โบรก ชี้”ธุรกิจโรงแรม” ครึ่งปีหลัง65 มีอัพไซด์ จ่อปรับกำไรเพิ่ม

โบรก ชี้”ธุรกิจโรงแรม” ครึ่งปีหลัง65 มีอัพไซด์ จ่อปรับกำไรเพิ่ม

“บล.ทิสโก้” เผยอยู่ระหว่างปรับกำไรกลุ่มโรงแรมปี 65 เพิ่มขึ้นไม่เกิน 10% จากครึ่งปีหลัง เหตุท่องเที่ยวฟื้น รับเปิดประเทศ-โควิดคลี่คลาย  “บล.กสิกรไทย” ชี้ภาพรวมเป็นบวกแนวโน้มกำไรปีนี้มีอัพไซด์ดีกว่าเดิม “เซ็นเทล” มั่นใจรายได้ปีนี้โตเกินเป้า 1.8 หมื่นล้าน 

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์  บล.ทิสโก้ เปิดเผยว่า สำหรับหุ้นกลุ่มธุรกิจโรงแรม ขณะนี้นักวิเคราะห์อยู่ระหว่างการปรับเพิ่มคาดการณ์กำไรปีนี้ ไม่เกินระดับ 10% หลังประกาศผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2565 และครึ่งปีแรกที่ประกาศออกมาดีกว่าคาดและผู้ประกอบการคาดการณ์รายได้ปีนี้มีโอกาสเติบโตมากกว่าเป้าหมายที่วางไว้ 

โดยสัญญาณบวกต่อกำไรครึ่งปีหลังจากการท่องเที่ยวที่เร่งตัวขึ้น และจะดีขึ้นชัดเจนต่อเนื่องปีหน้า ทั้งสถานการณ์โควิดคลี่คลายเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ เริ่มกลับเข้ามาเกิน 1 ล้านคน ในเดือนก.ค.ที่ผ่านมา และยังมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศจากภาครัฐในช่วงปลายปี

โบรก ชี้”ธุรกิจโรงแรม” ครึ่งปีหลัง65 มีอัพไซด์ จ่อปรับกำไรเพิ่ม   

 

 อย่างไรก็ตาม ปัจจัยเสี่ยงภาวะสงครามมีผลต่อเงินเฟ้อที่สูงขึ้นมา ส่งผลต่อการปรับขึ้นค่าแรงในช่วงครึ่งปีหลังยังเป็นแรงกดดันกำไรอยู่บ้าง แต่เชื่อว่าผู้ประกอบการมีแผนรองรับและคุมต้นทุนได้ดีอยู่

นายกรรณ์  หทัยศรัทธา นักกลยุทธ์การลงทุน บล.กสิกรไทย กล่าวว่า จากภาพรวมจำนวนนักท่องเที่เพิ่มขึ้น รวมถึงรายได้เฉลี่ยต่อห้องพัก และมีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยทั้งปีที่มีแนวโน้มที่ดีขึ้นในไตรมาส 2 ปีนี้และต่อเนื่องครึ่งปีหลัง ของธุรกิจโรงแรม นอกจากนี้ยังพบว่าแรงกดดันของต้นทุนวัตถุดับต่อธุรกิจโรงแรมและร้านอาหารที่ลดลงด้วย ทำให้เห็นอัพไซด์เพิ่มขึ้นต่อประมาณการณ์กำไรกลุ่มธุรกิจโรงแรมในปีนี้อยู่ระหว่างทบทวน  

นายกันย์ ศรีสมพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่การเงิน บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) หรือ CENTEL เปิดเผยว่า แนวโน้มการดำเนินธุรกิจครึ่งปีหลัง 2565 มั่นใจยังเติบโตต่อเนื่องจากครึ่งปีแรก หลังเปิดประเทศ จำนวนนักท่องท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ  โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อังกฤษ , เยอรมนี, รัสเซีย และ ตะวันออกกลาง รวมถึงการระบาดของโควิดเริ่มดีขึ้น และเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นการท่องเที่ยวคาดธุรกิจโรงแรมดีกว่าเป้าหมาย โดยช่วงที่ผ่านมาโรงแรมเติบโตได้ดีทั้งในพื้นที่ กรุงเทพฯ  หัวหิน ภูเก็ต พัทยา สมุย 

ด้านธุรกิจร้านอาหารแนวโน้มยอดขายครึ่งปีหลังยังเติบโตไตรมาสต่อไตรมาส และสามารถประคองกำไรไว้ได้ ภายใต้ภาวะเงินเฟ้อสูงจากปัญหาสงครามที่เกิดขึ้น โดยร้านอาหารได้มีการปรับเพิ่มราคา บางเมนู ปรับเปลี่ยนโปรโมชั่นและเมนูใหม่ๆให้สอดคล้องกับความต้องการและยังคุ้มค่า ควบคุมต้นทุนรองรับกับราคาวัตถุดิบที่เพิ่มขึ้นมีผลกระทบบ้าง แต่สามารถรองรับได้

ดังนั้นจึงมั่นใจว่า แนวโน้มรายได้รวมปีนี้ของบริษัท คาดว่า จะเกินเป้าหมายที่วางไว้ 18,000 ล้านบาท  เป็นรายได้ธุรกิจโรงแรม (รวมโรงแรมที่ดูไบ ) ที่5,900 ล้านบาทและรายได้ธุรกิจอาหาร ที่ 12,000 ล้านบาท 

พร้อมกันนี้ ได้ปรับประมาณการ ธุรกิจโรงแรมปีนี้ดีขึ้น มีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยทั้งปี (รวมโรงแรมที่ดูไบ) อยู่ที่ 45-50% เพิ่มขึ้นจากเดิม 40-50% และรายได้เฉลี่ยต่อห้องพักอยู่ที่ 1,900-2,200บาท เพิ่มขึ้นจากเดิม 1,790-1,900 บาท

นายกันย์ กล่าวว่า ยังเดินหน้าลงทุนต่อเนื่องรองรับการเติบโตโรงแรมและอาหาร วางงบลงทุนช่วง 3 ปี (ปี65-67) ไว้ราว 12,000 ล้านบาท ส่วนปี 2566 จำนวน 3,800 ล้านบาท ใช้ลงทุนธุรกิจโรงแรม 3,000 ล้านบาท เป็นการลงทุนที่โรงแรมมัลดีฟส์ 1,600 ล้านบาท และ ธุรกิจอาหาร 800 ล้านบาท และปี 2567 จำนวน 5,000 ล้านบาท ใช้ลงทุนธุรกิจโรงแรม 4,200 ล้านบาท เป็นการลงทุนมัลดีฟส์ 2,000 ล้านบาท และ ธุรกิจอาหาร 800 ล้านบาท