ท่องเที่ยว 'อาเซียน' ฟื้นตัวแกร่ง! Airbnb ชี้ปี 65 ทัวริสต์เยือนไทยอันดับ 1
'Airbnb' แพลตฟอร์มจองที่พักออนไลน์ระดับโลก เผยข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับการท่องเที่ยวใน 'เอเชียตะวันออกเฉียงใต้' ที่กำลังฟื้นตัวแรง! พร้อมสร้างโอกาสใหม่ให้กับทุกชุมชนในแต่ละประเทศ โดยในปี 65 จำนวนคืนของการจองที่พักบน Airbnb ในภูมิภาคนี้เพิ่มขึ้นจากปี 63 ถึง 2 เท่า!
แสดงถึงสัญญาณการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องและกลับมาเทียบเท่าช่วงก่อนการระบาดของโควิด-19 ในปี 2562
เนธาน เบลชาร์ซิค ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายกลยุทธ์ของ Airbnb เปิดเผยว่า ปัจจุบันภาคการท่องเที่ยวฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เนื่องจากเป็นภูมิภาคที่ได้รับความนิยมจากนักเดินทางทั่วโลกมาโดยตลอด ทั้งภูมิอากาศเขตร้อน อาหารท้องถิ่น ธรรมชาติทิวทัศน์ที่สวยงาม และยังมีมรดกทางวัฒนธรรมที่หลากหลาย
“Airbnb มุ่งมั่นในการเป็นพันธมิตรกับรัฐบาลแต่ละประเทศและชุมชนต่างๆ เพื่อฟื้นฟูการท่องเที่ยวภูมิภาคนี้ในรูปแบบการสนับสนุนให้คนท้องถิ่นสามารถเข้าถึงผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจและสังคมจากอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว”
การท่องเที่ยวภายในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ยังคงได้รับความนิยมในหมู่นักเดินทางตัวยงที่มักไปเยือนประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยว “ชาวสิงคโปร์” ที่จองที่พักของ Airbnb สำหรับทริปพักผ่อนวันหยุด โดยเส้นทางการท่องเที่ยวที่กำลังได้รับความนิยมคือ ทริปสิงคโปร์-มาเลเซีย ตามด้วย ทริปสิงคโปร์-ไทย และทริปสิงคโปร์-อินโดนีเซีย
“ปี 2565 ประเทศไทยติดอันดับ 1 ของประเทศที่มีนักเดินทางมาเยือนมากที่สุดบน Airbnb ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเมืองยอดนิยมในภูมิภาคนี้ ได้แก่ กัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย, กรุงเทพฯ, พัทยา, เชียงใหม่ และภูเก็ต ด้าน สหรัฐ รั้งอันดับ 1 ของนักเดินทางต่างชาติที่เยือนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในปี 2565 ตามด้วยประเทศออสเตรเลีย สหราชอาณาจักร เยอรมนี และเกาหลีใต้”
ขณะเดียวกัน Airbnb สร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยให้การเดินทางกระจายตัวออกไปยังจุดหมายปลายทางที่ผู้คนอาจจะไม่คุ้นเคยหรือเป็นที่รู้จักมากนัก เพื่อให้ชุมชนอีกมากมายได้รับประโยชน์จากโอกาสทางเศรษฐกิจและสังคมซึ่งเป็นอานิสงส์จากอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว
ทั้งนี้ เครื่องมือค้นหาบนแพลตฟอร์ม Airbnb ที่ช่วยให้การเดินทางมีความยืดหยุ่น อาทิ Flexible Dates สามารถสร้างความแตกต่างได้อย่างชัดเจน การที่นักเดินทางค้นหาวันเข้าพักแบบ Flexible Date ในเมืองที่ได้รับความนิยม อาทิ กรุงเทพฯ กัวลาลัมเปอร์ และเมโทรมะนิลา มีส่วนช่วยให้เกิดการจองที่พักในย่านที่อยู่นอกตัวเมืองดังกล่าวได้อีกด้วย
เนธาน เล่าเพิ่มเติมว่า สำหรับ “เทรนด์การท่องเที่ยว” ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กำลังเกิดการเปลี่ยนแปลง โดย “การเดินทางแบบกลุ่ม” (Group Travel) กำลังได้รับความนิยม นักเดินทางจำนวนมากเริ่มกลับมาสานสัมพันธ์ระหว่างกันและเชื่อมต่อกับคนที่รัก ในปี 2565 พบว่าการเดินทางแบบกลุ่มในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพิ่มขึ้นมากกว่า 3 เท่าเมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อนหน้า ซึ่งเป็นผลมาจากการที่ครอบครัวจำนวนมากเลือกจองที่พักบน Airbnb เพิ่มขึ้น 60% ในปีที่แล้วเทียบกับช่วงก่อนเกิดโควิด-19 เนื่องจากมีความคุ้มค่าและพื้นที่ใช้สอยของที่พักตอบโจทย์
ด้าน “การเดินทางคนเดียว” (Solo Travel) ในภูมิภาคนี้มีการเติบโตมากขึ้นเช่นกันกว่า 2.6 เท่า เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า นอกจากนี้ Airbnb ยังช่วยดึง “กลุ่มคนทำงานทางไกล” และนักท่องเที่ยวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ให้เข้าพักยาวนานขึ้น โดยในปี 2565 พบว่ามีการเข้าพักระยะยาวนานกว่า 28 วันในภูมิภาคนี้ เพิ่มขึ้นมากกว่า 2.5 เท่า เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อน
ข้อมูลจากแบบสำรวจที่จัดทำโดย “YouGov” สนับสนุนโดย Airbnb ยังระบุด้วยว่า 85% ของคนไทยที่ทำแบบสำรวจมีมุมมองในแง่ดีต่อการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเชื่อว่าจะเกิดประโยชน์ต่อชุมชนในท้องถิ่นและเศรษฐกิจของประเทศ ส่วน 35% ระบุว่ารู้สึกตื่นเต้นที่จะได้เดินทางภายในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้บ่อยขึ้นในอนาคต หลังจากที่ไม่ได้เดินทางมานาน
เมื่อถามถึงสิ่งที่จะช่วย “เพิ่มเสน่ห์” ให้กับจุดหมายปลายทางในท้องถิ่นเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ คนไทยมากกว่า 50% ที่ตอบแบบสำรวจระบุว่า มีเรื่องของน้ำใจไมตรีของคนท้องถิ่นที่ยินดีต้อนรับนักเดินทางและการบอกต่อข้อมูลดีๆ ของท้องถิ่น, ที่พักพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก เหมาะกับการท่องเที่ยวแบบครอบครัว, การให้ความสำคัญของอาหารและวัฒนธรรมท้องถิ่น, ความสะดวกสบายในการเดินทางไปยังจุดหมายปลายทางที่อยู่นอกเส้นทางหลัก และการมีที่พักหลากหลายระดับและราคาตามความต้องการ
“นอกจากนั้น นักเดินทาง Airbnb จำนวนมากมีแนวโน้มจะเดินทางในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ช่วงวันหยุดยาวและเทศกาลสำคัญทั่วภูมิภาค เช่น มีการค้นหาที่พักช่วงสงกรานต์ในประเทศไทยเพิ่มขึ้นมากกว่า 310% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่แล้ว และในช่วงเดือน มี.ค.-เม.ย. มีการค้นหาที่พักในประเทศฟิลิปปินส์เพื่อท่องเที่ยวรับซัมเมอร์เพิ่มขึ้นเกือบ 400% ส่วนในเดือนรอมฎอน พบว่ามีการค้นหาที่พักในประเทศมาเลเซียเพิ่มขึ้นเกือบ 600% และในประเทศอินโดนีเซียมากกว่า 500%”