"ต่างชาติ" ซื้อหุ้นไทย 3.5 หมื่นล้าน โบรกมั่นใจโค้งท้ายลงทุนเพิ่ม

"ต่างชาติ" ซื้อหุ้นไทย 3.5 หมื่นล้าน โบรกมั่นใจโค้งท้ายลงทุนเพิ่ม

“บล.เมย์แบงก์ฯ” ชี้ ต่างชาติซื้อสุทธิกว่า 3 เดือนติด 3.5 หมื่นล้าน ตอบรับโควิดผ่านจุดพีค-เปิดประเทศ-เงินบาทแข็ง คาดทั้งปีพลิกซื้อสุทธิ จากปัจจุบันขายสุทธิสะสม 5.7 หมื่นล้าน “บล.ยูโอบีฯ” คาด MSCI เพิ่มน้ำหนักหุ้นไทย หนุนฟันด์โฟลว์ไหลเข้า

กลุ่มนักลงทุนต่างประเทศพลิกกลับมาซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทยในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา (ส.ค.-ต.ค.) อยู่ที่ 5,439.71 ล้านบาท 11,137.22 ล้านบาท และ 15,886.15 ล้านบาท ตามลำดับ อีกทั้งยังซื้อสุทธิต่อเนื่องในช่วงต้นเดือน พ.ย. (1-10 พ.ย.) 1,707.66 ล้านบาท

นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า กระแสเงินลงทุน (ฟันด์โฟลว์) ของกลุ่มนักลงทุนต่างชาติ ไหลกลับเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยรอบนี้กลับเข้ามาซื้อสุทธิตั้งแต่ช่วงกลางเดือน ส.ค.2564 มูลค่ารวมกว่า 3.5 หมื่นล้านบาท จากปัจจัยหนุนยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ผ่านจุดพีค และการประกาศเปิดประเทศ

นอกจากนี้ คาดว่าในช่วงที่เหลือของปี 2564 ฟันด์โฟลว์จะยังซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทยต่อเนื่อง จากปัจจัยหนุนความคาดหวังเศรษฐกิจไทยจะฟื้นตัวในปี 2564 และปี 2565 การเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวและแนวโน้มค่าเงินบาทที่กลับมาแข็งค่า โดยเชื่อว่ายอดซื้อขายของฟันด์โฟลว์ในปี 2564 มีโอกาสพลิกกลับมาซื้อสุทธิอ่อนๆ จากต้นปีถึงปัจจุบันยอดขายสุทธิสะสมลดลงเหลือ 5.7 หมื่นล้านบาท จากเดิมที่ระดับ 1 แสนล้านบาท

ขณะที่แนวโน้มฟันด์โฟลว์ปี 2565 คาดว่าจะเป็นยอดซื้อสุทธิ จากแรงหนุนเศรษฐกิจไทยกลับมาเติบโตระดับ 3-4% กำไรบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ที่คาดว่าจะเติบโต 15-20% และโอกาสขาขึ้น (อัพไซด์) ของตลาดหุ้นไทยที่นักวิเคราะห์ให้เป้าหมายดัชนีไว้ค่อนข้างสูงระหว่าง 1,700-1,800 จุด ขณะที่ปัจจุบันยังเคลื่อนไหวอยู่ที่บริเวณ 1,600 จุดต้นๆ เท่านั้น

นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา (1-9 พ.ย.) นักลงทุนต่างชาติกลับมาซื้อหุ้นไทยประมาณ 3 พันล้านบาท และมีโอกาสที่จะเห็นการกลับมาซื้ออย่างต่อเนื่อง โดยได้ปัจจัยหนุนจากการกระแสการย้ายกลุ่มลงทุน (Sector Rotation) ที่เกิดขึ้นทั่วโลก จากกลุ่มหุ้นที่ได้ประโยชน์จากโควิด-19 มายังกลับหุ้นที่เคยเสียประโยชน์จากโควิด-19 เช่น การท่องเที่ยว

นอกจากนี้ตลาดหุ้นไทยมีโอกาสได้รับการปรับเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในดัชนีตลาดหุ้นโลก (MSCI Rebalancing) ของกลุ่มประเทศเกิดใหม่ (Emerging Markets) ที่จะประกาศวันที่ 11 พ.ย.ซึ่งประเทศไทย จะทราบผลในวันที่ 12 พ.ย. 2564 ภายหลังตลาดหุ้นจีนและตลาดหุ้นฮ่องกงปรับตัวลงต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้มีความเสี่ยงถูกปรับลดน้ำหนักการลงทุน และจะส่งผลให้ประเทศอื่นๆ ใน Emerging Markets รวมถึงประเทศไทย ได้รับการปรับน้ำหนักการลงทุนเพิ่มขึ้น