จับสัญญาณ 5 ตัวเลขกับ ‘กองทุนรวมไทย’ ไตรมาส1/65

ช่วงไตรมาสแรกนี้ถือว่าการลงทุนมีหลายปัจจัยที่ส่งผลในเชิงลบ  ทั้งเงินเฟ้อยังเร่งขึ้นจากราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น ทำให้เฟดเตรียมให้นโยบายการเงินเข้มมากขึ้นทั้งการขึ้นดอกเบี้ยและลดคิวทีเร่งกว่าที่ตลาดคาด

ประกอบกับสถานการณ์สงครามรัสเซีย-ยูเครนที่ยังคงยืดเยื้อ ไม่มีข้อสรุปว่าจะเจรจากันได้เช่นไร ล้วนเป็นปัจจัยลบทำให้ตลาดการลงทุนผันผวนทั้งในไทยและต่างประเทศ 

 

 

ล่าสุด ทางบริษัท มอร์นิ่งสตาร์ รีเสิร์ช (ประเทศไทย) ได้นำข้อมูลบางส่วนของภาพรวมอุตสาหกรรมกองทุนรวมในไตรมาส1 ปี 2565 มาดูกันว่ามีความเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง  

 

AUM อุตสาหกรรมกองทุนรวมไทย 4.1 ล้านล้านบาท

กองทุนรวมไทย (เฉพาะกองทุนเปิด ไม่รวมกองทุนปิด, ETF, REIT, Infrastructure fund) มีมูลค่าทรัพย์สินรวม 4.1 ล้านล้านบาท ทรงตัวจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว แต่ลดลง 4.2% จากสิ้นปี 2564  โดยเป็นการหดตัวลงในทุกประเภทกองทุนยกเว้นกองทุนตราสารตลาดเงิน

 

AUM กองทุนรวมตราสารทุน 1.5 ล้านล้านบาท

กองทุนรวมตราสารทุน มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 1.5 ล้านล้านบาท ลดลง 4.8% จากสิ้นปี2564 แต่ยังเติบโตจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้วราว 4.7% ในไตรมาสแรกนี้มีเงินไหลเข้าสุทธิ 3.7 พันล้านบาท โดยยังกระจุกตัวไปที่กองทุนหุ้นต่างประเทศ ในขณะที่กองทุนหุ้นไทยมีแรงขายจากกองทุน LTF

เงินไหลออกจากกองทุน LTF 1.6 หมื่นล้านบาท

กองทุน LTF มีเงินลงทุนจากปี 2016 ที่ครบกำหนดไถ่ถอนตามเงื่อนไข 7 ปีปฏิทินในปีนี้ โดยในรอบ 3 เดือนที่ผ่านมามีเงินไหลออกสุทธิกองทุน LTF รวม 1.6 หมื่นล้านบาท โดยราวครึ่งหนึ่งเป็นเงินไหลออกในเดือนมกราคม ซึ่งเป็นปกติที่มักจะมีเงินไหลออกมากตั้งแต่เดือนมกราคม และชะลอลงหลังจากนั้น

AUMกองทุนรวมต่างประเทศ 1.1 ล้านล้านบาท

กองทุนรวมต่างประเทศ (ไม่รวม Term Fund) มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 1.1 ล้านล้านบาท ลดลง 8.4% จากสิ้นปี2564  จากทุกประเภทกองทุนมีมูลค่าทรัพย์สินหดตัวลง โดยเกิดจากผลตอบแทนเฉลี่ยกองทุนตราสารทุนที่เป็นกลุ่มหลักส่วนใหญ่ติดลบเช่น Global Equity, China Equity, Global Technology รวมทั้งเม็ดเงินไหลออกสุทธิโดยเฉพาะกลุ่มตราสารหนี้ต่างประเทศ

กองทุนน้ำมัน ผลตอบแทนสูงสุด 27.5%

กลุ่มกองทุนที่มีผลตอบแทนเฉลี่ยสูงสุดในรอบ 3 เดือนที่ผ่านมาคือกลุ่มกองทุนน้ำมันที่ 27.5% โดยในรอบ 1 ปีจะอยู่ที่ 69.8% โดยในรอบไตรมาสแรกถือว่ามีปัจจัยลบต่อการลงทุนค่อนข้างมาก ทำให้กองทุนส่วนใหญ่มีผลตอบแทนเฉลี่ยติดลบ

โดยเฉพาะกองทุนหุ้นต่างประเทศที่ติดลบมากกว่า 10% ในขณะที่กองทุนหุ้นไทยยังสามารถให้ผลตอบแทนเฉลี่ยเป็นบวกได้ โดยในรอบไตรมาสแรกนั้น SET TR อยู่ที่ 3.2%

ในสัปดาห์หลังช่วงเทศกาลสงกรานต์ ทางมอร์นิ่งสตาร์ จะมีการทำรายงานสรุปภาพรวมกองทุนรวมไทยว่าในช่วงที่ผ่านมามูลค่ากองทุนกลุ่มใดหดตัวลงจากสาเหตุใด พร้อมกับภาพเม็ดเงินในกลุ่มกองทุนต่าง ๆ รวมถึงกองทุนที่ลงทุนต่างประเทศไว้มาติดตามกัน