ยังเป็นตลาดแบบเลือกรายตัว คาด SET แกว่ง 1,605-1,640 จุด

ยังเป็นตลาดแบบเลือกรายตัว คาด SET แกว่ง 1,605-1,640 จุด

ข้อมูลเศรษฐกิจจีนอ่อนแอส่งผลผสมผสานต่อตลาด จีนรายงานข้อมูลเศรษฐกิจหลายตัวที่อ่อนแอลงและน่าผิดหวัง อาทิ ยอดค้าปลีก ก.ค. +2.7% (ต่ำกว่าตลาดคาดที่ +5% และชะลอลงจากมิ.ย.ที่ +3.1%) ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม ก.ค. +3.8% (ต่ำกว่าตลาดคาดที่ +4.6% และชะลอลงจากมิ.ย.ที่ +3.9%)

ขณะที่ยอดลงทุนสินทรัพย์ถาวร (ม.ค.-ก.ค.) +5.7% (ต่ำกว่าตลาดคาดที่ +6.2%) การชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนทำให้ตลาดประเมินความต้องการสินค้าโภคภัณฑ์หลายตัวมีโอกาสปรับลดลง ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบปรับลดลงราว 3% โดย WIT และ Brent ซื้อขายที่ $89 และ $94 ตามลำดับ ทั้งนี้ราคาพลังงานที่ลดลงคาดมีผลผสมผสานต่อตลาด ในเชิงลบอาจกระทบต่อบรรยากาศการลงทุนสินทรัพย์เสี่ยง แต่ในมุมมบวกราคาพลังงานที่ลดลงจะลดความกังวล เกี่ยวกับคาดการณ์เงินเฟ้อได้ โดยรวมเรามองสถานการณ์ดังกล่าวยังคงเป็นบวกต่อบรรยากาศลงทุน

 

ความกังวลต่อ GDP วันนี้น้อยกว่า 1 เดือนก่อนหน้า สภาพัฒน์ฯ รายงาน GDP ไตรมาส 2/65 ที่ +2.5% YoY (ต่ำกว่าตลาดคาดที่ +3.1% แต่ดีขึ้นเล็กน้อยจากไตรมาส 1/65 ที่ +2.2%) แม้การเติบโตจะต่ำกว่าตลาดคาด แต่ไม่ส่งผลต่อตลาดอย่างมีนัยสำคัญ และน้อยกว่าความกังวลในช่วง 1 เดือนก่อนหน้ามาก เนื่องจากสิ่งที่ตลาดกังวลจริงๆคือแนวโน้มผลประกอบการที่อาจจะชะลอตัวลง ดังนั้นการรายงาน GDP ที่ฟื้นตัวต่ำคาด ในจังหวะที่ผลประกอบการส่วนใหญ่ประกาศแล้ว และผลประกอบการโดยรวมมีการเติบโตที่ดีราว 26-27% YoY ทำให้ตลาดมองข้ามตัวเลขไตรมาสนี้ ไปยังแนวโน้มการฟื้นตัวที่จะชัดเจนมาขึ้นในครึ่งปีหลัง 
 

 

 

ประเด็นเก็งกำไรอื่น 1) กลุ่มเครื่องดื่ม อาทิ OSP, CBG, ICHI, SAPPE 2) กลุ่มท่องเที่ยว AOT, CENTEL, ERW, MINT, BAFS, AAV, SHR, VRANDA, SPA 3) กลุ่มเปิดเมือง CPALL, MAKRO, MAJOR, MBK 4) กลุ่มอาหารและเกษตร CPF, GFPT, TFG, TU, KSL, KTIS, KBS, BIS, ASIAN  5) หุ้นได้ประโยชน์จากการกระตุ้นเศรษฐกิจจีน BABA80, TENCENT80, CHINA, STAR5001 6) เก็งกำไรทางเทคนิค CPALL, SCGP, TOP, RATCH, CRC, CPF, RS, SC, TH, TLI, BAM

 

ภาพรวมกลยุทธ์: แกว่งตัวโดยมีบรรยากาศเก็งกำไรเชิงบวก แนวรับ 1,610 โดยมีกรอบบน 1,630-1,650 จุด SET เป็นบวกตราบใดไม่หลุด 1,577-1,585 จุด ภาพใหญ่เน้นเลือกซื้อ กลุ่มหุ้นเปิดเมือง (ซื้อท่องเที่ยว ห้างสรรพสินค้า ธนาคาร กองรีทส์/ สะสมค้าปลีก) สำหรับ DR หุ้นจีน ทยอยสะสม   //หุ้นแนะนำ:  TLI*, CPF*, SPA*, OR*

แนวรับ: 1,610 / แนวต้าน : 1,630-1,640 จุด สัดส่วน : เงินสด 50% : พอร์ตหุ้น 50%
 

ประเด็นการลงทุน

เฟดเผยแบบจำลอง GDPNow บ่งชี้เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 2.5% ใน Q3/65 – ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาแอตแลนตา เปิดเผยว่าแบบจำลองคาดการณ์ GDPNow ล่าสุดแสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 2.5% ในไตรมาส 3 ตัวเลขคาดการณ์ดังกล่าวสูงกว่าระดับ 1.4% ที่มีการระบุก่อนหน้านี้

ยอดส่งออกรถยนต์เกาหลีใต้เดือนก.ค.แตะระดับสูงเป็นประวัติการณ์ – ยอดส่งออกรถยนต์ของเกาหลีใต้พุ่ง 25.3% แตะที่ 5.14 พันล้านดอลลาร์ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดยทะลุระดับ 5 พันล้านดอลลาร์เป็นครั้งแรก จากอุปสงค์อันแข็งแกร่งของรถยนต์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

บอร์ด EEC อนุมัติเป้าใหม่ลงทุน 5 ปี (ปี 66-70) ที่ 2.2 ล้านลบ. – เดิมวางเป้าหมายไว้ในช่วงปี 65-69 โดยจะมีเงินลงทุนประมาณปีละ 400,000-500,000 ล้านบาท ซึ่งมีแผนต่อยอดโครงสร้างพื้นฐาน

ร้านค้าลงทะเบียนโครงการคนละครึ่ง เฟส 5 วันแรกกว่า 7.4 หมื่นราย – ผู้ประกอบการร้านค้าที่เคยเข้าร่วมโครงการฯ ระยะที่ 4 และมีแอปพลิเคชัน "ถุงเงิน" สามารถกดยืนยันสิทธิเข้าร่วมได้ทันที และสามารถเลือกเชื่อมต่อกับผู้ให้บริการฟู้ดเดลิเวอรี่แพลตฟอร์ม เพื่อขายอาหารและเครื่องดื่มตามโครงการฯ ระยะที่ 5 ได้เพียงรายเดียว ซึ่งแพลตฟอร์มที่ได้รับอนุมัติให้เข้าร่วมโครงการฯ ระยะที่ 5 แล้ว จำนวน 4 ราย ได้แก่ ShopeeFood, LINE MAN, GrabFood และ foodpanda

GULF ขายหุ้น 50% โรงไฟฟ้าพลังงานลม BKR2 ให้ Keppel Group 1.1 หมื่นลบ. - โครงการ BKR2 เป็นโรงไฟฟ้าพลังงานลมในทะเล (Offshore Wind Farm) ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 464.8 เมกะวัตต์ ตั้งอยู่ในทะเลเหนือ (North Sea) ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศเยอรมนี เริ่มเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ตั้งแต่เดือน เม.ย.62

Opportunity day – 16 ส.ค. – TCMC, BEYOND, TASCO, NCAP, SAWAD, COM7, ASW, CHAYO, TTA, ERW, RS, AMANAH, STC / 17 ส.ค. – TPBI, NRF, SFT, TRV, ASIAN, PR9, FSMART, BGC, TKN, CPN+GLAND, GC, CPNREIT+CPNCG, BEM, SKN / 18 ส.ค. – CENTEL, PSH, NVD, JUBILE, ASP, WICE, PTL, BRI, SABINA, TK, AS, MINT, SICT, BAM

 

ประเด็นติดตาม: 16 ส.ค. - US Building Permits / 17 ส.ค. – US Retail Sales / 18 ส.ค. – EU CPI, US Existing Home Sales / 23 ส.ค. – US New Home Sales / 24 ส.ค. - US Pending Home Sales

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)