Sideways Down เก็งกำไร SKN NCAP GULF (13 ธ.ค. 64)

Sideways Down เก็งกำไร SKN NCAP GULF (13 ธ.ค. 64)

คาดดัชนีฯ Sideways Down แนวต้าน 1628 / 1635 จุด แนวรับ 1610 จุด (EMA 10 วัน) /1602 จุด (EMA 25 Wks) แนะนำเก็งกำไร SKN NCAP GULF

ทางเทคนิค ดัชนีฯ ฟื้นตัวขึ้นมา 2/3 ของกรอบ Fibonanci 1563-1658 จุด และคาดว่าจะอ่อนตัวลงมาทดสอบแนวรับ1610 / 1600 จุด เพื่อปรับขึ้นรอบใหม่ (มิฉะนั้นดัชนีฯ ต้องพุ่งขึ้นไปทดสอบจุดสูงสุดเดิม 1658 จุด ทันทีในสัปดาห์นี้)

ปัจจัยเสี่ยง คือ ผลประชุมธนาคารกลาง ECB FOMC BOE สัปดาห์นี้ อาจส่งสัญญาณสิ้นสุด
การผ่อนคลายทางการเงิน แม้ยังไม่เร่งปรับขึ้นดอกเบี้ยจนกว่ากลางปีหน้า และ Geopolitical Risks ระหว่างสหรัฐฯ กับรัสเซีย สหรัฐฯ กับจีน ขณะที่กลุ่มอิงบริโภคใน
ประเทศคาดว่าจะได้รับผลบวกมากกว่ากลุ่มอิงท่องเที่ยว เพราะการผลิตวัคซีน Pfizer
(Booster) ต้องรอไปจนถึงเดือน มี.ค. ปีหน้า

 

กลยุทธ์ลงทุน แนะนำ

         KTZ Portfolio: Small Cap (COTTO TPIPL); Big Cap (GULF RBF CK TCAP JMTCENTEL ADVANC EA GUNKUL MEGA ผลตอบแทน +5.9%)

       +/-กลุ่มเดินทางท่องเที่ยวและพลังงาน: AOT AAV BA MINT CENTEL ERW PTTEP TOP PTT

       + กลุ่มอิงการบริโภคในประเทศ: กลุ่มบัตรเครดิต KTC AEONTS กลุ่มพาณิชย์ CRC CPN และสินค้าต่าง ๆ SIS SYNEX CPW SPVI COM7

       +กลุ่มเช่าซื้อและจำนำทะเบียนรถ: MTC SAWAD THANI TIDLOR ASK

 

ปัจจัยบวก

 +Omicron: JP Morgan Chase ออกรายงานระบุว่า COVID-19 สายพันธุ์โอมิครอนอาจเป็นโอกาสสำหรับนักลงทุนในการเข้าช้อนซื้อหุ้นกลุ่มเปิดประเทศและกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ หลังพัฒนาการของไวรัสจะมีความรุนแรงน้อยกว่า และลดลงจนคล้ายกับโรคไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลเท่านั้น

+China: ธนาคารกลางจีนลด RRR ต้นสัปดาห์ก่อน ช่วยเพิ่มสภำพคล่อง 1.2 ล้านล้านหยวน เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจ

+ไทย: ม.หอการค้า รายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน พ.ย. สูงสุดรอบ 7 เดือน ที่ 44.9 (Vs เดือน ต.ค. 43.9) จากการเปิดประเทศ หลังฉีดวัคซีนแล้ว 57%

 

 

 

 

ปัจจัยลบ
 

       - Interest Rate Risks: FED มีโอกาสสูงที่จะลดวงเงินซื้อพันธบัตร และ MBS จากปัจจุบัน 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในการประชุม FOMC วันที่ 15 – 16 ธ.ค.

       - Geopolitical Risks: จับตาปัญหาความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ กับรัสเซีย ต่อประเด็นยูเครน (อาจเกิดสงครามเย็น) และสหรัฐฯ กับจีน หลังสภาสหรัฐฯ มีมติแซงก์ชั่นบริษัทที่เกี่ยวข้องกับสิทธิมนุษยชนอุยกูร์ (อาจเกิด Trade War)

       - Omicron: ประเทศไทยพบผู้ติดเชื้อ Omicron เพิ่ม 1 ราย เป็นรายที่ 4 โดยเป็นชายไทย อายุ 41 ปี เดินทางกลับจากประเทศคองโก

 

ประเด็นที่ต้องติดตาม

       - Opportunity Day: SAWAD NSL PR9 AWC PORT DITTO DEMCO

       - ญี่ปุ่น รายงานดัชนี Tankan Large Mfg / Non-Mfg Outlook 4Q คาด (Vs 3Q21 อยู่ที่ 14 และ 3)

        - USA รายงาน Consumer Inflation Expectations เดือน พ.ย. คาด 5.8% (Vs เดือน ต.ค. 5.7%)

        - Saudi รายงาน OPEC Monthly Report

 

+/-Global Market Summary: วันทำการที่ผ่านมา

+/- ตลาดหุ้นไทยปิดลบเล็กน้อย: ตลาดหุ้นไทยเคลื่อนไหวในกรอบ 1612.59-1623.82 จุด ก่อนปิดตลาดที่ 1618.23 จุด -0.13 จุด วอลุ่ม 6.97 หมื่นล้านบาท นำลงโดยกลุ่มสื่อและสิ่งพิมพ์ -0.91% พาณิชย์-0.52% หุ้นปรับขึ้น >4% ได้แก่ JAS THANI U J TIPH PDJ SICT AKP JTS GCAP APP TRC หุ้นปรับลง >4% ได้แก่ LEO UREKA SE ARIN CMO

 

 

 

+/- ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวก แต่ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบ: ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวก นำโดยกลุ่มอุปโภคบริโภค อสังหาริมทรัพย์ สาธารณูปโภค DJIA +0.6% (+216.30 จุด) S&P500 +0.95% NASDAQ +0.73% แม้รายงานเงินเฟ้อเดือน พ.ย. พุ่งขึ้นสูงสุดนับตั้งแต่เดือน มิ.ย. 1982 (เกือบ 40 ปี) +6.8% YoY (Vs คาด 6.7% YoY และเดือน ต.ค. +6.2% YoY) ส่วนตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเป็นวันที่สาม เพราะวิตก Omicron ถ่วงเศรษฐกิจ DAX-0.1% CAC40 -0.24% FTSE -0.4%

+ วันศุกร์ที่ผ่านมา ราคาน้ำมันดิบและทองคำต่างปิดบวก: ตลาดน้ำมันดิบปิดบวก โดย WTI +USD0.73 ปิดที่ USD71.67/บาร์เรล Brent +USD0.73 ปิดที่ USD75.15/บาร์เรล จากแรงซื้อคืน เพราะคลายกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของ Omicron ต่ออุปสงค์น้ำมันโลก หลังแพทย์ใหญ่ Fauci ส่งสัญญาณว่า Omicron ไม่ก่อให้เกิดการเจ็บรุนแรง ส่วนราคาทองคำปิดเพิ่มขึ้น +USD8.10 ปิดที่ USD1,784.80/ออนซ์ จากแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย

 

ประเด็นสำคัญ

+/- Weekly Fund Flow: นักลงทุนต่างชาติ ขายสุทธิต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 4 จำนวน -1,890 ล้านบาท (Vs 3 สัปดาห์ก่อนหน้า -11,428 ล้านบาท, -3,045 ล้านบาท, –1,983 ล้านบาท) ส่วนตลาดอนุพันธ์ กลับมาเปิด Long Set 50 Index Future +28,021 สัญญา หลังจากเปิด Short ต่อเนื่อง 2 สัปดาห์ -13,118 สัญญา และ -49,696 สัญญา ตามลำดับ

- USA: เงินเฟ้อเดือน พ.ย. สูงกว่าคาดการณ์: โดยพุ่งขึ้นสูงสุดนับตั้งแต่เดือน มิ.ย. 1982 (เกือบ 40 ปี) +6.8% YoY (Vs คาด 6.7% YoY และเดือน ต.ค.+6.2% YoY)

 

กลยุทธ์การลงทุน: แนะนำ Trading Buy (โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%)

หุ้นแนะนำรายสัปดาห์: TCAP ADVANC CK

หุ้นแนะนำเก็งกำไร: SKN NCAP GULF

Derivatives: แนะถือ Long S50Z21 รอทำกำไรตามเป้า (ติดตามรายละเอียดเพิ่มใน KTZ-D Report)