คิงบริดจ์ ทาวเวอร์ แลนด์มาร์กใหม่พระราม 3 ออฟฟิศแห่งอนาคต

เครือสหพัฒน์เปิด “คิงบริดจ์ ทาวเวอร์” ออฟฟิศเกรดเอแลนด์มาร์กใหม่ย่านพระราม 3 ชู The Spirit of Synergy ผสานงาน–ชีวิต–ความยั่งยืน สู่บทใหม่ของเมืองริมเจ้าพระยา
ย่านพระราม 3 กำลังก้าวสู่ “บทใหม่” ของการพัฒนาเมือง เมื่อ คิงบริดจ์ ทาวเวอร์ (KingBridge Tower) อาคารสำนักงานให้เช่าเกรดเอ วิวแม่น้ำเจ้าพระยา สูงที่สุดในโซนนี้ เปิดตัวอย่างเป็นทางการ ภายใต้โครงการมิกซ์ยูส “Community of Kindness” ของเครือสหพัฒน์ พร้อมประกาศจุดยืนการเป็นแลนด์มาร์กแห่งการทำงานยุคใหม่ ด้วยแนวคิด “The New Chapter of Rama III”
พิธีปฐมฤกษ์มหามงคล การเปิดป้ายอาคาร เจริญพระพุทธมนต์ และประดิษฐานศาลพระภูมิ ไม่เพียงเป็นสัญลักษณ์ของการเริ่มต้นโครงการ แต่ยังสะท้อนความตั้งใจในการยกระดับพื้นที่สำนักงานให้เป็น “พื้นที่แห่งแรงบันดาลใจ” สำหรับผู้คนและธุรกิจในยุคใหม่
มากกว่าออฟฟิศ คือสะพานเชื่อมโอกาส
นายวิชัย กุลสมภพ กรรมการผู้จัดการ บริษัท คิงบริดจ์ ทาวเวอร์ จำกัด และประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สหพัฒนาอินเตอร์โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SPI ระบุว่า คิงบริดจ์ ทาวเวอร์ ถูกออกแบบให้เป็นมากกว่าอาคารสำนักงานทั่วไป แต่ทำหน้าที่เป็น “สะพาน” เชื่อมโยงโอกาสทางธุรกิจ การใช้ชีวิต และภาพลักษณ์องค์กรระดับสากล โดยให้ความสำคัญกับ ความยั่งยืน ฟังก์ชันล้ำสมัย และคุณภาพชีวิตของผู้ใช้งาน
แนวคิดหลักของโครงการคือ The Spirit of Synergy การผสานพลังระหว่าง คน–พื้นที่–แรงบันดาลใจ เพื่อสร้างสมดุลระหว่างประสิทธิภาพการทำงานและความสุขในชีวิตประจำวัน
ออกแบบพื้นที่ทำงานเพื่อคนยุคใหม่
จุดเด่นของคิงบริดจ์ ทาวเวอร์ คือการจัดสรรพื้นที่สีเขียวและพื้นที่ส่วนกลางรวมกว่า 55% ของโครงการ สนับสนุนสุขภาวะการทำงานอย่างแท้จริง ผ่านโซน Spirit of Well-being และ Spirit of Conversation ที่ออกแบบเป็น Open Space พร้อม Common Area ห้องประชุมหลากหลายรูปแบบ และ Co-Working Space รองรับรูปแบบการทำงานที่ยืดหยุ่นประสบการณ์พิเศษยังขยายไปถึงพื้นที่ไฮไลต์ อาทิ
- Sky Garden ชั้น 23 เปิดมุมมองแม่น้ำเจ้าพระยาและสะพานภูมิพลแบบ 360 องศา
- Sky Lounge ชั้น 39 สำหรับรับรองแขกสำคัญ
- ฟู้ดคอร์ท ที่ยกระดับบรรยากาศให้ใกล้เคียงร้านอาหาร พร้อมวิวสะพานภูมิพลอันโดดเด่น
ทั้งหมดนี้สะท้อนการตีความ “ออฟฟิศแห่งอนาคต” ที่ไม่ได้วัดกันแค่ตารางเมตร แต่รวมถึงประสบการณ์และคุณค่าที่มอบให้ผู้ใช้งาน
อาคารเขียวที่วัดผลได้จริง
เบื้องหลังความงามทางสถาปัตยกรรม คิงบริดจ์ ทาวเวอร์ วางโครงสร้างการพัฒนาโดยยึดหลัก Circular Economy และ Decarbonization อย่างเป็นระบบ ผสานเทคโนโลยีขั้นสูง เช่น Aero Dynamic Shape, Digital Twin, BIM และ Modular Design จนเกิดผลลัพธ์ด้านสิ่งแวดล้อมที่จับต้องได้
- อาคารสามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 1,157.8 ตันต่อปี เทียบเท่าการปลูกต้นไม้กว่า 115,000 ต้น
- ลดคาร์บอนแฝงจากการก่อสร้างได้อีก 121.38 ตันต่อปี
- ประหยัดพลังงานมากกว่า 10% จากระบบ Chiller Plant ประสิทธิภาพสูง เทียบเท่าการใช้ไฟฟ้าของบ้านกว่า 150 หลังต่อปี
ตัวเลขเหล่านี้ตอกย้ำบทบาทของคิงบริดจ์ ทาวเวอร์ ในฐานะต้นแบบสำนักงานสีเขียวที่ตอบโจทย์ทั้งธุรกิจและสิ่งแวดล้อม
พื้นที่ทำงานที่เป็นแรงบันดาลใจของเมือง
เพื่อฉลองการเปิดอาคาร คิงบริดจ์ ทาวเวอร์ จัดนิทรรศการ “KingBridge Photo Exhibition” ร่วมกับสมาคมถ่ายภาพแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ระหว่างวันที่ 8 ธ.ค.2568 – 13 ก.พ.2569 เปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าชม
นิทรรศการนำเสนอแนวคิด “The Inspiring Workplace Experience” ถ่ายทอดมิติของแรงบันดาลใจจากพื้นที่จริงของอาคาร ตั้งแต่งานสถาปัตยกรรมเคียงคู่สะพานภูมิพล ความสัมพันธ์ระหว่างอาคาร เมือง และแม่น้ำเจ้าพระยา ไปจนถึงวิถีชีวิตผู้คนและประสบการณ์การทำงานยุคใหม่
บทใหม่ของพระราม 3
การเปิดตัวคิงบริดจ์ ทาวเวอร์ ไม่ได้เป็นเพียงการเพิ่มซัพพลายอาคารสำนักงาน แต่เป็นสัญญาณของการยกระดับย่านพระราม 3 สู่ศูนย์กลางการทำงานคุณภาพสูง ที่ผสานเศรษฐกิจ เมือง และความยั่งยืนเข้าไว้ด้วยกัน
ในวันที่การทำงานไม่ได้จำกัดอยู่แค่ “โต๊ะทำงาน” แต่ต้องการพื้นที่ที่สร้างแรงบันดาลใจ คิงบริดจ์ ทาวเวอร์ กำลังประกาศบทบาทใหม่ของออฟฟิศ…ในฐานะหัวใจของเมืองยุคถัดไป







