TNP คาดผลประกอบการ 4Q64 โต YoY QoQ จากแผนการขยายสาขาและเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่น

TNP คาดผลประกอบการ 4Q64 โต YoY QoQ  จากแผนการขยายสาขาและเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่น

TNP รายงานกำไรงวด3Q64 เท่ากับ 38 ลบ. +25%YoY -14%QoQ ต่ำกว่าคาด 17%: บริษัทรายงานรายได้งวด 3Q64 เท่ากับ 580 ลบ. +11.2%YoY -4.6%QoQ ต่ำกว่าคาด 7%

โดยรายได้คงเติบโต YoY เนื่องจากการขยายสาขาเพิ่มขึ้นอีก 2 แห่งในไตรมาส 3 รวมมีสาขาทั้งหมด 36 สาขา (+6 สาขา YoY +2 สาขา QoQ) อย่างไรก็ดี รายได้หดตัว QoQ จากที่คาดว่าจะเติบโต QoQ เป็นผลจากสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ในช่วง 3Q64 ที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เร่งตัวขึ้นเฉลี่ยเป็น 15,000 ราย/วัน จากช่วง 2Q64 เฉลี่ยที่ 3,000 ราย/วัน ทำให้ผู้บริโภคจับจ่ายใช้สอยนอกบ้านลดลง ประกอบกับวงเงินสนับสนุนจากมาตรการภาครัฐที่น้อยกว่าไตรมาสก่อนหน้า (Table 1) นอกจากนี้ ไตรมาส 3 เป็นช่วง Low season ของปี ขณะที่ %GPM ทรงตัวสูงที่ระดับ 17.3% (จากปีก่อนอยู่ที่ระดับ 16.3%) แต่น้อยกว่าที่เราคาดที่ระดับ 17.9% ส่งผลให้งวด 3Q64 บริษัทมีกำไรสุทธิ 38 ลบ. +25%YoY -14%QoQ ต่ำกว่าคาด 17% ทำให้งวด 9M64 บริษัทมีกำไรสุทธิ 139 ลบ. +55%YoY และคิดเป็น 74% ของประมาณการกำไรปี 64 เดิม ที่ 187 ลบ. 

 

•    ปรับคาดการณ์กำไรปี 64 ลง 5% สู่ 184 ลบ. +37%YoY: เราปรับประมาณการรายได้ปี 64 ลดลง 3% สู่ 2,553 ลบ. +16%YoY โดยเราปรับลดเป้ารายได้ปีนี้ลงหลังจากรายได้งวด 3Q64 ต่ำกว่าคาด 7% อย่างไรก็ดี คาดรายได้คงเติบโต YoY จากแผนขยายสาขาในปีนี้ทั้งหมด 6 สาขา (มากกว่าแผนเดิมที่ 5 สาขา) ซึ่งคาดจะเปิดเพิ่มช่วงปลาย 4Q64 อีก 2 สาขา รวมทั้งหมดเป็น 38 สาขา ณ สิ้นปี 64 ขณะที่สมมติฐาน %GPM เราปรับลงเล็กน้อยสู่ 17.3% จาก 17.4% เนื่องจาก %GPM ในงวด 3Q64 น้อยกว่าที่คาด ส่งผลให้เราคาดกำไรปี 64 ราว 184 ลบ. +37%YoY (ปรับลงจากเดิม 5%) ทั้งนี้ เราคาดแนวโน้มผลประกอบการงวด 4Q64 โต YoY และ QoQ จากแผนขยายสาขาอีก 2 แห่ง และการเข้าสู่ช่วง High Season ขณะที่ปี 65 เราคาดรายได้และกำไรราว 2,815 ลบ. +10%YoY และ 211 ลบ. +16%YoY ตามลำดับ จากแผนขยายสาขาใหม่ในปี 65 อีก 6 สาขา
 

•    คงคำแนะนำ “ซื้อ” และปรับใช้ราคาเหมาะสมปี 65 ที่ 7.20 บาท: เราปรับใช้ราคาเหมาะสม TNP ปี 65 ที่ 7.20 บาท จากราคาเหมาะสมเดิมปี 64 ที่ 6.70 บาท โดยเราคง Prospective PER ที่ระดับ 27.5x (3Yr.Avg.+1.25SD) ซึ่งยังคงต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมที่ระดับ 40x โดยคาดกำไรต่อหุ้นปี 65 ราว 0.26 บาท คำนวณเป็นราคาเหมาะสมปี 65 ราว 7.20 บาท ซึ่งมีอัพไซต์จากราคาปัจจุบัน ส่งผลให้เราคงคำแนะนำ “ซื้อ”

 

ปัจจัยเสี่ยง

i) แนวโน้มการแข่งขันที่รุนแรงขึ้นในอุตสาหกรรมค้าปลีก
ii) แผนการขยายสาขาไม่เป็นไปตามเป้า
iii) การเติบโตของยอดขายสาขาเดิมเริ่มชะลอลง
iiii) ภาครัฐหยุดกระตุ้นเศรษฐกิจ