เจาะเทรนด์คุณแม่ยุคของแพง "ใช้ซ้ำ-ขายต่อ-ช้อปมือสองออนไลน์"

เจาะเทรนด์คุณแม่ยุคของแพง  "ใช้ซ้ำ-ขายต่อ-ช้อปมือสองออนไลน์"

ส่องเทรนด์คุณแม่ยุคของแพง "Kaidee" ระบุผลสำรวจพบ พิษเศรษฐกิจ หนุนเปลี่ยนพฤติกรรมช้อปผ่านตลาดมือสองออนไลน์ เน้นใช้ซ้ำ ขายต่อ ลดค่าใช้จ่ายได้ถึง 60% พร้อมขานรับเทรนด์รักษ์โลกและสิ่งแวดล้อม

พิษเศรษฐกิจ โดยเฉพาะสภาวะ "เงินเฟ้อ" และ "ค่าครองชีพสูง" ในขณะนี้ ทำให้ค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงบุตรสูงขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยการเลี้ยงดูเด็กหนึ่งคนแบบขั้นพื้นฐานไปจนจบปริญญาตรีจะต้องใช้เงินไม่น้อยกว่า 1.5 ล้านบาท ขณะที่ปัจจุบัน คนไทยมีรายได้เฉลี่ยต่อเดือนของครัวเรือนประมาณ 28,000 บาท

จึงไม่เป็นที่แปลกใจที่อัตราการเกิดประชากรใหม่ในปี 2564 ต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ โดยในปีที่ผ่านมามีเด็กไทยเกิดใหม่เพียง 540,000 คน ในขณะที่อัตราการตายสูงถึง 560,000 คน นั่นหมายความว่าประเทศไทยกำลังก้าวสู่สภาวะขาดแคลนแรงงานในอนาคต

ทั้งนี้ จากการสำรวจข้อมูลผู้ใช้งานหมวดสินค้าแม่และเด็กบน kaidee.com ระหว่างเดือน มกราคม - มิถุนายน หรือ ครึ่งปีแรก 2565 พบว่า

● มีการเข้าเยี่ยมชมหมวดสินค้าแม่และเด็ก เฉลี่ย 300,000 ครั้งต่อเดือน โดยหมวดย่อยที่ได้รับความสนใจมากที่สุด คือ ของใช้แม่และเด็ก ของเล่นเด็ก และเสื้อผ้าเด็ก

เจาะเทรนด์คุณแม่ยุคของแพง  \"ใช้ซ้ำ-ขายต่อ-ช้อปมือสองออนไลน์\"

● 5 อันดับสุดยอดคำค้นหาสินค้าหมวดแม่และเด็กบน Kaidee ได้แก่ รองเท้าเด็ก รถเข็นเด็ก คาร์ซีท เสื้อผ้าเด็ก และเตียงเด็ก

● เมื่อเปรียบเทียบราคาสินค้ามือสองบน Kaidee กับตลาดสินค้ามือหนึ่ง พบว่าช้อปสินค้าเด็กอ่อนที่ Kaidee ช่วยประหยัดเงินได้ถึง 60% อาทิ คาร์ซีท ถูกกว่าตลาดสินค้ามือหนึ่งสูงสุดถึง 80% คอกกั้นเด็ก ถูกกว่าสูงสุดถึง 65% เครื่องปั๊มนมอัตโนมัติ ถูกกว่าถึง 55% เครื่องนึ่งขวดนม ถูกกว่าถึง 55 % เครื่องนึ่งขวดนม ถูกกว่าถึง 55 % รถเข็นเด็ก ถูกกว่าถึง 50%

● เจาะกลุ่มสินค้าจำเป็นสำหรับเด็กวัยเรียนบน Kaidee พบว่า 5 อันดับ สินค้าที่มีคนค้นหามากที่สุด ได้แก่ รองเท้านักเรียน กระโปรงนักเรียน ชุดนักเรียน กางเกงนักเรียน และกระเป๋านักเรียน

 ● ในเดือนพฤษภาคม เดือนแห่งการเปิดเทอมปีการศึกษาใหม่ มีผู้ใช้งานพิมพ์ค้นหาคำว่า “ชุดนักเรียน” บน Kaidee เพิ่มสูงขึ้นถึง 2 เท่า เมื่อเทียบกับช่วงเดือนอื่นๆ ของปี