับจ้างมาแข่งขันอย่างเท่าเทียมกับาอาชีพแท็กซี่ แต่จากข้อมูล ขบ. เมื่อเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา ปรากฏว่า มีรถยนต์ส่วนบุคคลมาจดทะเบียนเป็นรถยนต์รับจ้างเพียง 537 คัน สมาคมฯ จึงมีความเห็นว่าบริษัทแอปพลิเคชันดังกล่าวไม่มีความจริงใจ ในการนำรถยนต์ส่วนบุคคลมาจดทะเบียนเป็นรถรับจ้าง

อย่างไรก็ดี สมาคมฯ มีข้อเรียกร้องให้กระทรวงฯ เร่งรัดดำเนินการ 3 ข้อ คือ

1.กระทรวงคมนาคม และ ขบ. จะมีมาตรการใด หากแอปฯ ยังนำรถยนต์ส่วนบุคคลที่ยังไม่ได้จดทะเบียนรับรองเป็นรถรับจ้างให้บริการ

2.การนำรถยนต์ส่วนบุคคลมารับจ้างผ่านแอปฯ โดยที่ไม่นำไปจดทะเบียน สมาคมฯ เห็นว่าทำให้ผู้ประกอบอาชีพแท็กซี่ได้รับความเสียหาย เนื่องจากผู้ใช้บริการลดลงไปใช้บริการรถที่ผิดกฎหมาย ดังนั้นกระทรวงคมนาคม และ ขบ. จะดำเนินมาตรการอย่างไรที่จะนำรถยนต์ที่ผิดกฎหมายออกจากแอปฯ

3.กฎกระทรวงรถรับจ้างบรรทุกคนโดยสารไม่เกิน 7 คน ซึ่งใช้มายาวนาน ควรออกกฎกระทรวงรถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารไม่เกิน 7 คนขึ้นมาใหม่ให้ทันกับสถานการณ์ และขอให้ตั้งอนุกรรมการขึ้นมา 1 คณะ เพื่อศึกษาในการปรับอัตราค่าโดยสาร เพื่อให้ได้อัตราค่าโดยสารที่สะท้อนต้นทุนที่แท้จริง