LH - ผู้นำตลาดโครงการแนวราบ (28 กุมภาพันธ์ 2565)

LH - ผู้นำตลาดโครงการแนวราบ (28 กุมภาพันธ์ 2565)

LH ถือเป็นหนึ่งในผู้ประกอบการที่แข็งแกร่งที่สุดในตลาดหากพิจารณาช่วงโควิดสองปีที่ผ่านมาเนื่องจากอุปสงค์ของโครงการแนวราบขยายตัวได้ดีและมีแนวโน้มจะต่อเนื่องในปีนี้

เราคาดกำไร LH เติบโตสูงราว 30% หนุนทั้งจากรายได้ยอดโอน กำไรจากบริษัทลูกฟื้น และกำไรจากการขายตึกในสหรัฐฯ เราคงคำแนะนำ ซื้อ LH TP 11.2 บาท

 

ยอดจองและยอดโอนแข็งแกร่งแม้มีโควิด

แม้แผนการเปิดโครงการใหม่ได้รับผลกระทบจากการปิดแคมป์คนงานและการล็อคดาวน์เมือง แต่ LH เป็นผู้ประกอบการเพียงไม่กี่รายในตลาดที่สามารถสร้างยอดจองและยอดโอนเติบโตได้แข็งแกร่งตลอดสองปีที่ผ่านมา โดยบริษัททำยอดจองได้ 2.53 หมื่นลบ. ใน 2019 เพิ่มเป็น 2.66 หมื่นลบ. ใน 2020 และ 2.86 หมื่นลบ. ใน 2021 หรือ ปรับตัวขึ้นเฉลี่ย 6% ต่อปี ขณะที่ LH มียอดโอนเพิ่มขึ้นจาก 2.51 หมื่นลบ. ใน 2019 เป็น 2.75 หมื่นลบ. ใน 2020 และ 3.05 หมื่นลบ. ใน 2021 เพิ่มขึ้นราว 10% ต่อปีแม้มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด

 

 

 

แผนการเปิดโครงการใหม่เพิ่มขึ้นจากแวดล้อมตลาดที่ฟื้นตัว

จากแวดล้อมทางเศรษฐกิจที่ดีขึ้นและสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด 19 ที่ไม่รุนแรงเท่าระลอกแรกๆ บริษัทวางแผนเตรียมจะเปิดตัวโครงการใหม่ 15 โครงการ มูลค่ารวม 3.0 หมื่นลบ. (+50% yoy) ในปีนี้ โดยยังคงเน้นหนักไปที่โครงการแนวราบซึ่งได้ประโยชน์จากพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปหลังการแพร่ระบาดของโควิด อย่างไรก็ตามด้านราคาของโครงการที่จะเปิดตัวใหม่ในปีนี้จะเปลี่ยนกลยุทธ์ไปยังกลุ่มราคาที่สูงมากขึ้น โดยบริษัทตั้งเป้ายอดจองและยอดโอนในปี FY22 ที่ 3.1หมื่นลบ. (+8% yoy) และ 3.3 หมื่นลบ. (+8% yoy)

 

แนวโน้มกำไรเติบโตแข็งแกร่งในปี 2022

เรามีมุมมองเชิงบวกต่อ LH และประเมินบริษัทจะมีผลประกอบการเติบโตในอัตราที่สูงราว 30% ในปี 2022 หนุนจากรายได้ยอดโอนที่แข็งแกร่ง กำไรจากบริษัทลูกฟื้นและกำไรจากการขายตึกอพาร์ทเม้นท์ในสหรัฐฯ ทั้งนี้ LH ไม่มีได้มีการบันทึกกำไรจากการขายสินทรัพย์หรือตึกในต่างประเทศในช่วงปี 2021 แต่เราคาดว่า LH จะขายตึก “Parc” ที่เข้าซื้อตั้งแต่ 2015 มูลค่า US$100m ในปีนี้ คาดการขายจะแล้วเสร็จใน 2Q22 โดยประเมินกำไรจาการขายราว 1 พันลบ. จากแนวโน้มกำไรแข็งแกร่งและปันผลประมาณ 6-7% เราคงคำแนะนำ ซื้อ LH ที่ TP 11.2 บาท SOTP