'เซ็นทารา-ดุสิตธานี' ปักธงแบรนด์ไทยใน 'ญี่ปุ่น' ชูกลิ่นอายดีไซน์ 2 วัฒนธรรม

ธีระยุทธ จิราธิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร โรงแรมและรีสอร์ตในเครือเซ็นทารา เล่าว่า ในปี 2566 เครือ “เซ็นทารา” เตรียมเปิดให้บริการโรงแรมแห่งใหม่ “เซ็นทารา แกรนด์ โอซาก้า” (Centara Grand Osaka) โรงแรมหรูระดับ 5 ดาว จำนวน 515 ห้อง สูง 33 ชั้น ตั้งอยู่ใจกลางย่านนัมบะ ศูนย์กลางการท่องเที่ยวของเมืองโอซาก้า แหล่งรวมทุกความบันเทิง ถือเป็นโรงแรมแห่งแรกของเครือเซ็นทาราในญี่ปุ่น กำหนดเปิดดำเนินการอย่างเต็มรูปแบบวันที่ 1 ก.ค. 2566 ตั้งเป้าช่วงเปิดให้บริการ 6 เดือนแรกมีอัตราการเข้าพัก 60-70% รุกทำการตลาดดึงนักท่องเที่ยวจากญี่ปุ่น จีน เกาหลีใต้ รวมถึงไทย ซึ่งยกให้ญี่ปุ่นเป็นจุดหมายปลายทางอันดับ 1 ในใจของการเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศ

กันย์ ศรีสมพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่การเงิน และรองประธานฝ่ายการเงินและบริหาร บริษัท โรงแรมเซ็นทรัล พลาซา จำกัด (มหาชน) หรือ CENTEL ผู้ดำเนินธุรกิจโรงแรมเครือเซ็นทารา กล่าวเสริมว่า ในปีนี้บริษัทฯจะรับรู้รายได้สำหรับโรงแรมเปิดใหม่ที่บริษัทฯเป็นเจ้าของ 1 แห่ง คือโรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ โอซาก้า โดยในโครงการนี้ บริษัทฯ มีบริษัท Centara Osaka Japan Kabushiki Kaisha ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่บริษัทฯถือหุ้น 100% เป็นผู้เช่าทรัพย์สินเพื่อดำเนินกิจการโรงแรม และบริษัทฯ ยังเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัทร่วมทุน Centara Osaka Tokutei Mokutei Kaisha ซึ่ง ณ สิ้นไตรมาส 1/2566 บริษัทถือหุ้น 51% เป็นผู้ถือทรัพย์สิน

ทั้งนี้ โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ โอซาก้า พร้อมนำเสนอประสบการณ์การเข้าพักและการรับประทานอาหารมาตรฐานระดับโลก มีทั้งห้องอาหารกับวิวตระการตาบนชั้นรูฟท็อป ห้องพักดีไซน์ทันสมัยที่มาพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันและที่มีให้เลือกหลากหลาย “สปาเซ็นวารี” สปาไทยสาขาแรกในญี่ปุ่น ห้องประชุมและสัมมนาขนาดใหญ่รวมถึงพื้นที่จัดงานอีเวนท์สุดหรูบนชั้นดาดฟ้า

ก่อนหน้านี้ ทอม ธรัสเซล รองประธานฝ่ายแบรนด์ การตลาด และดิจิตอล โรงแรมและรีสอร์ทในเครือเซ็นทารา กล่าวว่า เครือเซ็นทาราได้จับมือร่วมกับ “การบินไทย” จัดแคมเปญมอบสิทธิประโยชน์ให้กับลูกค้าและผู้โดยสารของสายการบิน เพื่อฉลองการเตรียมเปิดให้บริการโรงแรมแห่งนี้ โดยลูกค้าสายการบินไทยจะได้รับส่วนลดถึง 25% สำหรับการสำรองห้องพักโรงแรมนี้ ระหว่างวันที่ 1 ก.พ. - 30 มิ.ย. 2566 และเข้าพักในระหว่างวันที่ 1 ก.ค.-20 ธ.ค. 2566

ด้าน ศุภจี สุธรรมพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) หรือ DUSIT กล่าวว่า “กลุ่มดุสิตธานี” เตรียมเปิดให้บริการโรงแรมในประเทศญี่ปุ่น 2 แห่ง ได้แก่ โรงแรม “อาศัย เกียวโต ชิโจ” (ASAI Kyoto Shijo) ในเดือน มิ.ย. 2566 และ “ดุสิตธานี เกียวโต” (Dusit Thani Kyoto) ในเดือน ก.ย. 2566

สำหรับโรงแรมดุสิตธานี เกียวโต ดำเนินงานภายใต้แบรนด์ดุสิตธานี พร้อมมอบประสบการณ์การเข้าพักระดับลักชัวรีในย่าน ฮังกันจิ มอนเซ็น-มาจิ อยู่ห่างจากสถานีรถไฟเกียวโต เพียง 850 เมตร ตั้งอยู่ใกล้กับวัดนิชิ ฮอนกันจิ ซึ่งเป็นแหล่งมรดกโลกที่ได้รับคัดเลือกจากยูเนสโก (UNESCO) และยังแวดล้อมด้วยสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญอื่นๆ อีกหลายแห่ง

ความสวยงามของที่พักได้รับแรงบันดาลใจจากมรดกทางวัฒนธรรมอันยาวนานและสถาปัตยกรรมที่น่าทึ่งของ 2 เมืองหลวงเก่าแก่ ทั้ง “เกียวโต” ประเทศญี่ปุ่น และ “อยุธยา” ประเทศไทย ที่ยังคงมีเสน่ห์ และให้ความรู้สึกเป็นแหล่งหลบหนีความวุ่นวายในเมือง คงไว้ซึ่งขนบธรรมเนียมประเพณีของญี่ปุ่นและการต้อนรับอย่างอบอุ่นแบบไทย

นอกจากห้องพักที่ตกแต่งอย่างเหนือระดับจำนวน 150 ห้อง ตั้งอยู่บนพื้นที่ทั้ง 4 ชั้น โรงแรมแห่งนี้ยังมีพื้นที่จัดงานขนาดใหญ่ ฟิตเนสเซ็นเตอร์ และเทวารัณย์ เวลเนส (Devarana Wellness) ที่ให้บริการการนวดบำบัดแบบไทยโบราณและแบบญี่ปุ่นดั้งเดิม รวมถึงทรีตเมนท์เพื่อสุขภาพ กิจกรรม และเป้าหมายในการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้เข้าพักที่สามารถออกแบบโปรแกรมให้เข้ากับความต้องการของตัวเองได้อย่างลงตัว

ขณะที่ประสบการณ์ด้านอาหารและเครื่องดื่ม ยังเป็นอีกหนึ่งไฮไลต์สำคัญของ ดุสิตธานี เกียวโต ด้วยตัวเลือกหลากหลายที่จะทำให้กลายเป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางของผู้ที่ชื่นชอบการรับประทาน โดยเฉพาะความพิเศษจาก “เชฟโบ - ดวงพร ทรงวิศวะ” และ “เชฟดีแลน โจนส์” ซึ่งเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในวงการร้านอาหาร โดดเด่นในด้านปรุงอาหารไทยแบบต้นตำรับที่ใช้วัตถุดิบตามฤดูกาลและอยู่บนฐานความยั่งยืน จนร้าน โบ.ลาน (Bo.lan) ได้รับรางวัลมิชลินสตาร์เป็นเครื่องการันตี

 

ในส่วนของโรงแรมอาศัย เกียวโต ชิโจ ที่จะเปิดให้บริการในเดือน มิ.ย. บริหารภายใต้ “อาศัย โฮเท็ลส์” (ASAI Hotels) แบรนด์โรงแรมแนวไลฟ์สไตล์ภายในเครือดุสิตธานี ที่โดดเด่นและทันสมัย มีพันธกิจสำคัญในการเชื่อมโยงนักเดินทางรุ่นใหม่เข้ากับประสบการณ์ที่แท้จริงในทุกชมชนท้องถิ่นทั่วโลก โดยมีจำนวนห้องพัก 114 ห้อง ตั้งอยู่ในย่านชิโจ-คาราสุมะ อยู่ไม่ไกลจากตลาดนิชิกิ ใจกลางเมือง

โรงแรมแห่งนี้ออกแบบมาเพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วมในการสร้างความหมายให้กับทุกการเข้าพัก พร้อมให้คุณค่ากับมรดกทางศิลปะและวัฒนธรรมของชุมชนในละแวกนั้น เน้นสร้างแรงบันดาลใจจากเอกลักษณ์หลายแขนงอันโดดเด่นของไทย ที่นี่จะให้บริการห้องพักในขนาดที่ออกแบบพื้นที่ได้เกิดประโยชน์สูงสุด พร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกที่จำเป็น อาทิ เตียงนอนคุณภาพเยี่ยม และฝักบัวอาบน้ำแรงดันสูง มีพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่ซึ่งทำหน้าที่เป็นสถานที่อเนกประสงค์ทั้งการทำงาน พักผ่อนอิริยาบถ รวมถึงทำกิจกรรมต่างๆ

ภายในโรงแรมยังมีห้องรับประทานอาหารบรรยากาศสบายๆ ที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก “สตรีทฟู้ด” อันโด่งดังของ “กรุงเทพฯ” รวมทั้งบริการของว่างหลากชนิดที่จับคู่กับเครื่องดื่มได้อย่างสร้างสรรค์ ทั้งค็อกเทลแบบคลาสสิก วิสกี้ สาเก และเบียร์ระดับพรีเมียมของญี่ปุ่น ตลอดจนของหวานรสชาติเป็นเอกลักษณ์ที่เลือกสรรมาอย่างพิถีพิถัน เช่น ข้าวเหนียวมะม่วง และไอศกรีมมะพร้าวพร้อมท็อปปิงนานาชนิด เหมือนได้สัมผัสกับบรรยากาศในกรุงเทพฯ ได้อย่างแท้จริง