อ่อนตัว เก็งกำไร TH SPVI NYT (9 ธันวาคม 2564)

อ่อนตัว เก็งกำไร TH SPVI NYT (9 ธันวาคม 2564)

คาดดัชนีฯ อ่อนตัว แนวต้าน 1625 / 1630 จุด แนวรับ 1610 / 1600 จุด ทางเทคนิคจะเกิดสัญญาณขายทำกำไร หากดัชนีฯ ไม่สามารถยืนเหนือแนวต้าน 1618 จุด (EMA 25 วัน) แนะนำ เก็งกำไร TH SPVI NYT

ส่วนปัจจัยที่ต้องติดตามวันนี้ คือ แรงขายทำกำไรเพื่อลดความเสี่ยงในช่วงหยุดยาว โดยเฉพาะประเด็นรัสเซีย-ยูเครน-สหรัฐฯ ข้อมูลเงินเฟ้อสหรัฐฯ ที่จะรายงานวันศุกร์นี้ อาจกดดันต่อการเร่งคุมเข้มนโยบายการเงินในการประชุมธนาคารกลางต่าง ๆ ในสัปดาห์หน้า ปัจจัยบวก คือ Pfizer ส่งสัญญาณฉีดวัคซีน 3 เข็มมีประสิทธิภาพรักษา COVID-19 สายพันธุ์ Omicron

 

กลยุทธ์ลงทุน แนะนำ

      +กลุ่มอิงการบริโภคในประเทศ: +กลุ่มบัตรเครดิต KTC AEONTS กลุ่มพาณิชย์ CRC CPN และสินค้าต่าง ๆ เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า โทรศัพท์ SIS SYNEX CPW SPVI COM7

      +กลุ่มเช่าซื้อและจำนำทะเบียนรถ: MTC SAWAD THANI TIDLOR ASK

      เก็งกำไรระยะสั้นในหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็ก: โดยเลือกหุ้นที่ปริมาณการซื้อขายสูงขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ หุ้นแนะนำ TH SPVI NYT SMT ECL SABUY CGH

      พอร์ต BIG TACTICAL PICKS และ SMALL TOP PICKS แนะนำวันนี้ พอร์ต BIG TACTICAL PICKS แนะนำ ซื้อ: CENTEL และ KTB พอร์ต SMALL TOP PICKS แนะนำ ซื้อ: AH NYT และ XO ขาย: SMT (ผลตอบแทน YTD: พอร์ต BIG TACTICAL PICKS +17.7% และพอร์ต SMALL TOP PICKS +59.9%)

 

ปัจจัยบวก

     +Omicron: ความคืบหน้าเกี่ยวกับวัคซีน หลังจากไฟเซอร์ เผยประสิทธิภาพของวัคซีนเข็มกระตุ้น ช่วยเพิ่มภูมิต้านทานของแอนติบอดีได้ถึง 25 เท่า

     +Thailand: สคบ.ทำ Public Hearing ร่างสัญญาธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์และรถจักรยานยนต์ ฉบับที่ 2 ซึ่งเอื้อกับธุรกิจเช่าซื้อและสินเชื่อจำนำทะเบียนรถมากขึ้น

 

 

 

ปัจจัยลบ

       -Interest Rate Risks: FED มีโอกาสสูงที่จะลดวงเงินซื้อพันธบัตรและ MBS จากปัจจุบัน 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในการประชุม FOMC วันที่ 15 – 16 ธ.ค.

       -Geopolitical Risks: จับตาปัญหาความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ กับรัสเซีย ต่อประเด็นยูเครน ซึ่งมีความตึงเครียดมากที่สุดนับตั้งแต่สิ้นสุดสงครามเย็น หลังสหรัฐฯ ยังคงไม่ให้คำมั่นที่จะทำตามข้อเรียกร้องรัสเซียในการปฏิเสธการเข้าร่วม NATO ของยูเครน

       Long Weekend: ใกล้เข้าสู่ช่วงวันหยุดยาว ทำให้นักลงทุนบางส่วนมีแนวโน้มขายทำกำไรและ Wait-and-See ส่งผลให้ระยะสั้น Upside ของตลาดมีจำกัด เนื่องจากขาดปริมาณการซื้อขายสนับสนุนที่มากพอ

 

ประเด็นที่ต้องติดตาม

        Opportunity Day: OR RT TWPC BEC AMATA TIPH DREIT

        จีนรายงานตัวเลขเงินเฟ้อเดือน พ.ย. โดย Consensus คาดเพิ่มขึ้นจาก 1.5%YoY เป็น 2.5%

        เยอรมนี รายงานดุลการค้าเดือน ต.ค. โดย Consensus คาดเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 1.8 หมื่นล้านยูโร

        USA รายงานตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานรายสัปดาห์ โดย Consensus คาดปรับลดลงจาก 2.22 แสนราย เป็น 2.15 แสนราย

        UK รายงานตัวเลข GDP เดือน ต.ค. (ประกาศวันศุกร์ที่ 10 ธ.ค.) โดย Consensus คาดว่าจะขยายตัวที่ 4.9% YoY (Vs เดือน ก.ย. ขยายตัว 5.3%)

        USA รายงานตัวเลขเงินเฟ้อเดือน พ.ย. (ประกาศวันศุกร์ที่ 10 ธ.ค.) โดย Consensus คาดว่าปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก 6.2% YoY เป็น 6.8% YoY

 

 

 

 

+/-Global Market Summary: วันทำการที่ผ่านมา
 

+ ตลาดหุ้นไทยปิดบวกต่อเนื่อง: ดัชนีฯ แกว่งตัวในกรอบ 1610.55 - 1620.36 จุด ปิดที่ 1618.36 จุด +9.08 จุด วอลุ่มซื้อขาย 6.9 หมื่นล้านนบาท นำบวกโดยกลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร +2.15% กลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ +1.83% กลุ่มขนส่งและโลจิสติกส์ +0.51% กลุ่มพลังงานและสาธารณูปโภค +0.43% หุ้นบวก >4% IRCP CMO TRV ARIN GSC ATP30 CRD TACC BSM SPVI PJW MGT AKP EFORL ADVANC TIPH หุ้นลบ >4% NEWS STOWER OTO HYDRO

+/- หุ้นสหรัฐฯ ปิดบวกส่วนหุ้นยุโรปปิดลบ: DJIA +0.10% S&P500 +0.31% NASDAQ +0.64% ปิดบวกได้หลังจากความกังวลต่อไวรัส Omicron คลี่คลาย หลังจาก Pfizer และ BioNTech SE เปิดเผยผลการศึกษาวัคซีน COVID-19 โดสที่ 3 มีประสิทธิภาพในการเพิ่มภูมิคุ้มกันถึง 25 เท่า นำขึ้นโดยหุ้นกลุ่มท่องเที่ยวและสายการบิน ส่วนตลาดหุ้นยุโรปกลับมาปิดลบ DAX -0.80% CAC40 -0.72% FTSE -0.04% จากแรงขายหุ้นกลุ่มเทคฯ และกลุ่ม luxury

+ ราคาน้ำมันดิบปิดสูงสุดรอบ 2 สัปดาห์ และทองคำปิดบวกเล็กน้อย: WTI +31 เซนต์ ปิดที่ USD72.36/บาร์เรล Brent +38 เซนต์ ปิดที่ USD75.82/บาร์เรล หลังคลายกังวลต่อไวรัสกลายพันธุ์ Omicron ที่จะส่งผลกระทบต่ออุปสงค์น้ำมันดิบโลกอย่างจำกัด ส่วนราคาทองคำปิดบวกเล็กน้อย +80 เซนต์ ปิดที่ USD1,785.50/ออนซ์ ได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของ USD

 

+/-ประเด็นสำคัญ

+/- Thailand: กกร. คงคาดการณ์เศรษฐกิจในปีนี้จะขยายตัว 0.5-1.5% ขณะที่การส่งออกคาดว่าจะขยายตัวในกรอบ 13-15% ส่วนในปี 2022E คาดเศรษฐกิจขยายตัวได้ในกรอบ 3.0-4.5% สอดคล้องกับเศรษฐกิจโลกที่จะเติบโต 4-5% ขณะที่การส่งออกคาดว่าจะขยายตัวในกรอบ 3-5% จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ส่วนกรอบเงินเฟ้อทั่วไปในปี 2022E คาดว่าจะอยู่ที่ 1.2-2.0%

+ India: ธนาคารกลางอินเดีย (RBI) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยซื้อคืนพันธบัตรที่ 4% และคงอัตราดอกเบี้ย reverse repo ที่ 3.35% ในการประชุมวานนี้ ซึ่งต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ และสอดคล้องกับการคาดการณ์ของตลาด

+ France: ธนาคารกลางฝรั่งเศสปรับเพิ่มคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจในปี 2021 อีกครั้งเป็น 6.7% เทียบกับระดับ 6.3% ที่คาดการณ์เอาไว้ในเดือน ก.ย. และ 5.8% ที่คาดการณ์ไว้ในเดือน มิ.ย. เนื่องจากการแพร่ระบาดของเชื้อ COVID-19 สายพันธุ์โอมิครอน ไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อแนวโน้มทางเศรษฐกิจของประเทศ

กลยุทธ์การลงทุน: แนะนำ Trading Buy (โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%)

หุ้นแนะนำรายสัปดาห์: MEGA WICE RCL

หุ้นแนะนำเก็งกำไร: TH SPVI NYT

Derivatives: แนะถือ Long S50Z21 ที่เปิดไว้ต้นทุน 960 จุด (ติดตามรายละเอียดเพิ่มใน KTZ-D Report)