‘ศิลาวดี’ รีสอร์ตหรูเกาะสมุยทุ่ม 300 ล้าน เปิด ‘พูลวิลล่า’ เฟสใหม่เจาะอินไซต์กรุ๊ปใหญ่

“กรุงเทพธุรกิจ” ร่วมสัมภาษณ์พิเศษ “ชลลดา สุนทรวสุ” ประธานกรรมการผู้บริหาร ศิลาวดี พูล สปา รีสอร์ท ถึงการเดินเกมรุกครั้งสำคัญ ด้วยการทุ่มงบร่วม 300 ล้านบาท เปิดตัวพูลวิลล่าเฟสใหม่ เพื่อตอบโจทย์การท่องเที่ยวยุคที่นิยมเดินทางเป็นครอบครัวใหญ่หรือมาพร้อมกับกลุ่มเพื่อน

ชลลดา ฉายภาพถึงที่มาของ “ศิลาวดี พูล สปา รีสอร์ท” ว่า ด้วยวิสัยทัศน์ของคุณพ่อ (ณรงค์ศักดิ์ สุนทรวสุ) ผู้ก่อตั้ง “อีมิเน้นท์ แอร์” (Eminent Air) เครื่องปรับอากาศแบรนด์ไทย ที่เห็นโอกาสการเติบโตของธุรกิจท่องเที่ยวไทยที่ยังไปได้อีกไกล บวกกับความที่คุณพ่อเป็นนักเดินทาง และมักซื้อที่ดินในโลเกชันต่างๆ เก็บไว้ รวมถึงที่เกาะสมุย พอเห็นว่าหลังเกิดเหตุการณ์สึนามิเมื่อปี 2547 เกาะสมุยบูมมาก! จนมีคนมาติดต่อขอซื้อที่ดิน ทำให้คุณพ่อมองว่าแทนที่จะขายที่ดิน ได้เงินก้อนแล้วจบ ไม่สู้พัฒนาที่ดินของตัวเองเพื่อเป็นอีกหนึ่งธุรกิจ เลยตัดสินใจกระโจนเข้ามาทำ “ธุรกิจโรงแรม” 

ตอนนั้น ชลลดา กำลังเรียนปริญญาโทด้านธุรกิจอยู่ที่บอสตัน คิดว่าพอเรียนจบจะเข้ามาช่วยสานต่อธุรกิจแอร์ของที่บ้าน แต่พอคุณพ่อมีไอเดียจะเปิดโรงแรม พอเรียบจบกลับมาเลยตัดสินใจหาประสบการณ์ในสายงานโรงแรมอยู่ 1 ปีกว่า ช่วงวันหยุดก็ไปเรียนคอร์สด้านการโรงแรมเพิ่มเติม​ จนพอโรงแรมสร้างเสร็จ ก็ลงมาปักหลักลุยงานที่สมุย

สำหรับแนวคิดในการสร้างศิลาวดี พูล สปา รีสอร์ท ชลลดา เล่าว่า ด้วยความที่ครอบครัวไม่ได้มีแบ็กกราวด์ด้านธุรกิจโรงแรมมาก่อน และคุณพ่อก็ไม่ได้คิดจะให้เชนโรงแรมเข้ามาบริหาร การตัดสินใจทุกอย่างเลยไม่อยู่ในกรอบใดๆ อาศัยประสบการณ์ในฐานะนักเดินทางและวิธีคิดในมุมของลูกค้า เลยเป็นเหตุผลว่าทำไมพูลวิลล่าของศิลาวดี นอกจากจะออกแบบให้มีสเปซกว้างขวาง ยังมาพร้อมสระว่ายน้ำใหญ่ที่สามารถว่ายน้ำได้

อีกหนึ่งจุดเด่นคือ พอออกแบบโดยไม่มีข้อจำกัด ทำให้สามารถพัฒนารีสอร์ตตามคอนเซ็ปต์ “หวนคืนสู่ธรรมชาติ” (Back to The Nature) ได้เต็มที่ เพราะด้วยความที่โลเกชันของรีสอร์ตมีหินเยอะมาก ซึ่งกลายเป็นที่มาของชื่อ “ศิลาวดี” และยังเป็นคลิฟฟ์วิว (Cliff View) ที่มีการไล่ระดับ มีพื้นที่บางส่วนติดหาด ทำให้ช่วงแรกๆ ที่จะพัฒนาที่ดินตรงนี้ มีคนแย้งว่า​แลนด์สเคปแบบนี้ นักท่องเที่ยวไม่น่าชอบ แต่คุณพ่อกลับมองว่าการเป็น Cliff View ทำให้ศิลาวดียิ่งมีความแตกต่าง และทุกห้องพักมองเห็นวิวทะเลได้ ขณะเดียวกันยังมีพื้นที่ติดหาดให้พักผ่อนอีกด้วย จึงเลือก “รักษาความเป็นธรรมชาติ” ไว้ให้ได้มากที่สุด!

ด้านการบริหาร แม้ที่ผ่านมาจะมีเชนโรงแรมหลายแห่งติดต่อเข้ามา แต่ ศิลาวดี ชัดเจนตั้งแต่วันแรกว่าจะเป็น “โรงแรมไทย ที่บริหารโดยคนไทย” ถึงจะไม่เคยทำโรงแรมมาก่อน แต่ถือคติว่า ไม่ว่าจะทำอะไรก็ตาม อยากลองทำด้วยตัวเองให้ดีที่สุดก่อน ตั้งต้นจากการสร้างทีม เพราะธุรกิจโรงแรม “คนคือหัวใจสำคัญ” สร้างวัฒนธรรมการทำงาน และมาตรฐานในการให้บริการในแบบของเรา

“จนวันนี้ผ่านมา 17 ปี เราคิดว่าเรามาถูกทาง โดยเฉพาะเทรนด์การท่องเที่ยวยุคนี้ ที่นักท่องเที่ยวมองหาโรงแรมที่มีความเป็นโลคัล (Local) ไม่ใช่เชนโรงแรมระดับนานาชาติ (International Chain) โดยในช่วงแรกๆ ยอมรับว่าการเป็นโลคัลแบรนด์ อาจจะยากในการตีตลาด โดยเฉพาะตลาดต่างประเทศ แต่สุดท้ายถ้าโปรดักต์ดี โลเกชันใช่ ยังไงก็ไปต่อได้”

ชลลดา เล่าเพิ่มเติมว่า แม้กลุ่มลูกค้าหลักของ “เกาะสมุย” จะเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติถึง 90% แต่ศิลาวดีเลือกที่จะรักษาสัดส่วนของฐานลูกค้าเป็นต่างชาติ 80% และคนไทย 20% ตามกลยุทธ์กระจายความเสี่ยง โดยฝั่งลูกค้าต่างชาติ ไม่ได้เน้นเฉพาะยุโรป อย่างฝรั่งเศส เยอรมนี อังกฤษ หรือสวิตเซอร์แลนด์ แต่จับกลุ่มเอเชีย รวมถึงคนไทยด้วย ซึ่งช่วยให้ผ่านพ้นวิกฤติโควิด-19​ มาได้ พอสถานการณ์กลับสู่ภาวะปกติ ก็ขยายตลาดเพิ่มไปยัง ตะวันออกกลาง เช่น ซาอุดีอาระเบีย รวมถึงสหรัฐ

นอกจากนี้ อีกหนึ่ง “อินไซต์” ที่ ชลลดา พบคือ เทรนด์การท่องเที่ยวที่เปลี่ยนไปนับตั้งแต่เกิดวิกฤติโควิด ทำให้เกิดเทรนด์การทำงานจากที่ไหนก็ได้ ส่งผลให้การเข้าพักของนักท่องเที่ยวนานขึ้นจาก 3 คืน เป็น 5-7 คืน และมีอัตราการเข้าพักอยู่ที่ 80% อีกเทรนด์ที่เห็นชัดเจนคือ นักท่องเที่ยวยุคนี้ไม่ได้มีแต่กลุ่มคู่รัก แต่นิยมเดินทางเป็น “ครอบครัวใหญ่” หรือมากันเป็น “กลุ่มเพื่อน” จึงเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ในปีนี้ศิลาวดีตัดสินใจทุ่มงบประมาณ 300 ล้านบาท เพื่อสร้างพูลวิลล่าเฟสใหม่อีก 18 หลัง ที่มาพร้อมห้องพักขนาด 2-4 ห้องนอน บนพื้นที่ 3 ไร่ เพื่อรองรับดีมานด์ของนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้

“คอนเซ็ปต์หลักของพูลวิลล่าเฟสใหม่ ยังอิงกับแนวคิด Back to The Nature แต่เพิ่มความโมเดิร์น พร้อมตีความนิยามคำว่าลักชัวรีใหม่ เพราะมองว่าความลักชัวรี คือการมีสเปซ ความเป็นส่วนตัว และความสะดวกสบาย เราจึงสร้างพูลวิลล่าที่มีสเปซใหญ่ขึ้น และมีการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยตอบโจทย์ในห้องพัก ขณะเดียวกันยังมอบความเป็นส่วนตัวและความเงียบสงบ และจุดที่เราพยายามรักษาไว้คือ สระส่วนตัวในพูลวิลล่า เราตั้งใจออกแบบให้มีความยาว 12 เมตร สามารถว่ายน้ำได้โดยไม่ต้องมาใช้สระส่วนกลาง”

นอกจากนี้เพื่อรองรับปริมาณลูกค้าที่เพิ่มขึ้น ศิลาวดียังมีการรีโนเวตร้านอาหาร “The Height” พร้อมปรับปรุงฟิตเนสให้กว้างขวาง มาพร้อมอุปกรณ์ทันสมัย และสปาที่ได้รับการตกแต่งใหม่อย่างพิถีพิถัน เพิ่มห้องทรีตเมนต์

ทั้งนี้ หลังจากเริ่มต้นก่อสร้างพูลวิลล่าเฟสใหม่เมื่อต้นปี 2568 คาดว่าแล้วเสร็จในปี 2570 จะทำให้ ศิลาวดี มีห้องพักทั้งสิ้น 98 ห้อง เพิ่มจากปัจจุบันที่มีห้องพักอยู่ 80 ห้อง แบ่งเป็นห้องพักประเภทดีลักซ์ขนาด 50 ตารางเมตร จำนวน 36 ห้อง พูลวิลล่าจำนวน 40 หลัง และพูลวิลล่าสวีท จำนวน 4 หลัง

“หลังจากการเปิดตัวเฟสใหม่ คาดว่าจะเข้ามาช่วยสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจของศิลาวดี ให้มีการเติบโตต่อเนื่องปีละ 12-15% ดันรายได้แตะ 500 ล้านบาท และเชื่อว่าในอนาคตธุรกิจจะยังมีโอกาสเติบโตอีกมาก จากการขยายตัวของเกาะสมุย” ชลลดากล่าว

ชลลดา สุนทรวสุ