‘เศรษฐา’ นำทัพท่องเที่ยวไทยบุกยุโรป ร่วมงาน ITB Berlin เทรดโชว์ใหญ่สุดในโลก
‘สุดาวรรณ’ รมว.ท่องเที่ยวฯ เผยนายกฯ ‘เศรษฐา’ นำทัพท่องเที่ยวไทยบุกตลาดยุโรป ร่วมงานเทรดโชว์ท่องเที่ยวใหญ่สุดของโลก ‘ไอทีบี เบอร์ลิน’ ณ เยอรมนี 5-7 มี.ค. เตรียมแถลงนโยบายขับเคลื่อนภาคท่องเที่ยว โชว์ศักยภาพเมืองไทย ด้าน ‘ททท.’ ลุ้น Q1 ทัวริสต์แตะ 10 ล้านคน จ่อปรับเป้าปี 67
นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า ได้เดินทางเข้าร่วมงาน Internationale Tourismus Borse หรือ ITB Berlin ซึ่งเป็นมหกรรมส่งเสริมการขายทางการท่องเที่ยวที่ใหญ่และสำคัญที่สุดของโลก จัดขึ้นต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 57 ระหว่างวันที่ 5-7 มี.ค. 2567 ณ ศูนย์การจัดนิทรรศการ Messe Berlin Exhibition Ground กรุงเบอร์ลิน สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี และในครั้งนี้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้เข้าร่วมงานเป็นครั้งที่ 49
ทั้งนี้ ททท.นำภาคเอกชนไทยในธุรกิจท่องเที่ยวเข้าร่วมงาน 75 ราย และมีหน่วยงานภาครัฐและเอกชนอีกหลายรายเข้าร่วมนำเสนอสินค้าท่องเที่ยว เช่น สมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาะสมุย สมาคมนักธุรกิจและการท่องเที่ยวเมืองพัทยา สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่ สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดพังงา บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) กรุงเทพมหานคร บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) รวมทั้งบริษัท ไทยแลนด์ พริวิเลจคาร์ด จำกัด สมาคมไทยท้องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และผจญภัย องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) และกรมการท่องเที่ยว
“ทางนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง จะเดินทางมาร่วมงานไอทีบี เบอร์ลิน ในปีนี้ด้วย เพื่อแถลงนโยบายการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย พร้อมโชว์ศักยภาพของเมืองไทย นำเสนอว่าการมาท่องเที่ยวเมืองไทยมีความสะดวกสบายอย่างไร”
ตามวิสัยทัศน์ 8 ด้าน สร้างโอกาสและสร้างรายได้ให้ประเทศไทยตามที่นายกฯ เพิ่งแถลงเมื่อปลายเดือน ก.พ. มีด้านการยกระดับประเทศไทยเป็นศูนย์กลางเมืองท่องเที่ยวและศูนย์กลางการบินด้วย ซึ่งตอนนี้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางด้านนี้อยู่แล้ว แต่ยังมีหลายจุดที่ต้องเร่งผลักดันเพิ่มเติม
ทั้งนี้ ตามแผนงานเพื่อผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยว (Tourism Hub) จะมีการเวิร์กชอปว่าจะดำเนินการส่งเสริมอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยไปในทิศทางไหนและวางเป้าหมายอย่างไร เพื่อจัดทำแผนนำเสนอนายกฯ คาดว่าจะดำเนินการเวิร์กชอปแล้วเสร็จภายในเดือน มี.ค. 2567 และคาดว่านายกฯ จะแถลงเกี่ยวกับวิสัยทัศน์เรื่องศูนย์กลางการท่องเที่ยวภายในเดือนเดียวกัน
“นายกรัฐมนตรีจะเป็นประธานจัดงาน The Amazing Thailand Networking Event with the Prime Minister of Thailand เพื่อแสดงวิสัยทัศน์และแถลงนโยบายการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย และการเชื่อมโยงการท่องเที่ยวของไทยกับกลุ่มประเทศอาเซียน ให้แก่ สื่อมวลชน บริษัทนำเที่ยว และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียและพันธมิตรท่องเที่ยวในตลาดยุโรป ร่วม 200 คน ถือเป็นครั้งแรกที่นายกรัฐมนตรีของประเทศไทยเข้าร่วมในงานนี้ เนื่องจากรัฐบาลให้ความสำคัญกับการส่งเสริมการท่องเที่ยว ซึ่งสามารถสร้างรายได้ให้ประเทศอย่างมหาศาล และให้ความสำคัญกับอำนวยความสะดวกและดูแลความปลอดภัยให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติด้วย”
นางสาวสุดาวรรณ กล่าวเพิ่มเติมว่า นักท่องเที่ยวจากภูมิภาคยุโรปมีความนิยมเดินทางท่องเที่ยวประเทศไทยในระดับต้นๆ ในฐานะจุดหมายปลายทางระยะไกล ขณะเดียวกัน ไทยก็มีคู่แข่งสำคัญสำหรับนักท่องเที่ยวยุโรปที่นิยมหาดทราย ชายทะเล ไม่ว่าจะเป็น มัลดีฟส์ เกาะมอริเชียส เวียดนาม และศรีลังกา แต่แนวโน้มที่นักท่องเที่ยวจะเลือกประเทศไทยยังเป็นในเชิงบวก เนื่องจากไทยมีความหลากหลายของสินค้าท่องเที่ยว
โดยอุปสรรคของการเดินทางยังคงเป็นเรื่องค่าโดยสารเครื่องบินที่มีราคาแพงมากเมื่อเปรียบเทียบกับปี 2562 ช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19
อย่างไรก็ตาม เริ่มมีนักท่องเที่ยวเลิกเปรียบเทียบกับราคาก่อนวิกฤติโควิด-19 จึงเลือกใช้จ่ายเพื่อการท่องเที่ยว โดยไม่เก็บเงินไว้ใช้จ่ายวัตถุประสงค์อื่น ส่วนโอกาสคือสายการบินต่างๆ ต่างสนใจที่จะพัฒนาเส้นทางบินเข้าประเทศไทย อีกทั้ง กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬามีนโยบายที่จะเพิ่มเที่ยวบินเช่าเหมาลำ (ชาร์เตอร์ไฟลต์) จากบางประเทศในยุโรปเข้าไทยเพิ่มขึ้นเพื่อเติมจำนวนนักท่องเที่ยวให้มากที่สุด
นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการ ททท. กล่าวเสริมว่า ในงาน ITB Berlin จะโปรโมตความพร้อมของภาคท่องเที่ยวไทย โดยเฉพาะเรื่องการยกระดับสู่การเป็นศูนย์กลางการบิน การหาพันธมิตรสายการบิน รวมถึงการโปรโมตแหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆ แก่ผู้ประกอบการท่องเที่ยวทั่วโลก
“ตอนนี้ประเทศไทยกำลังฮอตฮิตติดลมบนมากๆ จำเป็นต้องบริหารในด้านซัพพลายและความพึงพอใจของนักท่องเที่ยวให้ดี”
สำหรับแนวโน้มนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศไทยในไตรมาส 1 ตั้งแต่เดือน ม.ค.-มี.ค. 2567 ประเมินว่าน่าจะมีจำนวนใกล้เคียง 10 ล้านคน หลังจาก 2 เดือนแรก (ม.ค.-ก.พ.) มีจำนวนสะสมราว 6.5 ล้านคนแล้ว
หากทั้งไตรมาส 1 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติไปถึง 10 ล้านคนได้จริง ทาง ททท.ก็จะอาจจะปรับเป้าหมายนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยตลอดปี 2567 ซึ่งก่อนหน้านี้ตั้งเป้าไว้ไม่น้อยกว่า 35 ล้านคน
รายงานข่าวจาก ททท. ระบุด้วยว่า จากสถิตินักท่องเที่ยวระหว่างประเทศที่เดินทางเข้าไทย ข้อมูล ณ วันที่ 1 มี.ค. 2567 พบว่ามีนักท่องเที่ยวต่างชาติสะสมตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. - 1 มี.ค. จำนวน 6,509,966 คน
สำหรับ 10 อันดับแรกของชาติที่เดินทางเข้าไทยสูงสุด ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. - 1 มี.ค. 2567 ได้แก่
1. จีน 1,201,363 คน
2. มาเลเซีย 850,690 คน
3. รัสเซีย 430,842 คน
4. เกาหลีใต้ 419,567 คน
5. อินเดีย 316,861 คน
6. ลาว 206,813 คน
7. เยอรมนี 203,598 คน
8. ฝรั่งเศส 195,078 คน
9. สหรัฐ 191,688 คน
10. สหราชอาณาจักร 188,113 คน
