จาก “ผู้ตาม” สู่ “ผู้นำ” แกะรอยก้าวต่อไปของ “เฮียฮ้อ” นำทัพพอาร์เอสโต

จาก “ผู้ตาม” สู่ “ผู้นำ” แกะรอยก้าวต่อไปของ “เฮียฮ้อ” นำทัพพอาร์เอสโต

หากย้อน “อาร์เอส” ในอดีตถือเป็นยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมบันเทิง แต่วิถีทางเดินนั้นค่อนข้างเป็น “ผู้ตาม” คู่แข่ง และเส้นทางการสร้างงอาณาจักรนั้นแตกต่างกับอีกค่ายอย่างสิ้นเชิง

พี่น้อง “เชษฐโชติศักดิ์” ร่วมกันก่อร่างสร้างธุรกิจตั้งแต่ปี 2519 ค่อยๆทำให้ธุรกิจเพลงครบวงจรในยุคนั้นเติบโตทีละเล็กทีละน้อย ท่ามกลางการแข่งขันที่ดุดเดือดยุคนั้น ค่ายเพลงฝั่งลาดพร้าว 15 กับค่ายเพลงอโศก ขับเคี่ยวกันดุเดือดทุกฝีก้าว เรียกว่ามีศิลปิน แนวเพลงใดออกมา ต้องเปิดศึกแลกอาวุธกันหมัดต่อหมัด 

ทว่า เมื่อโลกดิจิทัลมาเยือน ธุรกิจเพลงถูกสั่นคลอนจากแพลตฟอร์มใหม่ๆ ทำให้บริษัทต้องปรับตัวเพื่อความอยู่รอด 

วันนี้ “อาร์เอส” ยังคงมีแม่ทัพคนสำคัญอย่าง “เฮียฮ้อ สุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) ที่พลิกหมากรบสร้างความเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นกับบริษัทอย่างมาก 

จาก “ผู้ตาม” ในธุรกิจบันเทิง เพลง วันนี้ “อาร์เอส” ถือว่าก้าวสู่การเป็น “ผู้นำ” ในธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ซึ่งโมเดลสำคัญคือการสร้างอีโคซิสเทมเอื้อต่อ “เอ็นเตอร์เมิร์ซ” โตวันโตคืน หรือใช้สินทรัพย์ รากฐานธุรกิจบันเทิงต่อยอดอาณาจักรไปสู่การค้าขา การแปลงฐานผู้ฟังเพลง ฟังวิทยุ ดูทีวี ฯ ไปเป็น “ลูกค้า” ที่ควักเงินซื้อสินค้าและบริการนั่นเอง 

++ไม่กลัวการเปลี่ยนแปลง กลัวความไม่รู้ 

“เฮียฮ้อ สุรชัย” ถือเป็นผู้บริหารที่อัพเดททิศทางการขับเคลื่อนธุรกิจอยู่เสมอ และในงาน “Battle Strategy : New World, New Value ปฏิวัติการลงทุนสู่โลกใหม่”  เป็นอีกครั้งที่มาบอกเล่าการเดินไปข้างหน้า

จากธุรกิจเพลงครบวงจร ปัจจุบัน “คอมเมิร์ซ” เป็นธุรกิจหลักของอาร์เอสเรียบร้อยแล้ว การมี Big Data จากเสาหลักต่างๆไม่ว่าจะเป็นคนฟังเพลง ดูทีวี คอมเมิร์ซฯ ทำให้เห็น “โอกาส” ทางการตลาดมีมากมายมหาศาลสำหรับสร้างธุรกิจใหม่ๆ อย่างล่าสุด ความรักที่มีต่อ “สุนัข” สัตว์เลี้ยงแสนโปรด การใช้เวลาวันหยุดขลุกตัวอยู่ที่ร้านสินค้าเกี่ยวกับสัตว์(Pet Shop) ทำให้ทราบข้อมูลขนาดตลาดใหญ่ 39,000 ล้านบาท เติบโต 10% ทุกปี 

จาก “ผู้ตาม” สู่ “ผู้นำ” แกะรอยก้าวต่อไปของ “เฮียฮ้อ” นำทัพพอาร์เอสโต Ecosystem อาร์เอส

เป็น “ทาสน้องหมา” มีความรักสัตว์แล้ว ต้องมีหัวคิดธุรกิจ เมื่อผสานกันจึงช่วยต่อจิ๊กซอว์ธุรกิจ เสริมความมั่งคั่งให้อาณาจักร

โอกาสที่มาก มักมาพร้อมความเสี่ยงเสมอ และท่ามกลางโลกที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน พร้อมกระทบธุรกิจ แม่ทัพอาร์เอสกลัวการเปลี่ยนแปลงบ้างไหม “เฮียฮ้อ” ตอบว่า..สิ่งที่กลัวคือ “กลัวความไม่รู้” เพราะการคาดเดาสถานการณ์ต่างๆยากขึ้นเรื่อยๆ มองภาพอนาคตไม่ชัดเจนจะไปทางไหน แต่การเตรียมพร้อมทั้งคน โครงสร้างธุรกิจ กล้าลอง หากล้มลุกคลุกคลายไม่เป็นไร เพราะปรับแก้ไขได้

“เราปรับตัวตลอด ทำงานเร็ว กล้าลองสิ่งใหม่ โลกวันข้างหน้าเปลี่ยนแปลงเร็ว เราใช้โอกาสการเปลี่ยนแปลง ปรับธุรกิจเดิม สร้างธุรกิจใหม่ที่ก้าวต่อไป”   

++ลดรอยต่อ Data ด้วย Popcoin

อาร์เอส มีฐานลูกค้าหลาย “สิบล้านราย” จากธุรกิจเสาหลักต่างๆ แต่ที่ผ่านมาถูกแยกเป็นกลุ่มก้อน การใช้ประโยชน์จึงยังไม่เต็มที่ หนึ่งในก้าวใหม่ของบริษัทคือการลุย  Popcoin สมาร์ท มาร์เก็ตติ้ง แพลตฟอร์ม ดึงเทคโนโลยี Blockchain ช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ธุรกิจทุกส่วน 

 

Popcoin จะเป็นเครื่องมือในการใช้จ่ายในอีโคซิสเทมของธุรกิจ ซึ่งหลังจากเปิดตัวสู่ตลาด ลูกค้า พันธมิตรมีความสนใจอย่างมาก อย่างเอเยนซี่ที่ซื้อสื่อโฆษณา สามารถนำ Popcoin ไปทำแคมเปญกับผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมาย ใช้ Popcoin สร้างประสบการณ์ใหม่ๆให้ลูกค้าในการซื้อสินค้า และนำไปแลก(Redeem)รับสิทธิประโยชน์ต่างๆ 

จาก “ผู้ตาม” สู่ “ผู้นำ” แกะรอยก้าวต่อไปของ “เฮียฮ้อ” นำทัพพอาร์เอสโต

นอกจากนี้ หากผลิตคอนเทนท์ออกมา ทั้งโฆษณา หรือเนื้อหาอื่นๆ หากผู้บริเสพเนื้อหาจนจบจะได้รับ Coin ซึ่งถือเป็นกลยุทธ์ในการดึง “ผู้ชม” ให้อยู่กับแพลตฟอร์ม คอนเทนท์ยาวนานขึ้น และยังเป็นการกำจัด “ตัวกลาง” ออกไป แบรนด์สามารถทำการตลาดเข้าถึงงผู้บริโภคโดยตรง อย่างไรก็ตาม อนาคตบริษัทจะต่อยอดสู่สินทรัพย์ดิจิทัลใหม่ๆ อย่าง NFT(Non-Fungible Token) สำหรับการดูคอนเสิร์ต เป็นต้น  

“2-3 ปีที่ผ่านมา เรายัง Utilize ข้อมูลลูกค้าทั้งหมดไม่ได้สักที เลยลุยสมาร์ท มาร์เก็ตติ้ง แพลตฟอร์ม ทำให้ Big Data ไร้รอยต่อ และสร้างมูลค่าเพิ่มให้ในทุกธุรกิจ โดยPopcoin ถือเป็นหนึ่งในท่าไม้ตายของอาร์เอส” 

++ดูแลธุรกิจเหมือนลูก

อย่างไรก็ตาม เป้าหมาย 3 ปีข้างหน้าของอาร์เอส “เฮียฮ้อ” ย้ำว่ามีความท้าทายมาก เพราะบริษัทมองการเติบโตที่สูงมาก เพื่อสานวิชั่นดังกล่าว ทำให้ที่ผ่านมาบริษัทเข้าการขยายธุรกิขมีทั้งแนวตั้งและแนวนอน แนวตั้งคือการทำให้เอ็นเตอร์เทนเมิร์ซแกร่งกว่าเดิม ส่วนแนวนอน คือการลุยซีนเนอร์ยีกับพันธมิตร และซื้อกิจการมาต่อยอดธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นการซื้อหุ้น บริษัท เชฎฐ์ เอเชีย จำกัด ซึ่งทำธุรกิจบริหารสินทรัพย์ สินเชื่อรายย่อย ธุรกิจบริหารหนี้เสียอย่าง AMC (Asset Management Companies) ที่มี Data ลูกค้ามหาศาล หากแปลงลูกค้าที่มีหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้(NPL)ต่อยอดอีโคซิสเทมเอื้อต่อธุรกิจเอ็นเตอร์เทนเมิร์ซ โดยกิจการใหม่ๆที่กำลังเจรจา ล้วนไปในทิศทางดดังกล่าว 

ยิ่งกว่านั้น การมี Popcoin ถูกที่ถูกเวลา ถือเป็นกลยุทธ์ “ยกระดับ” การเติบโตของอาร์เอสในปีหน้าและปีถัดไปอย่างงมาก ทั้งหมดถือเป็น Wow! Factor ที่จะทำให้อาร์เอสเข้าถึงผู้บริโภคอย่างแข็งแกร่งและสร้างเอ็นเกจเมนต์ได้มากขึ้น สุดท้ายผลลัพธ์ไปตกอยู่ที่ “ผลประกอบการ” ทั้งสิ้น  

จาก “ผู้ตาม” สู่ “ผู้นำ” แกะรอยก้าวต่อไปของ “เฮียฮ้อ” นำทัพพอาร์เอสโต เฮียฮ้อ กับสุนัขแสนรัก Banker ผู้จุดประกายลุยตลาดสัตว์เลี้ยง 39,000 ล้านบาท

อาร์เอส ทรานส์ฟอร์มตัวเองหลายปี จากธุรกิจเดิมสู่ธุรกิจใหม่ จากออฟไลน์ ไปสู่ดิจิทัล และขยับใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนเชื่อมอนาคต การจะอยู่รอดในวันข้างหน้า เทคนิคสำคัญ คือการดูแลธุรกิจให้เหมือนลูก 

หากแม่ทัพ ผู้นำองค์กรดูแลธุรกิจเหมือนลูก สัตว์เลี้ยง ใส่ใจประคบประหงม ติดตามอย่างใกล้ชิดและห่วงใย จะทำให้ไม่ห่างจากตลาดทั้งการแข่งขัน การเปลี่ยนแปลงที่เกิดรอบด้าน และเเพิ่มโอกาสเห็น “เทรนด์” ที่จะเข้ามากระทบธุรกิจเชิงบวกและลบ “ก่อนใครๆ” 

“โลกปัจจุบัน สิ่งสำคัญสุดคือการเปิดรับสิ่งใหม่ๆ มี Mindset ปรับเปลี่ยน มองการเปลี่ยนแปลงเป็นเรื่องสนุก ท้าทาย จะทำให้เราตื่นตัวกับการเปลี่ยนแปลง รู้สัญญาณเมื่อไหร่ถึงเวลาปรับ อย่ารอให้สถานการณ์บีบบังคับแล้วเปลี่ยน คนที่อยู่รอดได้ในโลกวันนี้และโลกวันข้างหน้า ไม่ใช่คนที่แข็งแรงที่สุด แต่คือคนที่พร้อมจะปรับเปลี่ยน ปรับตัว”