ไอ.ซี.ซี.ลุยโปรเจกต์ความยั่งยืน ทุ่ม100ล้านยกระดับการผลิตรักษ์โลก

ไอ.ซี.ซี.ลุยโปรเจกต์ความยั่งยืน  ทุ่ม100ล้านยกระดับการผลิตรักษ์โลก

ไอ.ซี.ซี. สร้างโปรเจกต์พิเศษเคลื่อนธุรกิจโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และหลักธรรมาภิบาลหรือแนวคิด ESG ภายใต้การดูแลของ “บีเอสซี อินเตอร์เนชั่นแนล” BSC International พร้อมเปิดโรงงานผลิต แผนการลงทุน สร้างการเติบโต

เครือสหพัฒน์ โดยบริษัท ไอ.ซี.ซี. อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ผู้ทำการตลาดและจัดจำหน่ายสินค้าอุปโภค-บริโภคชั้นนำกว่า 100 แบรนด์ สร้างโปรเจคพิเศษเคลื่อนธุรกิจโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และหลักธรรมาภิบาลหรือแนวคิด ESG( Environmental, Social, Governance) ภายใต้การดูแลของ “บีเอสซี อินเตอร์เนชั่นแนล” BSC International พร้อมเปิดโรงงานผลิต แผนการลงทุน สร้างการเติบโต

ปัญหาสภาพการเปลี่ยนแปลงทางภูมิอากาศหรือ Climate Change กลายเป็นประเด็นใหญ่ระดับโลกที่ทำให้ทุกภาคส่วนลุกขึ้นมาทำสิ่งต่างๆเพื่อลดผลกระทบเชิงลบ สร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะองค์กรธุรกิจ หนึ่งในนั้นคือ “เครือสหพัฒน์” ยักษ์ใหญ่สินค้าอุปโภคบริโภคระดับ 3 แสนล้านบาท

ไอ.ซี.ซี.ลุยโปรเจกต์ความยั่งยืน  ทุ่ม100ล้านยกระดับการผลิตรักษ์โลก ชุติมา ประเสริฐศรี ผู้อำนวยการฝ่ายผลิตภัณฑ์อองฟองต์ บริษัท ไอ.ซี.ซี.อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด(มหาชน) และ พงษ์สันต์ วงษ์เสริมหิรัญ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและพัฒนาและนวตกรรม บริษัท ไทยวาโก้ จำกัด(มหาชน) ร่วมกันฉายภาพการดำเนินธุรกิจของบริษัทให้ความสำคัญกับความยั่งยืน มุ่งลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และยกระดับการอยู่ร่วมกับสังคม ชุมชนเป็นเวลานานสอดคล้องกับนโยบายของประธานเครือสหพัฒน์ “บุณยสิทธิ์ โชควัฒนา” ที่ให้ไว้กับทุกบริษัท

ตัวอย่างแนวทางการพัฒนานิคมหรือสวนอุตสาหกรรมต่างๆจะต้องเป็นสีเขียว หรือ กรีน อินดัสทรี เมืองสีเขียว หรือ อีโค ทาวน์ ส่วนโรงงานผลิตสินค้าในเครือคำนึงถึงการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และสังคม อย่างโรงงานไทยวาโก้ ที่ประกอบด้วย 6 อาคาร มีการผลิตชุดชั้นในแบรนด์ “วาโก้” และเสื้อผ้าเด็กแบรนด์ “อองฟองต์”(Enfant)ยังเดินหน้าฟังเสียงผู้บริโภคและเสียงธรรมชาติมากขึ้นเพื่อผลิตสินค้า

ไอ.ซี.ซี.ลุยโปรเจกต์ความยั่งยืน  ทุ่ม100ล้านยกระดับการผลิตรักษ์โลก

ล่าสุด บริษัทเปิดโรงงานผลิตเสื้อผ้าเด็กอองฟองต์ ตอกย้ำการตระหนักด้านความยั่งยืนมา 15 ปีแล้ว ได้ทำตลาดในไทยเข้าสู่ปีที่ 40  ปัจจุบันยังคงดำเนินธุรกิจภายใต้แนวคิด “รักลูกของคุณ รักโลกของเรา”

กระบวนการผลิตสินค้าที่ "รักลูกของคุณ" บริษัทให้ความสำคัญหลายด้าน เช่น เนื้อผ้า ต้องคัดสรรวัตถุดิบจากธรรมชาติที่นุ่มสบายและย่อยสลายกลับคืนสู่ธรรมชาติ อองฟองต์เลือกใช้เส้นใยจากฝ้ายเกรดพรีเมียม และได้มาตรฐาน COTTON USA สร้างเชื่อมั่นระดับโลก เสื้อผ้าเด็กอองฟองต์ ยังนำเส้นใยจากใผ่ 40% มาใช้ทำให้นุ่มลื่นด้วย 2.การออกแบบเสื้อผ้าเด็กเอื้อต่อพัฒนาการของเด็กแต่ละช่วงวัย และมีมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) 3.ด้านสุขอนามัยและความปลอดภัย ปลอดสารก่อมะเร็ง(Non AZO) ปลอดสารโลหะหนัก ฯ โดยทุกกระบวนการผลิตจะมีการทดสอบคุณภาพ ทดสอบสารตกค้างและการตรวจจับโลหะ เป็นต้น

ไอ.ซี.ซี.ลุยโปรเจกต์ความยั่งยืน  ทุ่ม100ล้านยกระดับการผลิตรักษ์โลก ด้านดูแลโลก วัตดิบที่ใช้ผลิตเสื้อผ้าเด็กอองฟองต์ ทั้งฝ้ายและเส้นใยจากไผ่ล้วนรักษ์โลก แหล่งที่มาเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อย่างฝ้ายที่นำมาใช้มาจากแหล่งเพาะปลูกที่ลดการใช้พลังงานลง 50% การทำเกษตรที่ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลง 40% ใช้น้ำในการเพาะปลูกน้อยลง 80% ฯ

นอกจากนี้ โรงงานผลิตเสื้อผ้าเด็กอองฟองต์ ยังเป็นโรงงานอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ (ECO Factory) และได้รับ Green ระดับ 4 มีการใช้พลังงานจากแสงอาทิตย์ด้วยการติดตั้ง Solar Roof และวางแผนเปลี่ยนรถขนส่งสินค้าเป็นพลังงานไฟฟ้า(อีวี) รวมถึงรถผู้บริหารด้วย บริษัทยังเดินหน้าปลูกป่าให้ได้ปีละ 500 ต้น สร้างคาร์บอนเครดิตเพื่อชดเชยในส่วนที่ยังลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกไม่ได้

“แต่ละปีบริษัทมีการลงทุนหลักร้อยล้านบาท เพื่อยกระดับโรงงานผลิตสอดรับความยั่งยืน ทั้งการติดตั้งแผงพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาโรงงานลงทุนราว 10 ล้านบาท การวิจัยสินค้านวัตกรรม 50 ล้านบาทต่อปี เป็นต้น”

ไอ.ซี.ซี.ลุยโปรเจกต์ความยั่งยืน  ทุ่ม100ล้านยกระดับการผลิตรักษ์โลก เนื่องจากการผลิตเสื้อผ้า ยังมีเศษผ้า บริษัทได้วางแผนบริหารจัดการเพื่อนำกลับไปใช้ซ้ำ(รีไซเคิล) ซึ่งปัจจุบันเศษผ้าเหลือเพียง 2% จากเคยเหลือ 10% บรรจุภัณฑ์ต้องมาจากรีไซเคิล ปีหน้ายังวางแผนจะลุยโครงการรับคืนสินค้าที่ไม่ใช้แล้วเพื่อนำไปบริจาค ของที่ใช้ม่ได้จะนำไปเป็นพลังงานเชื้อเพลิง จากเดิมบริษัทมีโครงการบราเดย์ โดยนำเสื้อผ้าเด็กมารวมอยู่ด้วยเพื่อลดขยะ เป็นต้น

“เราให้ความสำคัญกับการจัดการขยะ โรงงานผลิตแทบจะมีขยะเป็นศูนย์หรือ Zero waste”

สำหรับโรงงานผลิตเสื้อผ้าเด็กอองฟองต์มีกำลังการผลิตราว 8 แสนชิ้นต่อปี เดินเครื่องการผลิต 80% ในการทำตลาดบริษัทมุ่งสร้างการเติบโตราว 10% ซึ่งท้าทายมากเพราะอัตราการเกิดของเด็กลดต่ำลงต่อเนื่อง แต่อีกด้านพ่อแม่มีลูกน้อยลง ยินดีจ่ายเงินแพงขึ้นเพื่อสิ่งที่ดีสุดสำหรับลูก