1 ปี ‘ท็อปส์ คลับ’ โมเดลค้าปลีกที่ 8 จากเซ็นทรัล และไปไม่ถึงดวงดาว

1 ปี ‘ท็อปส์ คลับ’  โมเดลค้าปลีกที่ 8 จากเซ็นทรัล และไปไม่ถึงดวงดาว

กระแสการปิดฉาก! “ท็อปส์คลับ” ห้างค้าปลีกรูปแบบ “โกดัง” ต้องสมัคร “สมาชิก” เพื่อซื้อสินค้าและบริการ สร้างความสนใจจากแวดวงธุรกิจการค้า เพราะนี่เป็นอีกหมากรบ “บิ๊กค้าปลีก” กลุ่ม “เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น” หรือซีอาร์ซี ภายใต้ตระกูล “จิราธิวัฒน์” ที่ไม่ไปถึงดวงดาว

ทว่า ทุกโมเดลธุรกิจคือ “บทเรียน” และการลองผิดลองถูกโมเดลค้าปลีกใหม่ๆ เพื่อตอบสนองผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมาย

ย้อนไปเดือนกันยายน ปี 2566 กลุ่มฟู้ด เซ็นทรัล รีเทล ได้คิกออฟโมเดลค้าปลีกลำดับที่ 8 ของกลุ่มคือ “ท็อปส์คลับ” ที่ให้บริการในรูปแบบสมาชิกหรือเมมเบอร์ชิป สโตร์ จะซื้อสินค้าและบริการในร้านได้ ต้องเป็นสมาชิกเสียก่อน ซึ่งช่วงแรกเริ่มนั้นสมาชิกท็อปส์คลับจะมี 2 แบบคือ 1.สมาชิกทั่วไป (Basic Member) และ 2.สมาชิกระดับพรีเมียม (Premium Member) ที่ต้องจ่ายค่าสมาชิกราว 999 บาทต่อปี

นอกจากสมาชิกแล้ว ไฮไลต์เด็ด คือสินค้าที่นำมาเสิร์ฟผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายล้วนเป็นการ “นำเข้า” สัดส่วนถึง 70% จาก 20 ประเทศทั่วโลก

แม่เหล็กที่ “ท็อปส์คลับ” ต้องการฉีกกรอบการแข่งขันคือสินค้าที่นำเข้ามายังเป็น “ขนาดใหญ่” แทบทุกอย่าง เช่น ชายี่ห้อ Carmien จากอาฟริกาใต้ บรรจุ 160 ซอง กาแฟ KIRKLAND จากสหรัฐ ขนาด 454 กรัม ขนมขบเคี้ยวเพื่อสุขภาพ(สแน็ค)ผักยี่ห้อ FJ&A ขนาด 2 กิโลกรัม(กก.) ราคาหลักพันบาทต่อชิ้น ถั่วพิสตาชิโอขนาด 1.3 กก. กาแฟนำเข้าบางยี่ห้อขนาด 250 กรัม จำหน่ายราว 500 บาท หรือ 4 ถุง ราคาราว 1,200 บาท ตุ๊กตาหมียักษ์ สูง 3 เมตร เป็นต้น

1 ปี ‘ท็อปส์ คลับ’  โมเดลค้าปลีกที่ 8 จากเซ็นทรัล และไปไม่ถึงดวงดาว “ขนาด” สินค้าที่ว่าใหญ่ ทำให้ราคาขายค่อนข้างสูง ซึ่งหลายคนแสดงความเห็นบนโลกออนไลน์ว่า “ไม่ถูกจริต” คนไทย ยิ่งกว่านั้น ราสินค้าที่สูง ไม่สอดคล้องกับ “กำลังซื้อ” ของคนไทย และผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายย่านพระราม 2 ด้วย

สำหรับ “ท็อปส์คลับ” เลือกย่านพระราม 2 ด้านหลังเซ็นทรัล พลาซ่า พระราม 2 เป็นหมุดหมายแรกของการเปิดสาขา พื้นที่รวม 15,000 ตารางเมตร(ตร.ม.) สินค้าที่นำมาขายทั้งสิ้น 3,500 รายการ(SKUs)

นอกจากนี้ กลุ่มเป้าหมายที่ทาง “ท็อปส์คลับ” โฟกัส คือลูกค้ารายย่อย(B2C) 90% ที่เหลือผู้ประกอบการร้านอาหารต่างๆ

1 ปี ‘ท็อปส์ คลับ’  โมเดลค้าปลีกที่ 8 จากเซ็นทรัล และไปไม่ถึงดวงดาว อย่างไรก็ตาม กว่าจะมาเป็น “ท็อปส์คลับ” กลุ่มฟู้ด เซ็นทรัล รีเทลได้ใช้เวลาราว 2 ปี เพื่อซุ่มศึกษาโมเดลห้างค้าปลีกดังกล่าว อีกทั้งมีการทดลองทำร้าน Pop-up Store เพื่อชิมลางในทำเลต่างๆ หยั่งเชิง “ความต้องการของผู้บริโภค” ว่าให้การตอบรับกับห้างรูปแบบใหม่โมเดลลำดับที่ 8 ของกลุ่มหรือไม่ เมื่อ “มั่นใจ” ว่าฟีดแบ็คดี จึงคิกออฟเปิดร้านนั่นเอง

โมเดล “ท็อปส์คลับ” ยังมีความเกี่ยวโยงกับ Costco ห้างค้าปลีกชื่อดังในสหรัฐฯ ด้วย สินค้าที่นำมาจำหน่ายอย่าง KIRKLAND ก็คือสินค้า House Brand ของ Costco นั่นเอง

ตลอดเวลา 1 ปีที่ “ท็อปส์คลับ” เปิดให้บริการพยายามแก้โจทย์ “ลูกค้า” เข้าไปใช้บริการน้อย จนมีเสียงบ่น “ร้าง” บ้าง ห้างเงียบเหงาบ้าง เปิดมา 1 ปี ยังไม่ไปลองเดินแต่ปิดซะแล้ว! เหล่านั้น ทำให้ห้างเอง “หั่นราคาสินค้า” เพื่อดึงดูดกลุ่มเป้าหมาย แต่ก็ไม่ได้ผลนัก

1 ปี ‘ท็อปส์ คลับ’  โมเดลค้าปลีกที่ 8 จากเซ็นทรัล และไปไม่ถึงดวงดาว

ช่วงกลางปี 2566 นอกจากการเดินหน้าเขย่าโลกชอปปิงเสมือน “C-Verse” ที่เซ็นทรัลตั้งใจปั้นแพลตฟอร์มดังกล่าวมานำร่องใช้บริการกับ “ท็อปส์คลับ” ระดมสินค้าทั้งกว่า 3,000 รายการมาให้ช้อปเสริมแกร่งค้าปลีก แต่ดูเหมือนว่าจะไม่เพียงพอต่อการกอบกู้สถานการณ์ แต่อีกด้านถือเป็นการรองรับการปิดตัวของ ท็อปส์คลับได้ทางหนึ่งด้วย

จากการสอบถามไปยังกลุ่มเซ็นทรัล มีเพียงรายงานการหารือกันเป็นการภายในเกี่ยวกับกระแสข่าวการ "ปิดท็อปส์ คลับ" และยังไม่มีความคืบหน้าใดๆที่จะรายงานให้ทราบ 

อย่างไรก็ตาม ต้นเดือนตุลาคมนี้ ท็อปส์คลับจะรูดม่านโมเดลเมมเบอร์ชิปสโตร์ลง แต่กลุ่มเซ็นทรัล ยังมีโมเดลใหม่อย่างค้าส่ง "โก โฮลเซลล์" มาแทนที่ ส่วนผลตอบรับจากฐานลูกค้าในย่านพระราม 2 จะเป็นในทิศทางใดต้องติดตามต่อยาวๆ