เปิด"ซีบอม"แบรนด์เฟอร์นิเจอร์ระดับโลกในไทยเจาะลูกค้าซูเปอร์ลักชัวรี

นายสรวิศ เอี่ยมธนปกรณ์ Head of business development และ Co-founder บริษัท ราลฟ์ อาคิเทคเจอร์แอนด์อินทีเรียดีไซน์ จำกัด เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ โควิด-19 ทำให้หลายอุตสาหกรรมในประเทศไทยและในภาพรวมของธุรกิจโลกชะลอตัว แต่ในทางกลับกันอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้านมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นสวนกระแสกับสถานการณ์โควิดที่กำลังระบาดอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ บริษัทได้เปิดตัวแบรนด์เฟอร์นิเจอร์ระดับโลก ซีบอม (ZBOM) เพื่อเสริมความแข็งแกร่งพอร์ตธุรกิจ ตอกย้ำการเป็นผู้นำด้านบริการตกแต่งภายในและงานสถาปนิกแบบครบวงจรในประเทศไทย

 

"ซีบอม" นับเป็นแบรนด์เฟอร์นิเจอร์ระดับไฮเอนด์ ก่อตั้งในปี 1998 เป็นผู้บุกเบิกอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์โดยใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย จึงทำให้แบรนด์ "ซีบอม"  เป็นที่ยอมรับในระดับโลกและก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำตลาดได้อย่างรวดเร็ว โดยมีผลิตภัณฑ์จากทางแบรนด์ที่ได้รับการเลือกใช้และให้บริการในโรงแรมระดับ 5 ดาว ชั้นนำมากมาย อาทิเช่น The Ritz-Calton

ปัจจุบัน "ซีบอม" มีสาขามากกว่า 3,000 แห่งทั่วโลกทั้งในอเมริกา ยุโรป ออสเตรเลีย และเอเชีย  เป็นหนึ่งในศูนย์การผลิตเฟอร์นิเจอร์ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย มีกำลังการผลิตชุดครัว 6 ล้านชุดต่อปี ได้รับการจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้ในปี 2017

สำหรับ คำว่า "BOM" ในภาษาโปรตุเกสมีความหมายถึง คุณภาพสูง

"ZBOM" ในภาษาจีน มีความหมายถึง ความปรารถนาอันสูงส่ง

ตรงกับปณิธานของเราที่มีความปรารถนาอันยิ่งใหญ่ ให้ทุกครัวเรือนได้ใช้งานผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูง สวยงาม ทันสมัย และเป็นมิตรต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม

 

โดยกลยุทธ์ทางการตลาดของ "ซีบอม" ที่นำมาใช้ในปีนี้จะเน้นไปที่ "ชุดครัว" และ "ตู้เสื้อผ้า" ระดับไฮเอนด์  เจาะกลุ่มลูกค้าซูเปอร์ลักชัวรี (Super Luxury) ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าเดิมของทางบริษัท

โดยตัวผลิตภัณฑ์จะนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้ามาผสมกับแนวคิด "Turning imaginations of homes into reality" บ้านในฝันที่เป็นจริง นอกจากนี้ยังใช้วัสดุและกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยมาตรฐานการผลิต "ซีบอม" มีการปล่อยค่าฟอร์มัลดีไฮด์ "E0" ซึ่งเป็นมาตรฐานขั้นสูงสุดในการทำเฟอร์นิเจอร์ระดับโลก ทำให้ไม่เกิดสารก่อมะเร็งและระบบทางเดินหายใจ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและทุกคนในบ้าน

นอกจากนี้ แผนการดำเนินงานภายในปี 2565 บริษัท ราลฟ์ อาคิเทคเจอร์แอนด์อินทีเรียดีไซน์ จำกัด มีแผนจะเปิดแฟลกชิพสโตร์แห่งแรกและใหญ่ที่สุดใน South East Asia เพื่อตอบรับกำลังซื้อของกลุ่มเป้าหมายอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ในประเทศไทย

พร้อมคาดการว่าจะสามารถสร้างรายได้ 300 ล้านบาทภายในไตรมาส 4 ปี 2565 และเป้าหมายในระยะเวลา 3 ปี จะมีส่วนแบ่งทางการตลาดติด 1 ใน 5 ของอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ในประเทศไทย