“อีมิแน้นท์แอร์” ตั้งเป้าเติบโต 30% ฉลอง 45 ปี ยืนหยัดคุณภาพ บริการมาตรฐาน

ภาพรวมอุตสาหกรรมเครื่องปรับอากาศและเครื่องทำความเย็นของประเทศไทยเป็นอุตสาหกรรม สามารถสร้างรายได้เป็นอันดับต้นๆ ของประเทศ โดยเป็นอันดับ 1 ในอาเซียน และเป็นอันดับ 2 ของโลก รองเพียงประเทศจีน โดยช่วง 8 เดือนแรกปี 2565 มูลค่าส่งออก 164,096 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 21%

ขณะที่ ตลาดส่งออกเครื่องปรับอากาศของไทยมีแนวโน้มเติบโตเพิ่มขึ้น หลังสถานการณ์โควิดคลี่คลาย และความต้องการสินค้าเริ่มฟื้นกลับคืนมา เช่น ตลาดเวียดนาม และอินโดนีเซีย ในกลุ่มอาเซียน 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

5 พ.ย.นี้ เปิดบริการ “อีมิแน้นท์แอร์” ร้านค้าใน V-AVENUE by AIS

ถอดแนวคิด 'อีมิแน้นท์แอร์' ผ่าน Moonshot สู่ธุรกิจยั่งยืน

ผู้ประกอบการไทย ลุยทำแคมเปณการตลาดบน TikTok เข้าถึงผู้บริโภค คนรุ่นใหม่

 

ภาพรวมอุตสาหกรรมเครื่องปรับอากาศปี 65 ชะลอตัว

‘จรรยาพร สุนทรวสุ’ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อีมิแน้นท์แอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่าในปีที่ผ่านมา มีการเติบโตยอดขายเพิ่มขึ้น 15 % ทำให้เป็นแบรนด์ไทย 1 เดียวที่ติดอันดับTop10 ในอุตสาหกรรมเครื่องปรับอากาศ ซึ่งภาพรวมอุตสาหกรรมเครื่องปรับอากาศนั้น จะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ ตลาดเครื่องปรับอากาศในบ้าน มีมูลค่า 25,000 ล้านบาท และตลาดเครื่องปรับอากาศเชิงพาณิชย์ 14,000 ล้านบาท  รวมเป็น 39,000 ล้านบาท 

ทั้งนี้ สภาพตลาดในปี 2565 ที่ผ่านมา มีการชะลอตัว เนื่องจากมีความขาดแคลนวัตถุดิบ ในการผลิต คือ ไมโครชิพ และเซมิคอนดักเตอร์ ที่อยู่ในชุดควบคุม รวมถึงต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้นประมาณ 40% อีกทั้งค่าเงินบาทปรับสูงขึ้นประมาณ 18% ล้วนส่งผลให้ทำให้ต้นทุนของเครื่องปรับอากาศปรับสูงขึ้นประมาณ 20-30%

“ด้วยผลกระทบที่เกิดขึ้น ทางอีมิแน้นท์แอร์ ซึ่งเป็นโรงงานผู้ผลิต ได้พัฒนาสินค้าตอบสนองลูกค้าได้อย่างดี ต้นทุนไม่สูงขึ้นมาก ส่งผลให้ราคาที่ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงได้ ที่ผ่านมา ปีที่ผ่านมา มีการออกสินค้าใหม่  อาทิ อีมิแน้นท์แอร์ EMINENT รุ่น Earth   Care  เครื่องปรับอากาศแบบติดผนัง Fixed Speed รุ่นใหม่  หรือ Eminent ติดผนัง Inverter รุ่น DOUBLE First Class เป็นต้น  ผลิตภัณฑ์ที่ออกมาทำให้เราสามารถครองตำแหน่งส่วนแบ่งการตลาด (Market Share)ได้”จรรยาพร กล่าว

 

 

ปี 66 ตั้งเป้าเพิ่มยอดขาย 30%

จุดเด่นของอีมิแน้นท์แอร์  คือ Fixed Speed และการขายผ่านช่องทาง AC Specialist  เป็นผู้ที่มีความเชี่ยวชาญในการขายและติดตั้งเครื่องปรับอากาศ  อีกทั้ง อีมิแน้นท์แอร์ เป็นเครื่องปรับอากาศสัญชาติไทยที่มีโรงงานผลิต  ดังนั้น ทำให้อยู่อันดับ 1 ในปริมาณสัดส่วนของ Market Share ช่องทาง AC Specialist  ประมาณ 18.5%  

“ในส่วนของยอดขายนั้น  70% จะอยู่ในส่วนของตลาดเครื่องปรับอากาศในบ้าน ส่วน Fixed Speed จะอยู่ประมาณ 30% ฉะนั้น ยอดขายของบริษัทในปี 2566 นี้ ตั้งเป้าไว้ 30%” จรรยาพร กล่าว

5 กลยุทธ์ ขยายการเติบโตอีมิแน้นท์แอร์

ในปี 2566 นี้ อีมิแน้นท์แอร์ ได้ตั้งเป้าจะขยายการเติบโตของ  Fixed Speed และตลาดเครื่องปรับอากาศในบ้าน และตลาดเครื่องปรับอากาศเชิงพาณิชย์ อย่าง การพัฒนาสินค้าในส่วนของแอร์ตั้งแขวน เจาะกลุ่มเชิงพาณิชย์มากขึ้น  ภายใต้ขับเคลื่อนกลยุทธ์ในการดำเนินงาน และเป็นการฉลองโอกาสครบรอบ 45 ปี ไว้ทั้งหมด 5 กลยุทธ์ ได้แก่

1.Experience การเสริมสร้างประสบการณ์ที่ดีให้แก่ลูกค้า ผ่านทางสินค้าและบริการของอีมิแน้นท์แอร์ โดยจะมีการพัฒนาสินค้าอย่างต่อเนื่อง

2. EMINENT CARE  ซึ่งปัจจุบันมีศูนย์บริการ 60 ศูนย์ ในปี 2566 นี้ จะมีการขยายเพิ่มศูนย์บริการให้ครบ 77 ศูนย์ทั่วประเทศ ทั้งนี้ มีดีลเลอร์ ประมาณ 300  แห่งทั่วประเทศ

3. Education พัฒนาความรู้ช่างแอร์ เพื่อยกระดับมาตรฐานของช่างแอร์ โดยได้มีความร่วมมือกับกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน และสำนักงานคณะกรรมการอาชีวศึกษา ในการอบรมให้ความรู้ การติดตั้งแอร์อย่างมีมาตรฐาน  เพราะต้องยอมรับว่าช่างแอร์ของไทยมีคุณภาพ มีฝีมือ แต่ยังไม่มีใบอนุญาต

การอบรมดังกล่าว นอกจากเป็นการสร้างความรู้ ความเชี่ยวชาญให้แก่ช่างแอร์อย่างมาตรฐานผ่านการสอบ การทดสอบตามระดับ 1-3 แล้ว  ยังเป็นการสร้างความเชื่อมั่น น่าเชื่อถือของช่างแอร์ และต้องคำนึงถึงความปลอดภัยร่วมด้วย นอกจากนั้น ในส่วนของช่างแอร์ หรือดีลเลอร์ที่ทำงานร่วมกับ  อีมิแน้นท์แอร์ ล้วนได้รับการอบรม พัฒนาองค์ความรู้ สร้างมาตรฐานให้แก่ช่างแอร์อย่างต่อเนื่อง

4.E-Commerce ที่ผ่านมาในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ทำให้ผู้คนไม่ออกจากบ้าน ทาง อีมิแน้นท์แอร์ ได้ร่วมกับ AIS เปิดตัวร้านค้าใน V-AVENUE ร้านค้าบนโลกออนไลน์ ที่ทำให้ผู้บริโภคได้รับประสบการณ์ช็อปบนโลกเสมือน 360 องศา เหมือนได้ไปเดินช้อปในร้านจริงๆ และปี2566 ได้มีการทำช็อปใหม่ เป็นเมตาเวิด ซึ่งจะเป็นโชว์รูมให้แก่คนรุ่นใหม่ได้ไปดู ช็อปเครื่องปรับอากาศโดยไม่ต้องออกจากบ้าน  สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ของอีมิแน้นท์แอร์

5. Environment  การดูแลสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจัง โดยเมื่อปีที่ผ่านมามีการพัฒนาน้ำยาแอร์ R32  เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และในปีนี้จะพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น น้ำยา R290 เป็นน้ำยารุ่นใหม่ สารความเย็นตามธรรมชาติ มีค่าศักยภาพในการทำลายชั้นบรรยากาศโอโซนเท่ากับ ศูนย์ และมีค่าก่อให้เกิดภาวะโลกร้อนต่ำ  แต่น้ำยาดังกล่าว จะเริ่มในกลุ่มแอร์เคลื่อนที่ ระบบปิด นอกจากนั้นจะมีการพัฒนาสู่แอร์ที่ส่งออก เพราะยุโรปให้ความสำคัญในสารดังกล่าวอย่างมาก

“อีมิแน้นท์แอร์ ไม่ได้จำหน่ายเฉพาะในประเทศไทย แต่ยังมุ่งเน้นการส่งออกไปประเทศต่างๆ  โดยจะเป็นสัดส่วนในประเทศ 80% ส่งออก 20% ซึ่งประเทศที่ส่งออก ได้แก่ กลุ่มประเทศ Middle East หรือตะวันออกกลาง , Southeast Asia ,อเมริกาใต้  และปีนี้จะมีการขยายไปกลุ่มภาคพื้นยุโรปมากขึ้น  อย่าง การพัฒนาน้ำยาแอร์ R290 หรือผลิตภัณฑ์ที่จะตอบสนองการดูแลสิ่งแวดล้อม ประเทศทางยุโรปจะต้องการแอร์ที่ช่วยลดพลังงาน” จรรยาพร กล่าว

สร้างคุณภาพ ความเชื่อมั่น ราคาจับต้องได้

จรรยาพร กล่าวต่อไปว่า ขณะนี้การแข่งขันในอุตสาหกรรมเครื่องปรับอากาศสูงขึ้นมาก เพราะไม่ได้มีเพียงกลุ่มผู้ผลิตภายในประเทศเท่านั้น แต่นักลงทุนต่างประเทศก็มาตั้งฐานการผลิตที่ไทย ดังนั้น สิ่งที่จะทำให้อีมิแน้นท์แอร์ แบรนด์ไทยยังอยู่ได้นั้น ต้องมีการพัฒนาสินค้าให้มีคุณภาพ บริการหลังการขายให้ลูกค้าซื้อสินค้าแล้วได้รับบริการที่ดี ซื้อแล้วสบายใจ เชื่อมั่นในคุณภาพ ซึ่งอีมิแน้นท์แอร์ มีพันธมิตร มีลูกค้า มีดีลเลอร์ที่ช่วยสนับสนุน  

“เราต้องมองหาโอกาส และมองหาผลิตภัณฑ์ที่สามารถตอบสนองลูกค้าให้ได้ ซึ่งอีมิเน้นแอร์มีโรงงาน ที่มีคุณภาพมาตรฐาน และในปีนี้ ได้มีการปรับปรุงห้องทดสอบที่ได้มาตรฐานมากขึ้น เพื่อการผลิตสินค้าและบริการคุณภาพแก่ลูกค้าให้มากขึ้น อีมิแน้นท์แอร์คงใส่ใจเรื่องคุณภาพมาตรฐาน ภายใต้ราคาที่สามารถจับต้องได้ แม้ต้นทุนการผลิตจะสูงขึ้น”จรรยาพร กล่าวทิ้งท้าย