CBG - 4Q21F ฟื้นตัวเล็กน้อย (28 มกราคม 2565)

คาด 1H22 กำไรยังคงได้รับแรงกดดันจากราคาอลูมิเนียมที่กลับมาสูงขึ้นมากในเดือน ม.ค. (+11%mom) ส่งผลให้กำไรสุทธิเติบโตแบบค่อยเป็นค่อยไป และคาดว่าจะกลับมาเติบโตได้ดีในช่วงครึ่งปีหลัง คงคำแนะนำ ถือ จากราคาอลูมิเนียมที่ปรับตัวสูงขึ้น

 

คาดกำไรสุทธิ 4Q21F เติบโต qoq หนุนจากยอดขายในประเทศ

คาดกำไรสุทธิ 4Q21F ที่ 610 ลบ. (-30%yoy, +1.5%qoq) ลดลง yoy จากราคาอลูมิเนียมที่สูงขึ้น yoy ที่ 2,754 USD/ton (+44% จาก 1,917 USD/ton ใน 4Q20) แต่กำไรฟื้นตัวเล็กน้อย qoq จากยอดขายที่ฟื้นตัวจากการเปิดเมืองทั้งในและต่างประเทศ โดยเราคาดยอดขายในประเทศฟื้นตัวได้ดี qoq หนุนจากยอดขาย energy drink ที่เพิ่มขึ้น 10%qoq และยอดขายในส่วนรับจ้างจัดจำหน่ายโดยเฉพาะสินค้าแอลกอฮอล์ ที่คาดเพิ่มขึ้น 20%qoq อย่างไรก็ตามยอดขายในต่างประเทศยังทรงตัว คาดเติบโต 2%qoq จากยอดขายในพม่าฟื้นตัวดีขึ้น แต่ในกัมพูชายอดขายยังไม่กลับมาฟื้นตัว เนื่องจาก ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมใน 4Q21 รวมทั้งยอดขายในจีนที่ยังเป็น low season  เราคาด GPM ใน 4Q21F ที่ 33.7% ลดลงจาก 34.1% ใน 3Q21 และ 39.3% ใน 4Q20 เนื่องจาก ต้นทุนราคาอลูมิเนียมที่สูงขึ้น และสัดส่วนรายได้จากรับจ้างจัดจำหน่ายที่มีมาร์จิ้นต่ำปรับตัวเพิ่มขึ้น CBG จะประกาศผลประกอบการวันที่ 18 ก.พ.

 

ราคาอลูมิเนียมยังเป็นตัวกดดันกำไรใน 1H22

ราคาอลูมิเนียมเพิ่มสูงขึ้นในเดือน ม.ค. มาอยู่ที่ 3,100 USD/ton (+11%mom) โดยคาดว่าราคาอลูมิเนียมจะยังคงอยู่ในระดับสูงต่อเนื่องใน 1H22 เนื่องจาก การผลิตอลูมิเนียมในจีนถูกกระทบจากราคาถ่านหินที่สูงขึ้น รวมทั้งอินโดนีเซียงดการส่งออกถ่านหินมาที่จีนในเดือน ม.ค. โดยการเพิ่มขึ้นของอลูมิเนียมทุก 100 USD/ton จะกระทบกับ GPM ประมาณ 30 bps ซึ่งบริษัทมีแผนลดผลกระทบโดยการปรับลดส่วนลดกับตัวแทนจำหน่าย จึงคาดกำไรสุทธิใน 1H22 จะฟื้นตัวแบบค่อยเป็นค่อยไป

 

คงคำแนะนำ ถือ จากราคาอลูมิเนียมที่ปรับตัวขึ้นกดดันกำไรสุทธิ

เรามีโอกาสปรับประมาณการกำไรสุทธิปี FY22F ลง จากราคาอลูมิเนียมที่ปรับตัวสูงขึ้นกว่าที่เราคาดการณ์ไว้ ซึ่งส่งผลให้ราคาเป้าหมายปรับลงจากเดิม 15-19% ตามราคาอลูมิเนียมที่เพิ่มสูงขึ้น (รูปที่ 2) จึงคงคำแนะนำ ถือ