นิวอีร่า ‘แม็คโคร’ สู่ยุคดิจิทัล ชูออมนิแชนแนลเสริมแกร่ง

นิวอีร่า ‘แม็คโคร’ สู่ยุคดิจิทัล  ชูออมนิแชนแนลเสริมแกร่ง

ตลาดค้าส่งพลิกโฉมใหม่ ผู้นำตลาด "แม็คโคร" เร่งเครื่องเข้าสู่ยุคดิจิทัลเต็มตัว พร้อมก้าวสู่ผู้นำตลาดค้าส่งออมนิแชนแนลในประเทศไทย

ตั้งแต่สถานการณ์โควิด เป็นสัญญาณทำให้ธุรกิจค้าส่งค้าปลีกไทยต่างปรับสู่ออนไลน์เต็มรูปแบบ ควบคู่กับการขยายสาขาออฟไลน์ เพื่อรับตลาดออนไลน์ที่กำลังมาแรง ทั้งผู้บริโภคและร้านค้าส่งต่างหันมาเลือกซื้อผ่านออนไลน์ 

ยักษ์ค้าส่งรายใหญ่ “แม็คโคร” เร่งแผนรุกตลาดออนไลน์สู่ออฟไลน์ (O2O) ครั้งใหญ่ พร้อมประกาศขึ้นสู่ผู้นำค้าส่งออมมิแชนแนลค้าส่งในประเทศไทย

ธนิศร์ เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร ธุรกิจค้าส่งแม็คโคร ประเทศไทย บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ภาพรวมตลาดอีคอมเมิร์ซของประเทศไทย มีสัดส่วนประมาณ 2.7% ของตลาดการค้าโดยรวม ถือว่ายังมีสัดส่วนที่น้อยอยู่เมื่อเทียบกับต่างประเทศ โดยเกาหลีใต้ มีสัดส่วนอีคอมเมิร์ซอยู่ที่ 30% และจีน 40% 

“ตลาดอีคอมเมิร์ซในประเทศไทยมีโอกาสที่จะขยายตัวอีกมาก และพบแนวโน้มการเติบโตรวดเร็ว”

 

นิวอีร่า ‘แม็คโคร’ สู่ยุคดิจิทัล  ชูออมนิแชนแนลเสริมแกร่ง ทั้งนี้ตั้งแต่มีสถานการณ์โควิด ทำให้กลุ่มร้านค้าในประเทศต่างหันมาเลือกซื้อสินค้าผ่านออนไลน์เพิ่มขึ้น ทำให้ช่องทางขายสินค้าผ่านออนไลน์มีการเติบโตสูงมาอย่างต่อเนื่อง

เร่งลงทุนออมนิแชนแนล

จากพฤติกรรมของลูกค้าและร้านค้าที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้แม็คโคร ได้จัดทำแผนลงทุนครั้งใหญ่ในช่องทางออนไลน์ โดยได้เริ่มพัฒนาระบบอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2562 เป็นต้นมา ทำให้ภาพรวมยอดขายผ่านช่องทางออนไลน์เติบโตสองหลักมาตลอด ในปัจจุบันมีฐานลูกค้าสมาชิกผ่านออนไลน์รวมประมาณ 1 ล้านคน ส่วนจำนวนร้านค้าสมาชิกของแม็คโครมีอยู่ทั้งหมด 4.5 ล้านร้านค้า

พร้อมกันนี้ ได้วางเป้าหมายการขยายสาขาใหม่ในปี 2566 จะเปิดเพิ่มจำนวน 10-12 สาขา งบลงทุนประมาณ 200-300 ล้านบาท จะปรับให้ทุกสาขาเป็น O2O ออฟไลน์ทูออนไลน์ พร้อมสร้างคลังสินค้า (DC) เพื่อรองรับการขยายสู่ออมนิแชนแนลอย่างเต็มรูปแบบ รวมถึงการปรับสาขาทั้งหมดที่มีอยู่ 152 สาขาให้สอดคล้องกัน เพื่อร่วมผลักดันแม็คโคร ก้าวสู่ผู้นำในตลาด ค้าส่งออมนิชาแนลของประเทศไทย

ส่วนการขยายสาขาของแม็คโครในรูปแบบ Fresh@Makro ยังไม่มีนโยบายที่จะขยายเพิ่มเติมต่อจากนี้ จากปัจจุบันมีสาขาเปิดให้บริการรวม 4 สาขา โดยสาขาใหม่ที่จะเปิด จะเน้นขนาดเล็ก ที่มีพื้นที่ประมาณ 4,000 ตร.ม. และเลือกเปิดสาขาให้เหมาะกับแต่ละพื้นที่ และในแต่ละจังหวัดอาจจะมีสาขาหลายแห่ง เช่น ในจังหวัดเชียงใหม่ 5 สาขา และในจังหวัดภูเก็ต ที่มีหลายสาขา

ต่อยอดธุรกิจดิจิทัล Makro PRO

แม็คโคร ได้มีการศึกษาพฤติกรรมของลูกค้าอย่างต่อเนื่อง และให้บริษัท เดนท์สุ มาศึกษาข้อมูลพบว่า กลุ่มลูกค้าจะรู้จักว่า แม็คโครได้เป็นผู้นำค้าส่งอันดับหนึ่งของประเทศ แต่ในปัจจุบันที่เข้าสู่ดิจิทัล เต็มรูปแบบ จึงได้ปรับระบบแอปพลิเคชันใหม่ และได้เปิดตัว “Makro PRO” ให้เป็น Super App จะตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าทั้งรายย่อยและร้านค้าส่งทั่วประเทศ โดยในแอปพลิเคชัน จะมีจำนวนสินค้ารวม 50,000 เอสเคยู มีจำนวนมากกว่า ช่องทางออฟไลน์ ที่มีสินค้ารวม 20,000 เอสเคยู

ในการเปิดตัว Makro PRO แอปพลิเคชัน มี  “ญาญ่า - อุรัสยา เสปอร์บันด์” ทำหน้าที่พรีเซ็นเตอร์คนแรกสร้างการรับรู้ต่อแบรนด์ผ่านภาพยนตร์โฆษณาสร้างการรับรู้ผ่านสื่อต่างๆ ทั่วประเทศ ถือเป็นกระแสที่นำไปสู่ก้าวสำคัญในการเปลี่ยนผ่านสู่ธุรกิจดิจิทัลของแม็คโคร

สำหรับแอปพลิเคชั่นของแม็คโครที่มีอยู่ทั้ง แม็คโคร ออนคลิก และ maknet จะทยอยปรับลูกค้าไปสู่ Makro PRO ทั้งหมด เพื่อรองรับการก้าวสู่ดิจิทัลของแม็คโคร จะทำให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ในการเลือกซื้อสินค้าผ่านออนไลน์และออฟไลน์ ที่เชื่อมโยงกันแบบไร้รอยต่อ โดยชูกลยุทธ์ “สั่ง ขาย คุ้ม อย่างโปรในแอปเดียว” คาดว่าจะเพิ่มจำนวนฐานลูกค้าใหม่ได้ 1 ล้านรายผ่านแอปพลิเคชั่น พร้อมทำให้ยอดขายผ่านช่องทาง O2O เติบโต 88% จากปีก่อน