มูให้เฮง มูให้ปัง! ตามรอยเส้นทาง "พญานาค" ททท. หวัง ก.พ.66 เงินสะพัด 120 ล้าน

มูให้เฮง มูให้ปัง! ตามรอยเส้นทาง "พญานาค" ททท. หวัง ก.พ.66 เงินสะพัด 120 ล้าน

“ททท.” เกาะเทรนด์ “เที่ยวสายมู” ชวน “มูให้เฮง มูให้ปัง รับพลังแบบรักษ์โลก” ตามรอยเส้นทาง "พญานาค" ในกลุ่มจังหวัด “นคราธานี” อุดรฯ-หนองคาย-บึงกาฬ หวังสร้างรายได้หมุนเวียนในพื้นที่ 120 ล้านบาท ภายในเดือน ก.พ.2566

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) โดย ททท. สำนักงานอุดรธานี รับเทรนด์ท่องเที่ยวศรัทธา ปลุกกระแสสายมูด้วยกิจกรรม “มูให้เฮง มูให้ปัง รับพลังแบบรักษ์โลก” ร่วมกับ ดร.คฑา ชินบัญชร ออกแบบเส้นทางท่องเที่ยวเสริมสิริมงคลตามความเชื่อเชื่อมโยงเส้นทางพญานาค ในพื้นที่ดินแดนแห่งความศักดิ์สิทธิ์ “นคราธานี” จังหวัดอุดรธานี หนองคาย และบึงกาฬ ภายใต้ธีม #ไหว้พญานาคพญายักษ์แล้วจะหลงรักนคราธานี ต่อยอดกิจกรรม #มูกลางคืนก็ปังมูกลางวันก็เฮง หวังสร้างรายได้หมุนเวียนในพื้นที่ 120 ล้านบาท ภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2566

นางธนภร พูลเพิ่ม ผู้อำนวยการสำนักงาน การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานอุดรธานี กล่าวว่า ททท. เดินหน้าส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศผ่านแคมเปญสื่อสาร “เที่ยวเมืองไทย Amazing ยิ่งกว่าเดิม”ด้วยการนำเสนอการท่องเที่ยวเชื่อมโยงอัตลักษณ์ของพื้นที่เพื่อส่งมอบประสบการณ์อันทรงคุณค่าและเปี่ยมความหมายแก่นักท่องเที่ยว (Meaningful Travel)  

โดยภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือชูคอนเซปต์ Isan In Love หลงรักแผ่นดินถิ่นอีสาน” กระตุ้นท่องเที่ยวจังหวัดภาคอีสาน กับ 3 ธรรม ธรรมะ ธรรมชาติ และวัฒนธรรม ควบคู่กับการเผยแพร่ Soft Power of Thailand ประกอบกับ “นาค” ได้รับประกาศเป็นสัตว์เอกลักษณ์ประจำชาติประเภทสัตว์ในตำนาน

จึงเป็นโอกาสดีในการต่อยอดกระแสเดินทางท่องเที่ยวสายศรัทธาหรือสายมู จัดกิจกรรม “มูให้เฮง มูให้ปัง รับพลังแบบรักษ์โลก” ภายใต้ธีม #ไหว้พญานาคพญายักษ์แล้วจะหลงรักนคราธานี โดยร่วมกับ ดร.คฑา  ชินบัญชร ออกแบบเส้นทางท่องเที่ยวสายมูในพื้นที่ “นคราธานี” ประกอบด้วย จังหวัดอุดรธานี หนองคายและบึงกาฬ พร้อมหยิบยกความเชื่อและวัฒนธรรมท้องถิ่นเรื่อง “นาค” Soft Power สำคัญ สัญลักษณ์แห่งสายน้ำและความอุดมสมบูรณ์ ผู้พิทักษ์พระพุทธศาสนามาสร้างสรรค์เส้นทางสายพญานาคในดินแดนแห่งความศักดิ์สิทธิ์ สะท้อนอัตลักษณ์แห่งวัฒนธรรมที่ผูกโยงกับความศรัทธาช้านาน

มีเส้นทางท่องเที่ยวไฮไลท์ ได้แก่

- เส้นทาง อุดรธานี ท้าวเวสสุวรรณ - วัดสระมณี – วัดป่าดงหนองตาล

- เส้นทาง หนองคาย พระธาตุพังพวน - วัดโพธิ์ชัย - พระธาตุหล้าหนอง

- เส้นทาง บึงกาฬ วัดสุวรรณราชดาราม - วัดป่าเมืองเหือง - ถ้ำนาคา - เกาะดอนโพธิ์ (ปู่อือลือ)  

และต่อยอดมาถึงกิจกรรม #มูกลางคืนก็ปังมูกลางวันก็เฮง กระตุ้นให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางเชื่อมโยง เพิ่มวันพำนักพักค้าง และทำกิจกรรมขอพร มูปัง ดัง เฮง ได้ทั้ง 24 ชั่วโมง โดยมีเส้นทางตัวอย่าง คือ เส้นทางองค์ศรีสุขคเณศ - ท้าวเวสสุวรรณ - ศาลเทพารักษ์ – กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม

นอกจากนี้ ททท. ยังมุ่งสร้างการรับรู้แนวคิดการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ (Responsible Tourism) สอดคล้องกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจ BCG Model รณรงค์ให้ลดการจุดธูปเทียน ลดควัน ลดมลพิษ ลด ละ เลิก กิจกรรมที่เป็นการทำให้เกิดภาวะโลกร้อน และเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เช่น ใช้ถุงผ้าภาชนะจากธรรมชาติ ในระหว่างการเดินทางท่องเที่ยว  ตลอดจนประชาสัมพันธ์เชิญชวนนักท่องเที่ยวออกเดินทางสัมผัสเสน่ห์ของแหล่งท่องเที่ยว วัฒนธรรมอันงดงาม และความยิ่งใหญ่มหัศจรรย์ของเส้นทางสายมูแห่งดินแดนอีสาน ตอกย้ำสโลกแกน "นคราธานีเที่ยวได้ทั้งปี" ให้แดนอีสานเป็นจุดหมายปลายทางในใจของนักท่องเที่ยวอยู่เสมอ

“ทั้งนี้ ททท. คาดการณ์ว่ากิจกรรมนี้จะทำให้เกิดการเดินทางตามเส้นทางท่องเที่ยวสายมูในพื้นที่ประมาณ 30,000 คน สร้างรายได้หมุนเวียนกว่า 120 ล้านบาท ในช่วงระหว่างเดือนธันวาคม 2565 – เดือนกุมภาพันธ์ 2566”