ICT SECTOR ภาพอุตสาหกรรมดูดี (23 พฤศจิกายน 2564)

ซึ่งจะเป็นบวกต่อ MergeCo ในแง่กฏระเบียบของดีล และจากจำนวนผู้ประกอบการในตลาดที่ลดลง จึงไม่จำเป็นต้องแข่งขันด้านราคา แนะนำ ซื้อ DTAC และ ADVANC  

 

คาดดีลจะแล้วเสร็จกลางปี 2022

DTAC และ TRUE แจ้งต่อ SET ว่าคณะกรรมการบอร์ดมีมติควบรวม DTAC และ TRUE โดยประเด็นสำคัญของมติมีดังนี้; i) สองบริษัทเซ็น MOU ในการศึกษาโอกาสในการควบรวมสองบริษัท โดยขั้นแรกจะเป็นการทำ due diligence ของแต่ละบริษัท รูปแบบการรวมจะเป็นแบบ amalgamation (การรวมเป็นบริษัทใหม่) ซึ่งในรูปแบบนี้จะต้องทำการ swap หุ้นจากหุ้นเดิมของ DTAC และ TRUE เป็นบริษัทใหม่; ii) สัดส่วนการ swap คือ DTAC: 1 หุ้นเดิม: 24.53775 หุ้นบ.ใหม่ และ TRUE: 1 หุ้นเดิม:2.40072 หุ้นบ.ใหม่ จากสัดส่วน swap นี้บริษัทจะมีหุ้นทั้งหมด 138,208,403,204 หุ้นพาร์ 1 บาท; iii) Telenor และ CP group ผู้ถือหุ้นใหญ่ของทั้งสองบริษัทจะจัดตั้ง JV ชื่อ “Citrine Global” เพื่อเป็นบ.สำหรับทำ Tender Offer เพื่อให้ผู้ถือหุ้นเดิม DTAC และ TRUE ที่ไม่ต้องการถือหุ้นบ.ใหม่ขายหุ้น DTAC ที่ราคา 47.76 และ TRUE ที่ราคา 5.09 บาท; iv) ตัวแทนของ Telenor group (Mr. Sigve) และ CP group (คุณศุภชัย) กล่าวในงาน press conference เมื่อวานว่าบริษัทใหม่จะยังเป็นบริษัทสื่อสาร แต่จะขยายไปธุรกิจใหม่ด้วย เช่น ปัญญาประดิษฐ์ (AI), cloud, internet of things, solutions สื่อดิจิตัลและ smart devices ซึ่งบริษัทจะแข่งขันทั้งในธุรกิจสื่อสารและธุรกิจ digital transformation

 

หากควบรวมสำเร็จจะเป็นประโยชน์ต่อทั้งอุตสาหกรรม

ดีลนี้ยังไม่แล้วเสร็จ และยังมีอีกหลายขั้นตอนเช่น due diligence และการอนุมัติตามกฏหมายจากกสทช. (รายละเอียดในบทวิเคราะห์เมื่อวานนี้) เราคาดว่าขั้นตอนก่อนการ swap หุ้นจะเป็นเวลาถึงกลางปี 2022 อุปสรรคใหญ่ที่สุดของดีลนี้มาจากกสทช. แต่เราเชื่อว่ากสทช.จะอนุญาตให้ดีลนี้เกิดขึ้น (เหตุผลตามบทวิเคราะห์เมื่อวานนี้) เราคงมุมมองว่าดีลนี้จะเป็นประโยชน์ต่อทั้งอุตสาหกรรมจากการแข่งขันที่ลดลง

 

DTAC และ ADVANC เป็นหุ้นเด่นre top picks

เราชอบ DTAC และ ADVANC จากราคาหุ้น DTAC ยังต่ำกว่าราคา tender offer และหากดีลไม่เป็นไปตามคาดเรายังคงชอบพื่นฐานที่แข็งแกร่งของ DTAC และเราแนะนำให้นักลงทุน swap หุ้นเนื่องจาก กำไรของ MergeCo มีแนวโน้มดีขึ้นจากการประหยัดต้นทุนและ valuation ที่จะปรับขึ้นตาม ADVANC และในส่วน ADVANC เป็นหุ้นแลคการ์ดของกลุ่ม หากมองภาพการแข่งขันที่ลดลงของกลุ่มในอนาคต