ICT SECTOR ภาวะแวดล้อมเปลี่ยน (22 พ.ย. 64)

ICT SECTOR ภาวะแวดล้อมเปลี่ยน (22 พ.ย. 64)

Telenor เผยว่ากำลังเจรจากับกลุ่ม CP ในการควบรวม DTAC และ TRUE เราเชื่อว่าดีลเพิงเริ่มต้น ปกติขั้นตอนใช้เวลา 9 เดือนหรือจะแล้วเสร็จกลางปี 2022

หากเป็นไปตามแผน MergeCo จะเป็นที่หนึ่งทั้งรายได้และผู้ใช้บริการ ซินเนอร์ยีเกิดในส่วนต้นทุน MergeCO มี pre-market cap ที่ 2.41แสนลบ. หรือส่วนลดจาก ADVANC 60% มองจากการเป็นที่ 1 และซินเนอร์ยีหนุนกำไร MergeCo ค่อนข้างถูก แนวการลงทุนในธีมนี้คือลงทุนในหุ้นที่ถูกกว่าคือ DTAC

 

การเจรจาดีลควบรวมกำลังดำเนินไป

ตามรายงานของ Reuter Telenor ระบุในแถลงการณ์วันศุกร์ ว่าบริษัทและกลุ่ม CP เจรจาควบรวมบริษัทสื่อสารในไทย อย่างไรก็ตามแถลงการณ์ ได้ระบุว่า "มีประเด็นปัญหาอยู่และไม่มีความแน่นอนว่าการเจรจาจะได้ข้อตกลงสุดท้าย" แต่ข่าวผู้ถือหุ้นใหญ่ DTAC และ TRUE เจรจาควบรวมไม่สร้างความประหลาดใจให้เราและตลาดนัก เนื่องจากประเด็นนี้อยู่ในตลาดระยะหนึ่งแล้ว จากความเคลื่อนไหวล่าสุดของ Telenor ในการควบรวมบริษัทลูกในมาเลเซีย หรือ DiGi.Com Bhd บริษัทอันดับ 3 กับ Celcom Axiata Bhd และอันดับ 2 ในตลาด เราเชื่อว่าอุปสรรคอย่างเดียวของดีลนี้คือกฏระเบียบ จากบทสัมภาษณ์กรรมาธิการ กสทช. ศุกร์ที่ผ่านมา เรามองว่า กสทช. ไม่ได้ต้องการห้ามดีลนี้ เนื่องจากประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นโดยเฉพาะการลงทุน 5G แต่มีกฏที่ชัดเจนว่าการควบรวมต้องยังคงการแข่งขันที่ยุติธรรมของธุรกิจไว้ ตัวอย่างเช่นดีลระหว่าง Lotus และ Makro จึงทำให้ดีลนี้หากเกิดขึ้นจะประสบความสำเร็จ

 

 

การควบรวมที่ Win-win

เราเชื่อว่าการควบรวมกิจการครั้งนี้เป็นดีล win-win สำหรับผู้ถือหุ้นของ DTAC และ TRUE โดยประโยชน์ต่อ DTAC มีดังนี้ i)สามารถประหยัดต้นทุน 5G ได้อย่างมาก ตั้งแต่ต้นทุนประมูลและการลงทุน หลังควบรวม TRUE, DTAC สามารถให้บริการ 5G กับลูกค้าได้โดยไม่มีต้นทุน 5G เพิ่ม; ii) DTAC เปลี่ยนจากบริษัทยุโรปเป็นไทย การให้บริการ 5G เหมาะสำหรับภาคอุตสาหกรรมมากกว่าผู้บริโภค ดังนั้นแพลตฟอร์ม 5G จำเป็นต้องมีระบบนิเวศและพันธมิตร และการเป็นบริษัทไทยจะช่วย DTAC หาพันธมิตรทางธุรกิจง่ายกว่าเป็นบริษัทต่างชาติ ประโยชน์ต่อ TRUE มีดังนี้ i) การใช้ประโยชน์ทรัพย์สินดีขึ้น โดยเฉพาะ 5G เนื่องจากลูกค้าที่เพิ่มขึ้น; ii) การลดต้นทุนหรือเงินลงทุนซ้ำซ้อน เช่น ร้านค้า, พนักงาน, ออฟฟิศและค่าการตลาด

 

คาดการแข่งขันจะลดลง

ธุรกิจมือถือจะเปลี่ยนจากผู้ประกอบการสามราย เป็นสองราย โดยมี bandwidth, ฐานลูกค้าและโมเดลธุรกิจใกล้เคียงกัน จากความใกล้เคียงนี้ ทำให้ไม่มีความจำเป็นในการแข่งขันด้านราคาที่จะกดดันอัตรากำไร การแข่งขันจะเน้นไปที่การให้บริการเครือข่ายที่กว้างและดีกว่า ดังนันอัตราการทำกำไรจะดีขึ้นในอนาคต

 

DTAC เป็นหุ้นเด่น

เราชอบ DTAC เป็นหุ้นเด่นเป้าหมาย 48 บาท จากปัจจัยพื้นฐานของ DTAC และ EV/EBITDA ถูกกว่าเทียบกับบริษัทอื่น แม้ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งในช่วงที่ผ่านมา แต่ DTAC อยู่ที่ระดับ 5x EV/EBITDA เทียบกับบริษัทอื่นที่ 7x สะท้อนว่า DTAC สามารถเรียก valuation ที่ในแง่การควบรวม รวมถึงแนวโน้มกำไรที่ดีขึ้น