Sideways เก็งกำไร AP TISCO SMD (16 มี.ค. 65)

จะมีโอกาสลงมาทดสอบ 1,628 จุด ไฮไลท์ที่ต้องติดตาม คือ สถานการณ์การสู้รบระหว่างยูเครนและรัสเซีย, ผลการประชุม FOMC ซึ่งจะทราบผลราว 2.00 น. ตามเวลาประเทศไทย

 

กลยุทธ์ลงทุน แนะนำ

      +KTZ Portfolio: Mid-Small Cap แนะนำ BGC M TWPC (แนะนำ ขาย TWPC) / Big Cap แนะนำ GULF CRC AWC BEC TCAP CENTEL BH ADVANC AOT DTAC MINT KTB PLANB BLA (แนะนำ ซื้อ COM7)

      +กลุ่มอิงการเปิดประเทศของไทย: ธนาคาร KBANK SCB BBL พาณิชย์ CPALL CPN CRC OSP ท่องเที่ยว AOT CENTEL ERW BA

      +/-ผลกระทบจากสงครามยูเครน และรัสเซีย: +กลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ต้นน้ำ PTTEP PTT TOP ESSO IRPC BCP (Stock Gain) BANPU CPI TWPC TSTH –กลุ่มได้รับผลกระทบจากต้นทุนราคาและ Supply Disruption BGRIM HANA KCE AH SAT *กลุ่มที่มีผลกระทบจำกัด ADVANC DTAC TRUE BH BDMS KBANK SCB TISCO KKP

      -XD Effect: สัปดาห์นี้ มีผลต่อดัชนีฯ -1.58 จุด นำโดย EGCO SIRI VNG CCET RATCH SANKO INOX LANNA CK

 

ปัจจัยบวก

     Oil Price / ไทย: ราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลง ช่วยให้ตลาดคลายความกังวลเกี่ยวกับ เงินเฟ้อ (เดิมคาดปรับตัวสูงขึ้นแตะ 4% ในช่วง 1H22) ซึ่งหากราคาน้ำมันไม่ปรับตัวสูงขึ้นไปมากกว่านี้ จะทำให้ธปท. ยังสามารถคงอัตราดอกเบี้ยในระดับต่ำ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ

 

 

 

ปัจจัยลบ

      Wait-and-See: นักลงทุนบางส่วนมีแนวโน้มที่จะ Wait and See เพื่อรอคอยผลการประชุม FOMC ซึ่งจะมีออกมาในคืนนี้ ทำให้ตลาดมีโอกาสที่จะแกว่งตัวในกรอบแคบ ด้วยวอลุ่มซื้อขายที่เบาบาง

      Russia-Ukraine: ความตึงเครียดของสงครามเย็นระหว่างสหรัฐฯ และรัสเซียเพิ่มสูงขึ้น หลังจากรัสเซียประกาศคว่ำบาตรประธานาธิบดีโจ ไบเดน เป็นการตอบโต้ ในขณะเดียวกันการสู้รบยังคงมีอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งกรุงเคียฟ เมืองหลวงของยูเครน ประกาศใช้มาตรการเคอร์ฟิวในเมืองเป็นเวลา 35 ชั่วโมง ท่ามกลางการโจมตีอย่างหนักของกองทัพรัสเซีย

 

ประเด็นสำคัญ

      - XD Effect วันนี้มีผลต่อดัชนีฯ -0.10 จุด นำโดย VNG TFG MJLF

      - Opportunity Day วันนี้ TAKUNI NCH ASP FTE BGRIM AH UAC

      - USA ตัวเลขยอดค้าปลีกเดือน ก.พ. โดย Consensus คาดขยายตัว 0.4% MoM

      - USA รายสต็อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ โดย Consensus คาดลดลง -1.3 ล้านบาร์เรล

      - USA การประชุม FOMC คาดว่าจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 0.25%

 

+/-Global Market Summary: วันทำการที่ผ่านมา

- ตลาดหุ้นไทยปิดลบ: ดัชนีฯ เผชิญแรงเทขายกดดันตลอดทั้งวัน ก่อนปิดตลาดที่ 1,644.36 จุด -15.79 จุด วอลุ่มซื้อขาย 8.2 หมื่นล้านบาท นำลบโดยกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์-3.02% กลุ่มพลังงานและสาธารณูปโภค -1.52% กลุ่มขนส่งและ โลจิสติกส์ -1.47% กลุ่มธนาคาร-1.37% หุ้นบวก >4% TPS SAPPE NDR QLT TIPCO GLOCON K COMAN หุ้นลบ >4% TTA PSL EE TPLAS JUTHA GFPT BWG UPA NEWS TRUBB SIRI TRC

 

 

 

+/- ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวก แต่ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบ: DJIA +1.82% S&P500 +2.14% NASDAQ +2.92% นำขึ้นโดยหุ้น 10 จากทั้งหมด 11 กลุ่มอุตสาหกรรม เช่น เทคโนโลยี +3.4% กลุ่มสายการบิน ส่วนหุ้นพลังงานร่วงแรง -3.7% จากการ่วงลงต่อเนื่องของราคาน้ำมันดิบโลก และรายงานดัชนีราคาผู้ผลิตเดือน ก.พ. ที่ขยายตัวน้อยกว่าคาดหมาย ช่วยคลายความกังวลต่อภาวะเงินเฟ้อ ขณะที่หุ้นยุโรปปิดลบ CAC40 -0.23% DAX -0.09% FTSE -0.25% จากแรงเทขายหุ้นกลุ่ม commodity และความกังวลกรณีจำนวนผู้ติดเชื้อ COVID-19 ในจีน จนต้องมีการล็อกดาวน์เซินเจิ้น จะกระทบต่ออุปสงค์นำเข้าสินค้าจากจีน

- ราคาน้ำมันและทองคำดิ่งแรงต่อเนื่อง: WTI -USD6.57 ปิดที่ USD96.44/บาร์เรล Brent -USD6.99 ปิดที่ USD99.91/บาร์เรล เพราะกังวลต่ออุปสงค์พลังงานโลกลดลง หลังจีนประกาศล็อกดาวน์เซินเจิ้น และการคาดหวังในเชิงบวกต่อการเจรจา เพื่อหยุดยิงระหว่างรัสเซียและยูเครน ส่วนราคาทองคำดิ่งแรงต่อเนื่องเป็นวันที่สาม -USD31.10 ปิดที่ USD1,929.70/ออนซ์ จากแรงขายสินทรัพย์ปลอดภัย เพราะคาดว่าการเจรจารัสเซียและยูเครนจะมีความคืบหน้า

 

ประเด็นสำคัญ

- USA: เฟด สาขานิวยอร์ก เปิดเผยดัชนีภาคการผลิต (Empire State Index) ปรับตัวลงในเดือน มี.ค. ทั้งนี้ เฟด สาขานิวยอร์ก รายงานว่า ดัชนีภาคการผลิตร่วงลง 15 จุด สู่ระดับ -11.8 ในเดือน มี.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือน พ.ค. 2020 และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ +9.0 โดยได้รับผลกระทบจากปรับตัวลงของคำสั่งซื้อใหม่ ขณะที่การจ้างงานเพิ่มขึ้น และภาคธุรกิจมีความเชื่อมั่นมากขึ้นในช่วง 6 เดือนข้างหน้า

- Ukraine: นายกเทศมนตรีกรุงเคียฟ เมืองหลวงของยูเครน ประกาศใช้มาตรการเคอร์ฟิวในเมืองเป็นเวลา 35 ชั่วโมง ท่ามกลางการโจมตีอย่างหนักของกองทัพรัสเซีย คำสั่งเคอร์ฟิวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เวลา 20.00 น.ของวันอังคารที่ 15 มี.ค. 2022 ตามเวลาท้องถิ่น จนถึงเวลา 07.00 น. ของวันพฤหัสบดี โดยประชาชนไม่สามารถออกนอกเคหสถาน หากไม่ได้รับอนุญาต ทั้งนี้ รถถังรัสเซียได้ยิงโจมตีอะพาร์ตเมนต์หลายแห่งในกรุงเคียฟ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย

- China: นักวิเคราะห์ของมอร์แกน สแตนลีย์ ปรับลดคาดการณ์ GDP จีน ในไตรมาสแรกปีนี้ลงเหลือ 0% และคาดว่าจีนจะพลาดเป้าหมายการขยายตัวของเศรษฐกิจในปีนี้ด้วย เนื่องจากเชื่อว่าเศรษฐกิจจีนจะได้รับผลกระทบอย่างหนัก จากการใช้มาตรการที่เข้มงวด เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของ COVID-19

+ USA: ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือน ก.พ. ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้ผลิตเพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาด +0.8% MoM (Vs คาด +0.9% MoM และเดือน ม.ค. +1.2% MoM) และ +10% YoY เท่ากับเดือน ม.ค. และเท่ากับคาดการณ์ ส่วน Core PPI ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 0.2% MoM ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.6% หลังจากดีดตัวขึ้น 0.8% ในเดือน ม.ค.

 

กลยุทธ์การลงทุน แนะนำ Trading Buy (โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%)

หุ้นแนะนำรายสัปดาห์: KBANK BLA OSP

หุ้นแนะนำเก็งกำไร: AP TISCO SMD

Derivatives: แนะ Wait & see (ติดตามรายละเอียดเพิ่มใน KTZ-D Report)