พาณิชย์ เลิกมาตรการ 3:1 เปิดทางนำเข้าข้าวสาลี โยนเกษตรหาทางใช้ปุ๋ยราคาถูก

พาณิชย์ เลิกมาตรการ 3:1 เปิดทางนำเข้าข้าวสาลี โยนเกษตรหาทางใช้ปุ๋ยราคาถูก

กระทรวงพาณิชย์ ยอมเลิกมาตรการ 3 ต่อ1 ชั่วคราว เปิดนำเข้าข้าวสาลีได้ไม่เกิน 31 ก.ค.นี้ในปริมาณที่กำหนด พร้อม เร่งกำหนดราคาปุ๋ยตามต้นทุนที่เพิ่มขึ้น โยนกระทรวงเกษตร หาช่องทางใช้ปุ๋ยราคาถูก

นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์  สมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทย  ตัวแทนเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ ไก่เนื้อ สุกร และไก่ไข่  และตัวแทนเกษตรกรด้านการเพาะปลูก   โดยได้หารือสถานการณ์ ปุ๋ยเคมี วัตถุดิบอาหารสัตว์ และผลไม้  ทั้งนี้ในส่วนของปัญหาวัตถุดิบอาหารสัตว์มีราคาแพง ซึ่งสืบเนื่องมาจากสงคราม รัสเซีย-ยูเครน ทำให้ไม่สามารถนำเข้าข้าวสาลี จากยูเครนได้ ในขณะที่ราคาข้าวโพดปรับตัวสูงขึ้น 12-13 บาท 

ดังนั้น ที่ประชุมจึงเห็นชอบให้ยกเลิกใช้มาตรการ 3 ต่อ1  หรือมาตรการซื้อข้าวโพดในประเทศ 3 ส่วนต่อการนำเข้าข้าวสาลี 1 ส่วน  เป็นการชั่วคราว เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการนำเข้าข้าวสาลีได้อย่างเสรี ภายใต้เงื่อนไข ต้องนำเข้าได้ถึงวันที่ 31 ก.ค. 65 เท่านั้น ซึ่งเป็นช่วงที่ไทยไม่มีผลผลิตข้าวโพด และจะไม่กระทบกับเกษตรกร และ ต้องนำเข้าในปริมาณที่กำหนด เท่านั้นโดยกรมการค้าภายในจะเร่งหารือเพื่อกำหนดวันเริ่มนำเข้า และปริมาณที่เหมาะสมต่อไป

“ มาตรา3 ต่อ1นั้น นำมาใช้เพราะราคาข้าวโพดในขณะนั้น อยู่ที่ กิโลกรัมละ 3 บาท  แต่ปัจจุบันราคาปรับเพิ่มขึ้นสูงมาก จึงให้ยกเลิกมาตรานี้เป็นการชั่วคราว อย่างไรก็ตามราคาข้าวสาลีขณะนี้ปรับเพิ่มขึ้นเช่นกันบางช่วงราคาสูงกว่าข้าวโพดในประเทศ  แต่ ผู้ประกอบการจำเป็นต้องนำเข้าเพราสต็อกวัตถุดิบขณะนี้ จะเพียงพอเพื่อผลิตอาหารสัตว์เพียงไม่กี่เดือนเท่านั้น  “   

สำหรับข้อเสนอของผู้ประกอบการอาหารสัตว์กรณีเรียกร้องให้ลดภาษีนำเข้ากากถั่วเหลือ 2 % ไม่ได้หยิบยกมาหารือ

ด้าน ปุ๋ยเคมี ซื้อราคาแม่ปุ๋ยนำเข้าปรับเพิ่มขึ้น ทำให้ราคาปุ๋ยขายปลีกในประเทศต้องปรับเพิ่มตาม โดยจะส่งผลกระทบกับเกษตรกรโดยตรง  อีกทั้งจากการดูสถิติการนำเข้าแม่ปุ๋ยในช่วงที่ผ่านมาพบว่า ลดลงอย่างมีนัยยะ คาดว่าเป็นผลมาจากราคาแพง จึงน่าเป็นห่วงว่าจะเกิดการขาดแคลน  ดังนั้นกระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงเกษตรฯ จะหาช่องทางให้เกษตรกรเข้าถึงปุ๋ยเคมีราคาถูกตามต้นทุนที่เพิ่มขึ้นต่อไป

โดยกระทรวงเกษตรจะเร่งผลิตปุ๋ยอินทรีย์ชีวภาพมาทดแทนได้บงส่วนซึ่งปัจจุบันพบว่าเกษตรกรกว่า50 % หันมานิยมมากขึ้น ถือว่าเป็นแนวโน้มที่ดี 

 

นายทองเปลว กองจันทร์ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์  กล่าวว่า  กรณีปุ๋ยนั้นกรมส่งเสริมการเกษตรจะ ทำหน้าที่ประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกรใช้ปุ๋ยอย่างถูกต้อง โดยใช้ให้เหมาะสม กับช่วงเวลา ให้ตรงสูตร และใช้ให้ถูกวิธี   ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนการผลิตได้

สำหรับปุ๋ยอินทรีย์และ ชีวภาพ ในปี 65 จะผลิตได้ รวม 32 ล้านตัน  แต้จะขยายให้เป็นสหกรณ์และวิสากิจชุมชน เข้ามาช่วยผลิตให้ได้  5 ล้านตัน  

นายพรศิลป์  พัชรินทร์ตนะกุล นายกสมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทย กล่าวว่าการยกเลิกมาตรการ 3 ต่อ1 เป็นโอกาสที่จะนำเข้าข้าวสาลีได้ แต่ต้องเร่งเปิดให้นำเข้าโดยเร็ว เพราะต้องหาตลาด เมื่อซื้อจากยูเครนไม่ได้ ก็ต้องหันไป ซื้อจาเยอรมันนี อาเจนตินา เป็นต้น  ที่ยังพอจะมีอยู่ ส่วนราคาที่เพิ่มขึ้น อาจต้องปรับราคาอาหารสัตว์ขึ้นตามไปด้วยในเรื่องนี้ต้องหารือกับกระทรวงพาณิชย์ต่อไป

 เป็นหลายเดือน ก็จะเป็นโอกาส ก็ต้องใช้ ไม่กระทบเกษตรกร แต่ เราจะหาอย่างไร มัน  คุยเรื่อง ต้องหากันช่องทาง เมื่อเป็นอาหารสัตว์แล้ว ต้องคุยกันอีก เรามีโอกาสเจรจา เราก็ซื้อจากประเทศที่พอหาได้ เยอรมัน อาเจน ก็ไมต้องมากก็ได้เป็นโอกาส