FED มุ่งมั่นคุมเงินเฟ้อ (18 สิงหาคม 2565)

FED มุ่งมั่นคุมเงินเฟ้อ (18 สิงหาคม 2565)

ตลาดหุ้นวานนี้ SET Index เพิ่มขึ้น 10 จุด จาก Fund flow ไหลเข้า โดยนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิต่อเนื่องเป็นวันที่ 8 อีก 5,701 ล้านบาท หนุนหุ้น Big cap ปรับตัวขึ้นเด่น นำโดยกลุ่มโรงกลั่น (SPRC ESSO BCP TOP) และ กลุ่มธนาคาร (KBANK SCB TTB)

อีกทั้งยังมีแรงซื้อหุ้นในกลุ่ม Domestic play ซึ่งเป็นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันลง อาทิ กลุ่มค้าปลีกและกลุ่มโรงไฟฟ้า

 

แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้      

ประเมิน SET อ่อนตัวแนวรับ 1,625 - 1,630 จุด แม้ Fund flow ต่างชาติที่ไหลเข้าต่อเนื่อง (Net buy 3.5 หมื่นลบ. MTD.)จะเป็นแรงหนุนดัชนี อย่างไรก็ตามความกังวล FED ขึ้นดอกเบี้ยกลับมากดดันอีกครั้งหลังรายงานการประชุม FED ระบุจะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อฉุดเงินเฟ้อให้ลดลงสู่ระดับที่ควบคุมได้ ประกอบกับภาวะ Overbought ตามทางเทคนิคที่จะเป็นอีกแรงกดดันต่อภาวะการลงทุน

 

กลยุทธ์การลงทุน: Selective Buy

           KBANK BBL SCB KTB TTB  อานิสงส์ดอกเบี้ยขาขึ้น  

          GPSC BGRIM GULF RATCH SCGP SCC EPG TASCO  อานิสงส์ราคาน้ำมันดิบอ่อนตัวลง 

          BEM BTS INTUCH ADVANC DTAC BDMS BH หุ้น Defensive ในช่วงตลาดผันผวน

 

หุ้นแนะนำวันนี้

TTB (ปิด 1.22 ซื้อ/เป้า 1.60 บาท) ราคาหุ้น Underperform ตลาดมาก YTD ติดลบ 17% ขณะที่ภาพรวมธุรกิจได้ประโยชน์จากทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้น และ TTB คาดว่าจะเป็นธนาคารที่มีอัตราการเติบโตของกำไรสุทธิ 20% ในปีนี้ดีสุดของกลุ่มธนาคารขนาดกลางถึงเล็ก

SNNP (ปิด 16.50 ซื้อ/เป้า 18 บาท) ผลประกอบการทยอยฟื้นตัว ได้รับผลกระทบจากต้นทุนวัตถุดิบไม่มากสะท้อนจากงบ 2Q22 ที่เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 116 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10%qoq และ 51%yoy แนวโน้มครึ่งปีหลังดีต่อเนื่องจาก GPM ที่เพิ่มขึ้นหลังราคาข้าวสาลีซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักปรับตัวลง

 

 

 

บทวิเคราะห์วันนี้

BANPU, CKP, CHG

 

ประเด็นสำคัญวันนี้

  (+/-) FED Minutes หนุนขึ้นดอกเบี้ยแต่ไม่จำเป็นต้องเร่งขึ้นเหมือนสองครั้งที่ผ่านมา: เฟดเปิดเผยรายงานการประชุม (FED Minutes) ออกมาตามที่เราคาดไว้ โดยคณะกรรมการส่วนใหญ่สนับสนุนให้เฟดเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ อย่างไรก็ตามด้วย ศก. สหรัฐที่เสี่ยงเกิดภาวะถดถอย การปรับขึ้นดอกเบี้ยจึงไม่จำเป็นต้องเร่งขึ้น 0.75% เหมือนสองครั้งที่ผ่านมา (FED Watch tools ปรับเพิ่มโอกาสที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ย 0.5% เป็น 64.5% จากเดิม 59%)

  (-) ดาวโจนส์ลดลง 172 จุด ผิดหวังกำไรหุ้นในกลุ่มค้าปลีก: ดัชนีตลาดหุ้นดาวโจนส์ลดลง 172 จุด (-0.5%) ปิดที่ระดับ 33,980 จุด จากแรงเทขายหุ้นในกลุ่มค้าปลีก หลังจาก ทาร์เก็ต ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกรายใหญ่ของสหรัฐประกาศงบ 2Q22 มีกำไรต่อหุ้นต่ำเพียง 39 เซนต์/หุ้น ลดลง 90% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมาที่  3.65 ดอลลาร์ต่อหุ้น จากการลดราคาสินค้าเพื่อระบายสต็อกจำนวนมากในคลังสินค้า

  (+) สต็อกน้ำมันในสหรัฐลดลงหนุนราคาน้ำมันดิบฟื้นตัว: ราคาน้ำมันดิบ WTI กลับมาเพิ่มขึ้น 1.58$ (+1.8%) ปิดที่ระดับ 88.11 $/bbl ตอบรับข่าวสหรัฐรายงานตัวเลขสต๊อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ลดลง 7.1 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงเพียง 1.7 ล้านบาร์เรล เช่นเดียวกับน้ำมันเบนซินลดลง 4.6 มากกว่าที่ตลาดคาดว่าจะลดลง 1.7 ล้านบาร์เรลเช่นกัน