'เป๊ปซี่' น้ำอัดลมเจ้าแรกใช้ rPET แม้ต้นทุนแพงขึ้น 20% แต่เพื่อโลกต้องลุย!

"เป๊ปซี่" ใช้ขวด rPET 100% รายแรกในไทย สานภารกิจรักษ์โลก แม้ต้นทุนแพงกว่าขวด PETปกติ 20% พร้อมชวน PROXIE ปลุกวัยรุ่นสายกรีนใส่ใจสิ่งแวดล้อม แผนปี 66 เห็นเพิ่มอีก 1 สินค้า "ทีพลัส" ใช้บรรจุภัณฑ์รีไซเคิล ตั้งเป้าปี 73 ขยับสู่พอร์ตโฟลิโอสินค้าให้ได้ 17%

กระบวนการผลิตพลาสติกรีไซเคิล 100% หรือ เม็ด rPET 100% ผ่านการประเมินความปลอดภัย สามารถกำจัดสิ่งปนเปื้อน เพื่อแปรสภาพใหม่เป็นขวดพลาสติกรีไซเคิล เพิ่งได้รับการรับรองจาก อย.ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข เมื่อกลางเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งทันทีที่ภาครัฐไฟเขียว และมีผู้ผลิตเม็ดพลาสติก rPET ตลอดจนเอกชนในภาคอุตสาหกรรมเครื่องดื่มเดินหน้าลุยภารกิจรักษ์โลก คิกออฟแคมเปญเพื่อสร้างการรับรู้ให้ผู้บริโภค

เครื่องดื่ม “เป๊ปซี่” จากบริษัท ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค เบเวอเรจ (ประเทศไทย) จำกัด ถือเป็นรายแรกที่นำร่องใช้พลาสติกรีไซเคิล 100% หรือ ขวด rPET 100% บรรจุน้ำอัดลม พร้อมผนึกบริษัท เอ็นวิคโค จำกัด และสำนักงานจัดการทรัพย์สิน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (PMCU) จัดกิจกรรม “Pepsi Recycled PET Bottle Campaign”

อนวัช สังขะทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด บริษัท ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค เบเวอเรจ (ประเทศไทย) จำกัด ฉายภาพภาวะอากาศเปลี่ยนแปลงกลายเป็นปัญหาที่มีผลกระทบต่อคนทั้งโลก สาเหตุมีหลายประการ หนึ่งในนั้นคือ “พลาสติก” ที่เป็นตัวแปรจะส่งผลให้วิถีชีวิตของผู้คนสุ่มเสี่ยงที่จะไม่ยั่งยืน

โลกผลิตพลาสติกเพื่อใช้ แต่มีการนำกลับมารีไซเคิลเพียง 9% เท่านั้น อีก 91% ยังถูกปล่อยทิ้งไว้เป็นขยะ นอกจากนี้ คนไทยยังสร้างขยะเฉลี่ย 1.5 กิโลกรัม(กก.)ต่อวัน หรือรวม 4.02 ล้านตัน หรือเทียบเท่าจำนวนตึกใบหยก 147 ตีก

$\'เป๊ปซี่\' น้ำอัดลมเจ้าแรกใช้ rPET แม้ต้นทุนแพงขึ้น 20% แต่เพื่อโลกต้องลุย!$ สารพัดปมปัญหาสิ่งแวดล้อมทำให้บริษัทต้องการรณรงค์ให้ผู้บริโภค โดยเฉพาะอย่างยิ่งเจนเนอเรชั่นซี(Gen Z)คนรุ่นใหม่ ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายของตลาดน้ำอัดลม และเป็นกลุ่มที่มีความกังวลในประเด็นดังกล่าว เนื่องจากอนาคตคือโลกข้างหน้าของทุกคน บริษัทจึงออกแคมเปญ “สำนึกซ่า กล้าเปลี่ยนเพื่อโลก”

พร้อมกันนี้ได้ประกาศความพร้อมในการใช้ขวดจากพลาสติกรีไซเคิล 100% เป็นเจ้าแรกในตลาดเครื่องดื่มน้ำอัดลม นำร่องด้วยเครื่องดื่มเป๊ปซี่ ออริจินัลและ เป๊ซี่ไม่มีน้ำตาล ขนาด 550 มิลลิลิตร(มล.) เพื่อช่วยลดปริมาณการใช้พลาสติกใหม่ (Virgin PET) อย่างเป็นรูปธรรม

ทั้งนี้ เครื่องดื่ม “เป๊ปซี่” มีการใช้ rPET มาใช้ในหลายประเทศ เช่น สหรัฐฯ ยุโรป นิวซีแลนด์ ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น และเวียดนาม โดยเวียดนามเปิดตัวผลิตภัณฑ์รักษ์สิ่งแวดล้อมราว 2 ปี สามารถจุดประกาย สร้างกระแสเชิงบวกจากตลาดและผู้บริโภคได้อย่างดี

ซันโทรี่ เป๊ปซี่โคฯ มีเครื่องดื่มในพอร์ตโฟลิโอมากมาย 9 แบรนด์ อยู่ใน 7 หมวดหมู่(แคทิกอรี) แต่การนำร่องใช้ rPET กับเป๊ปซี่ และเป๊ปซี่ ไม่มีน้ำตาล เพราะเป็นสินค้าขายดีอันดับ 1 ของบริษัท เมื่อประเดิมพระเอกแล้ว บริษัทจะต่อยอดสู่ผลิตภัณฑ์ “ทีพลัส” ชาอู่หลงพร้อมดื่มด้วย ซึ่งจะเห็นในปีนี้แน่นอน

$\'เป๊ปซี่\' น้ำอัดลมเจ้าแรกใช้ rPET แม้ต้นทุนแพงขึ้น 20% แต่เพื่อโลกต้องลุย!$ สำหรับการใช้บรรจุภัณฑ์ที่ดีแต่โลกอย่าง rPET มากขึ้น แต่ด้าน “ต้นทุน” เพิ่มขึ้นเช่นกัน เฉลี่ยราว 20% แต่ด้วยพันธกิจสำคัญของ “ซันโทรี่ เป๊ปซี่โคฯ” ที่วางเป้าหมายปี 2030 หรือ 2573 บริษัทต้องการนำ rPET มาใช้ให้ได้ 17% ของพอร์ตโฟลิโอ หรือมากกว่านั้น โดยตัวแปรสำคัญอยู่ที่ผลตอบรับจาก “ผู้บริโภคทุกคน”

เพื่อทำให้แคมเปญสำนึกซ่า กล้าเปลี่ยนเพื่อโลกมีอิมแพ็ค ซันโทรี่ เป๊ปซี่โคฯ ยังชวนเหล่าศิลปิน “PROXIE” พรีเซ็นเตอร์ของเป๊ปซี่มาร่วมในงาน ปลุกพลังให้คนรุ่นใหม่วัยซ่าหันมาให้ความสำคัญกับปัญหาขยะพลาสติกและการจัดการบรรจุภัณฑ์หลังการบริโภคเพิ่มมากขึ้น

ณัฐนันท์ ศิริรักษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็นวิคโค จำกัด (ENVICCO) ผู้ผลิตเม็ดพลาสติกรีไซเคิล กล่าวว่า มาตรฐานความปลอดภัยและคุณภาพของบรรจุภัณฑ์รีไซเคิลที่ผลิตจาก PCR PET (Post-Consumer Recycled PET) ของทางเอ็นวิคโค มีแนวคิดพื้นฐาน 3 ประการ ได้แก่ สิ่งแวดล้อม (Environment) การหมุนเวียน (Circular) และการทำงานร่วมกัน (Collaboration)

บริษัทจึงมุ่งส่งเสริมความร่วมมือและสนับสนุนการดำเนินงานของภาคส่วนต่างๆ ในสังคมผ่านการนำหลักการเศรษฐกิจหมุนเวียนมาปรับใช้ เพื่อสนับสนุนการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพและคุ้มค่ามากที่สุด ซึ่งวัตถุดิบทั้งหมด 100% เป็นพลาสติกใช้แล้วในประเทศไทย จากเครือข่ายพันธมิตรและชุมชนต่างๆ

$\'เป๊ปซี่\' น้ำอัดลมเจ้าแรกใช้ rPET แม้ต้นทุนแพงขึ้น 20% แต่เพื่อโลกต้องลุย!$ สำหรับเป้าหมายสำคัญคือการคืนคุณค่าให้กับพลาสติกใช้แล้วให้กลายเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่คุณภาพสูง ด้วยการใช้เทคโนโลยีการรีไซเคิลที่ทันสมัย ควบคุมการผลิตตลอดกระบวนการโดยห้องปฏิบัติการมาตรฐานยุโรปภายในโรงงาน เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์เม็ดพลาสติกรีไซเคิล PCR PET 100% ภายใต้แบรนด์ InnoEco เกรดสัมผัสอาหารที่มีคุณภาพสูง ผ่านมาตรฐานความปลอดภัยระดับสากล ทั้ง USFDA และ อย. เป็นรายแรกของประเทศไทย สามารถใช้ผลิตเป็นภาชนะบรรจุภัณฑ์สัมผัสอาหารได้

“โปรเจคการผลิต rPET ให้เป๊ปซี่ เราหารือและเตรียมความพร้อมกันเป็นเวลา 2 ปี เมื่อรัฐไฟเขียวให้ใช้ rPET ได้ เราจึงผลิตเพื่อตอบสนองผู้บริโภคทันที”

ด้าน วรพงศ์ สุขธีรอนันตชัย ผู้อำนวยการสำนักงานจัดการทรัพย์สิน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (PMCU) กล่าวว่า ในฐานะผู้บริหารพื้นที่พาณิชย์โดยรอบรั้วจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้วางแผนพัฒนาพื้นที่เขตพาณิชย์ในบริเวณสามย่านและสยามให้เป็นต้นแบบเมืองอัจฉริยะ ภายใต้แนวคิด “SAMYAN SMART CITY” มุ่งพัฒนาพื้นที่แห่งนี้ให้เป็นย่านแห่งนวัตกรรมที่สร้างสรรค์คุณค่าแก่ชุมชนและสังคมผสานกับคุณภาพชีวิต ตลอดจนธุรกิจ โดยมุ่งหวังให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการดำรงชีวิตที่ดีและยั่งยืน โดยหนึ่งใน 7 แนวคิดสำคัญคือเรื่อว SMART ENVIRONMENT การจัดการขยะให้เหลือศูนย์ และการร่วมกับเป๊ปซี่จึงสอดคล้องกับนโยบาย PMCU ในการช่วยลดปริมาณขยะ ลดภาวะโลกร้อน สร้างประโยชน์ต่อสังคมได้อย่างยั่งยืน

แคมเปญสำนึกซ่า กล้าเปลี่ยนเพื่อโลก จะมีการติดตั้งถังขยะดีไซน์พิเศษสำหรับใส่ขวด PET ทั่วบริเวณสยาม สแควร์ ตั้งแต่ช่วงสงกรานต์นี้ - ธันวาคม 2566 เพื่อนำกลับไปรีไซเคิลต่อไป