มังกร ‘บาร์บีกอน’ ไม่โตแค่หน้าร้าน ‘บาร์บีคิวพลาซ่า’ โกยเงินจากลิขสิทธิ์

“บาร์บีคิวพลาซ่า” ภายใต้บริษัท ฟู้ดแพชชั่น จำกัด นอกจากเป็นหนึ่งในผู้นำธุรกิจร้านอาหารหมวด “ร้านปิ้งย่าง” สร้างการเติบโตอย่างแข็งแกร่งยาวนานด้วยน้ำจิ้มบาร์บีคิวสูตรลับ จนครองใจผู้บริโภค

ทว่า นอกจากแบรนด์ที่สร้างมูลค่าทางการตลาดมหาศาล ยังมีไอคอนโดดเด่นของแบรนด์อย่าง มังกรบาร์บีกอนหน้าร้าน หรือพี่ก้อน เป็นอีกสัญลักษณ์ที่ทำให้แบรนด์เป็นที่จดจำแก่ผู้บริโภค ยิ่งกว่านั้นสามารถต่อยอด “ทำเงิน” เพื่อสร้างการเติบโตไม่จำกัดแค่ธุรกิจร้านอาหารด้วย

หลายปีที่ผ่านมา “พี่ก้อน” เดินสายพาตัวเองไปสู่กลยุทธ์การตลาด Licensing Partnership ผนึกพันธมิตรพัฒนา สร้างสรรค์สินค้าและบริการโดยมีมังกรบาร์บีก้อนแปะอยู่ด้วย ทั้งเครื่องใช้ไฟฟ้า ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ขนมขบเคี้ยวหมวดต่างๆ เป็นต้น

เดือนมีนาคม 2566 ที่ผ่านมา บริษัทยังมีการผุดโปรเจกต์ Store Model เป็นครั้งแรก ที่ร้านบาร์บีคิวพลาซ่า สาขาสยามสแควร์วัน พร้อมกันนี้ได้เดินหน้ากลยุทธ์ความร่วมมือ หรือ Collaboration : X กับร้าน CARNIVAL เปิด Bar B Q Plaza x CARNIVAL สร้างประสบการณ์ทานปิ้งย่างเข้ากับสินค้าเสื้อผ้า แฟชั่น ฯลฯ

 

การตลาด Licensing Partnership ของบาร์บีคิวพลาซ่า เกิดขึ้น เพราะเชื่อว่าพลังของการจับมือ 1+1 ต้องได้มากกว่า 2 ถือเป็น Win-win Strategy จากการหาจุดแข็งของพันธมิตรทั้ง 2 ฝ่าย มาสร้างความแข็งแกร่งให้กันและกัน รวมถึง “ขยายฐานลูกค้า” ให้กว้างขวางมากขึ้น จากฐานกลุ่มเป้าหมายของทั้ง 2 ฝ่ายนั่นเอง

ท่ามกลางธุรกิจร้านอาหาร 4 แสนล้านบาท และหมวด “ปิ้งย่าง” มูลค่า 8,000 ล้านบาท แข่งเดือดมากขึ้นจากผู้ท้าชิงหน้าเก่าและใหม่ การนำมังกรหน้าร้านอย่าง “พี่ก้อน” ไปสู่ลิขสิทธิ์เพื่ออยู่บนสินค้า และบริการหลากหลายธุรกิจ ทำให้เพิ่มโอกาสเติบโต หาน่านน้ำใหม่ หรือ New S-Curve ให้บริษัทได้ด้วย

ในการนำพี่ก้อนไปร่วมมือ ประกบคู่สินค้าใดๆ บริษัทยังยึดความต้องการของลูกค้าเป็นที่ตั้ง หรือ Customer Centric เพื่อสร้างสรรค์ และพัฒนาสิ่งใหม่ๆ ยกระดับแบรนด์ให้เป็นหนึ่งในใจผู้บริโภค

ขณะที่ 4 ศาสตร์สร้างสรรค์ที่ “บาร์บีกอน” จะเดิน ประกอบด้วย

1.สื่อกลางนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ ตัวอย่าง Bar B Q Plaza x CutePress ช่วยสร้างความแปลกใหม่ในการทำ Brand Collaboration เพราะเป็นครั้งแรกของแบรนด์ร้านอาหารได้จับมือกับแบรนด์เครื่องสำอาง โดยบาร์บีคิวพลาซ่าเป็นสื่อกลางช่วยให้คิวท์เพรส สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้โดยตรง เนื่องจากทั้งสองแบรนด์มีกลุ่มเป้าหมายหลักตรงกันคือ กลุ่มแมส ประกอบกับความเป็นแบรนด์ของคนไทยด้วยกันทั้งคู่

ส่วนคิวท์เพรส มีการต่อยอดกระแสบนโลกออนไลน์เพิ่มขึ้นผ่านการจัดกิจกรรมร่วมสนุก โดยให้ลูกค้าถ่ายภาพคู่กับบาร์บีกอนที่สวมผ้ากันเปื้อนของคิวท์เพรสพร้อมติดแฮชแท็ก ยังมี GON X สก๊อตคอร์ดี้พุงทะลาย ที่เอาใจชาว GON Gang สายปิ้งย่างสายกินแบบเต็มที่กว่าเดิม และเป็นการแก้ Pain Point ด้วยการสื่อฟังก์ชันของผลิตภัณฑ์ “สก๊อตคอร์ดี้” เป็นตัวช่วยของนักกินทั้งหลาย เป็นต้น

 

2.เปิดประสบการณ์การรับประทานอาหารรูปแบบใหม่ กรณีศึกษาของ โรลเลอร์ โคสเตอร์ และ บาร์บีคิวพลาซ่า จับมือเปิดตัวมันฝรั่งทอดกรอบรูปวง 2 รสชาติใหม่ ได้แก่ “รสบาร์บีคิว” และ “รสน้ำจิ้มบาร์บีคิวพลาซ่า สูตรเผ็ด” ผสานจุดแข็งของทั้ง 2 แบรนด์ นำสินค้าซิกเนเจอร์ มาเสิร์ฟความอร่อยกับสแน็คปิ้งย่างถึงบ้าน และการทำตลาดของ แดรี่ โกลด์ ชีสซอส X GON ผลิตภัณฑ์ซอสชีส รสชาติซอสบาร์บีคิวสูตรต้นตำรับจากบาร์บีคิวพลาซ่า ช่วยขยายฐานลูกค้ากลุ่มตลาดซอสและเครื่องปรุง

3.เข้าถึงความต้องการใหม่ ๆ ของลูกค้า โปรเจกต์ GON X ห่านคู่ ผลิตเสื้อยืด เพื่อขยายฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ เอาใจสายแฟชั่น และ GON Lover การทำตลาด Bar B Q Plaza x CARNIVAL ออกแบบเสื้อผ้าคอลเล็กชั่น “Born To Grill” และเนรมิตพื้นที่ใจกลางสยามเป็น GONLAND ที่สะท้อนถึงการเข้าใจความสุขในการรับประทานอาหารควบคู่กับงานศิลปะเพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ ๆ ของทั้งสองแบรนด์

ยังมีเอ็กซ์คลูซีฟที่บาร์บีคิวพลาซ่า มอบให้กับฐานแฟน CARNIVAL คือ น้ำจิ้มสูตรพิเศษ “น้ำจิ้ม CARNIVAL” ถือเป็นครั้งแรกที่ทาง CARNIVAL มีน้ำจิ้มที่สูตรพิเศษเป็นของตัวเองและเป็นครั้งแรก เป็นต้น

4.ยกระดับการให้บริการที่เหนือกว่า เช่น Bar B Q Plaza x Bitkub เลือกใช้ ‘พี่ GON’ มาทำเป็น NFT จำนวนจำกัด 90 ชิ้น ได้ทั้งการสะสมงานอาร์ต และมีสิทธิประโยชน์พิเศษในการรับประทานอาหารที่ร้านบาร์บีคิวพลาซ่า เจาะกลุ่มลูกค้าที่มีความจงรักภักดีต่อแบรนด์หรือ Loyalty สูง และต่อยอดกลยุทธ์สร้างความสัมพันธ์ที่ดี(CRM) สร้างมัดใจกลุ่มเป้าหมายระยะยาว รวมถึง SANSIRI x บาร์บีคิวพลาซ่า ออกแคมเปญ แสนสิริผ่อนให้ 24 เดือน เป็นการชวนลูกค้าบาร์บีคิวพลาซ่าไปซื้อที่อยู่อาศัย เป็นต้น

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์