‘เอกนิติ’อธิบดีสรรพากร ปลื้มเก็บภาษี 4 เดือนแรกปี 65 เกินเป้า 7 หมื่นล้าน
อธิบดีกรมสรรพากร เร่งเดินหน้าทรานฟอร์มองค์กรต่อเนื่อง หนุน 2.2 หมื่นคน เข้าสู่โลกดิจิทัล ช่วยยกระดับประสิทธิภาพการเก็บภาษีตามเป้า ตรงกลุ่มเป้าหมาย ชี้การเก็บภาษี 4 เดือนแรกเกินเป้า 7 หมื่นล้านบาท โต 16% จากปีก่อน ผลจากดิจิทัลทรานฟอร์มองค์กรในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา
นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาส อธิบดีกรมสรรพากร บรรยายพิเศษในหลักสูตร Digital Tranformation For CEO#3 ที่จัดโดย หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ และกรุงเทพธุรกิจ กล่าวว่า ภายใต้เทคโนโลยีปัจจุบัน ที่เปลี่ยนไปสู่ดิจิทัลมากขึ้น กรมสรรพากรเองจำเป็นต้องรับตัว เพื่อสอดรับกับโลกใหม่มากขึ้น
โจทย์ใหญ่คือ การปรับเปลี่ยนองค์กร และปรับเปลี่ยนบุคลากร 2.2 หมื่นคน ของกรมสรรพากรให้เข้าสู่ดิจิทัล สอดรับกับโลกใหม่มากขึ้น เพื่อยกระดับองค์กรไปสู่ประสิทธิภาพมากขึ้น
แต่การมีเป้าหมาย เพื่อให้เก็บภาษีเป็นไปตามเป้า ก็ไม่ได้เป็นเป้าด้านเดียว แต่การเก็บภาษีต้องทำให้ตรงกลุ่มเป้าหมายด้วย และแยกระหว่างกลุ่มที่ดี มีการจ่ายภาษี และกลุ่มที่เสี่ยง ที่ต้องทำอย่างไรให้มีการแยกกลุ่มเหล่านี้ชัดเจน
ทั้งนี้ การที่จะทำให้กรมสรรพากร เก็บภาษีได้ตามเป้าหมาย เก็บได้ตรงกลุ่ม มีข้อมูลเพียงที่จะแยกกลุ่มต่างๆ ได้นั้น จะเกิดขึ้นไม่ได้เลย หากกรมสรรพากรไม่มีการทำ Digital Transformation องค์กร
ซึ่งที่ผ่านมา กรมสรรพากร เดินหน้าทรานฟอร์มองค์กรต่อเนื่องในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ทำให้ปัจจุบัน ประสิทธิภาพการจัดเก็บภาษีของกรมสรรพากรดีขึ้นต่อเนื่อง เห็นได้ชัดเจน ใน 4 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2565 (ต.ค.-ม.ค.65) ที่ผ่านมา กรมสรรพากรสามารถจัดเก็บรายได้สูงกว่าช่วงเดียวกันปีงบประมาณก่อนถึง 16% หรือกว่า 7.8 หมื่นล้านบาท
ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายตามเอกสารงบประมาณที่ 14.3% หลักๆ เป็นผลมาจาก การทำ Digital Transformation องค์กร
“ตั้งแต่เกิดโควิด-19 เราสามารถออกมาตรการ Tax From Home หรือการยื่นภาษีออนไลน์ได้ทันที เพราะสิ่งเหล่านี้มาจากการทรานฟอร์มองค์กรมาก่อนหน้าแล้ว ทำวันนี้ประชาชน และภาคธุรกิจสามารถยื่นภาษีได้ผ่านดิจิทัลง่ายขึ้น ทำให้ล่าสุด การยื่นภาษีของบุคคลธรรมดาบนอินเทอร์เน็ตกว่า 85% ยื่น VAT เพิ่มขึ้น 74% และขอคืนภาษีผ่านพร้อมเพย์เพิ่มขึ้นกว่า 90%”
พิสูจน์อักษร โดย....สุรีย์ ศิลาวงษ์
